posttoday

ฟังความ2ด้าน! หญิงอ้างตร.ขี่รถชนล้ม จนท.แจงทำผิดแล้วหนีต้องสกัดจับ

26 สิงหาคม 2562

หญิงสาวอ้างถูกตำรวจทำเกินกว่าเหตุ ขี่รถชนล้ม-บีบคอ หลังถูกเรียกตรวจเพราะไม่สวมหมวกกันน็อค-ไม่พกใบขับขี่ เจ้าหน้าที่แจงทำผิดแล้วหนีก็ต้องสกัดจับ ยืนยันไม่ได้ทำร้ายแต่คู่กรณีพยายามผลักจึงยกมือป้องกัน

หญิงสาวอ้างถูกตำรวจทำเกินกว่าเหตุ ขี่รถชนล้ม-บีบคอ หลังถูกเรียกตรวจเพราะไม่สวมหมวกกันน็อค-ไม่พกใบขับขี่ เจ้าหน้าที่แจงทำผิดแล้วหนีก็ต้องสกัดจับ ยืนยันไม่ได้ทำร้ายแต่คู่กรณีพยายามผลักจึงยกมือป้องกัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่มีหญิงสาวรายหนึ่งโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมบริเวณริมถนนใต้สะพานเดชาติวงศ์ อ.เมือง จ.นครสวรรค์ เนื่องจากไม่ได้สวมหมวกกันน็อคและไม่ได้พกใบขับขี่ และเกิดการกระทบกระทั่งกัน โดยหญิงสาวได้พยายามขี่รถออกมาจากจุดดังกล่าวทำให้รถไปเกี่ยวเจ้าหน้าที่ล้มลง พร้อมอ้างว่าถูกเจ้าหน้าที่ขี่รถจักรยานยนต์ติดตามและพุ่งชนจนล้มได้รับบาดเจ็บ

ผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยังหญิงสาวรายนี้และได้รับการเปิดเผยว่า สิ่งที่โพสต์เล่าเรื่องราวผ่านเฟซบุ๊กในกลุ่มข่าวสาธารณะ จ.นครสวรรค์ เป็นความจริงทั้งหมด ซึ่งในวันนั้น กำลังขับขี่รถจักรยานยนต์เดินทางไปเรียนปริญญาโทที่มหาวิทยาลัย แต่ตนไม่ได้สวมหมวกกันน็อค และไม่ได้พกใบขับขี่มา จึงทำให้ถูกตำรวจจราจรเรียกจับที่บริเวณสี่แยกเดชาติวงศ์ ซึ่งตนก็ยอมรับว่าผิด แต่ตนก็พยายามต่อรอง โดยขอให้ยึดบัตรประชาชนของตนเอาไว้ แล้วจะรีบขี่รถไปกดเงินที่ตู้เอทีเอ็มมาจ่ายค่าปรับให้ แต่ตำรวจก็ยังไม่ยินยอม และพยายามจะยึดรถตน พร้อมกับระบุว่าต้องมาเสียค่าปรับ จำนวน 400 บาท จึงจะรับรถคืนไปได้

จากนั้นได้เกิดการโต้เถียงกัน ตนยอมรับว่า ช่วงเวลานั้นทำให้ตนอารมณ์เสีย เพราะกำลังจะรีบไปเรียน อีกทั้ง เมื่อร้องขอให้ออกใบสั่งแล้วจะไปเสียค่าปรับในภายหลัง ตำรวจนายนั้นก็ยังไม่ยอมอีก จึงทำให้ตนตัดสินใจขี่รถออกมา เพราะเห็นว่าได้ให้บัตรประชาชนไปแล้ว และไม่ได้มีเจตนาจะหนี เพียงแค่จะรีบไปกดเงินมาจ่ายค่าปรับให้ แล้วจะรีบไปเรียนเท่านั้น แต่ปรากฏว่า ในช่วงที่ตนขี่ออกมา เป็นจังหวะเดียวกันกับตำรวจพยายามกระชากตน จึงทำให้รถไปเกี่ยวตัวตำรวจจนล้มลง จนเกิดการขับรถไล่ตามกันเกิดขึ้น

หญิงสาวรายนี้กล่าวอีกว่า ในช่วงที่ขับขี่ไล่ตามกัน โดยเริ่มตั้งแต่บริเวณสี่แยกไปจนถึงใต้สะพานเดชาติวงศ์ ตนจึงได้จอดรถรถรอริมทางเพื่อจะพูดคุยอธิบายให้เข้าใจอีกรอบ แต่ปรากฏว่า ตำรวจนายนั้น ซึ่งขี่รถจักรยานยนต์ตามมา ได้พุ่งมาชนกลางรถอย่างจังจนรถล้มคว่ำ เมื่อลุกขึ้นมาก็ถูกตำรวจบีบคอ ซึ่งขณะนั้น ก็มีชาวบ้านรายหนึ่งที่เห็นเหตุการณ์ เข้ามาช่วย พร้อมกับถ่ายคลิปเอาไว้ก่อนจะมีการนำไปโพสต์บนเฟซบุ๊กในกลุ่มข่าวสาธารณะ ตนจึงต้องเข้าไปโพสต์ตอบถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมด

หลังเกิดเหตุได้เดินทางไปที่ สภ.เมืองนครสวรรค์ พยายามจะแจ้งความ แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ให้ไปพูดคุยไกล่เกลี่ยกับตำรวจคู่กรณีก่อน แต่ขณะนั้นตนรู้สึกมีอาการเจ็บปวดจากการถูกชน จึงตัดสินใจให้แฟนขับรถพาไปส่งตรวจดูอาการที่โรงพยาบาลก่อนจะให้แฟนเดินทางกลับมายังโรงพักเพื่อแจ้งความเอาเรื่องอีกครั้ง แล้วก็พบว่า ถูกตำรวจจราจรรายนี้แจ้งความเอาเรื่องตนไว้ก่อนแล้วว่าไปทำร้ายร่างกาย แต่ตนก็แจ้งความกลับฐานทำร้ายด้วยเช่นกัน

หญิงสาวกล่าวอีกว่า ขณะนี้รู้สึกมีความกังวล และเครียดอย่างมาก โดยเตรียมจะไปติดต่อทางเทศบาลนครนครสวรรค์เพื่อขอภาพจากกล้องวงจรปิดตั้งแต่บริเวณสี่แยกไปจนถึงใต้สะพานเดชาติวงศ์เพื่อนำมาเป็นหลักฐานในการยืนยันว่าถูกกระทำเกินกว่าเหตุ

ต่อมา ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อสอบถามไปยังตำรวจจราจรคู่กรณี ซึ่งเป็น สารวัตรตำรวจจราจร สภ.เมืองนครสวรรค์ ได้รับการชี้แจงว่า ขณะที่กำลังปฏิบัติงานอำนวยการจราจรบริเวณสี่แยกเดชาติวงศ์ ก็พบเห็นหญิงสาวคู่กรณีขับขี่รถจักรยานยนต์ มาจอดรถติดสัญญาณไฟ ในสภาพไม่สวมหมวกกันน๊อค จึงได้เรียกตรวจก่อนจะทำการจับปรับในข้อหาไม่สวมหมวกกันน๊อคและไม่พกพาใบขับขี่

"ผมปฏิบัติงานด้านจราจรมานานหลายปี ผมจะไม่อนุญาตให้คนที่ขับขี่รถแล้วไม่พกใบขับขี่กลับไปขับขี่รถบนท้องถนนต่ออย่างเด็ดขาด ไม่เช่นนั้น ก็จะถูกข้อครหาว่าละเว้นขณะกำลังปฏิบัติหน้าที่ ผมจึงตัดสินใจจะขอยึดรถไว้ โดยบอกให้หญิงสาวกลับไปเอาใบขับขี่มาแสดงพร้อมกับเสียค่าปรับ ซึ่งในระหว่างที่กำลังเขียนใบสั่งอยู่นั้น หญิงสาวคู่กรณีกลับรีบออกรถไปอย่างรวดเร็ว จนทำให้ผมโดนชนล้มกางเกงขาด และที่ขามีรอยถลอก แถมรถยังลากผมไปกับถนนอีก 3-4 เมตรด้วย ผมเห็นว่าลักษณะนี้คือการทำร้ายในระหว่างที่เจ้าหน้าที่กำลังปฏิบัติหน้าที่ จึงขี่จักรยานยนต์ไล่ตาม จนเกิดการชนกัน เนื่องจากขณะกำลังขับขี่ไล่ตามกันอยู่นั้น เป็นช่วงจังหวะที่ใช้ความเร็ว และทางก็เป็นทางโค้งด้วย จึงทำให้รถไปเกี่ยวกัน"

“ช่วงที่ผมกำลังเขียนใบสั่ง ได้สังเกตเห็นน้องผู้หญิง พูดคุยโทรศัพท์มือถือต่อว่าใครอยู่ตลอด น่าจะอารมณ์เสียมากๆ แต่ผมก็ไม่ได้ซีเรียสอะไร ก็เขียนใบสั่งต่อจนเกิดเหตุการณ์ขับขี่รถกระชากชนผมจนล้ม และไล่ตามสกัดจนเกิดการชนกัน ผมยืนยันเลยว่า หลังจากที่เกิดการชนกันแล้ว ผมพยายามยกมือกันตัวเองตลอด เพราะน้องผู้หญิงพยายามผลักผมและต่อว่าด่าทอผมตลอดเวลา ผมจึงต้องยกมือป้องกันตัวเอง ไม่ใช่เป็นการไปทำร้ายเขาแต่อย่างใด” สารวัตรตำรวจจราจร สภ.เมืองนครสวรรค์กล่าว