ตร.ภาค7จับ2โจรลักอุปกรณ์ยึดเหนี่ยวรางรถไฟคาดทำเป็นขบวนการ

เพชรบุรี-ตำรวจภาค7แถลงจับ2คนร้ายขโมยจานรองรางอุปกรณ์ยึดเหนี่ยวรางรถไฟเป็นเหตุให้โบกี้ตกรางจำนวน6ตู้ สารภาพเอาไปขายร้านของเก่าได้เงินพันกว่าบาท

พล.ต.ท.ธนา ชูวงศ์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค7 พล.ต.ต.กฤษณะ ทรัพย์เดช รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 พล.ต.ต. สุพัฒน์ เชยชิด รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 พล.ต.ต.สุรศักดิ์ สุขแสวง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พลต.ต.เทียนชัย คามะปะโส ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเพชรบุรี ได้ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุมผู้ก่อเหตุ งัดเอาอุปกรณ์ประกอบรางรถไฟ เช่น จานรองราง และเครื่องยึดเหนี่ยวราง ไปขายร้านรับซื้อของเก่า จนเป็นสาเหตุให้รถไฟตกรางเหตุจำนวน 6 โบกี้ ขณะวิ่งออกไปจากสถานีรถไฟห้วยทรายใต้ อำเภอชะอำ มุ่งหน้าสถานีรถไฟหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เมื่อเวลา12.20 น.วันที่ 19 ส.ค.62

พล.ต.ท.ธนา ชูวงศ์ ผบช.ภ.7 เปิดเผยว่า ผู้ต้องหาได้ 2 คน เป็นเจ้าของร้านรับซื้อของเก่า คือ นายศุภชัย ผาดศรี อายุ 23 ปี พร้อมด้วยของกลาง แผ่นรองรางรถไฟ จำนวน 25 แผ่น และเครื่องยึดเหนี่ยว จำนวน 66 ตัว ภายในร้านรุ่งเจริญ 2 รับซื้อของเก่า ริมถนนเพชรเกษม ขาล่องใต้ ต.ชะอำ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี โดยมีหลักฐานสำคัญเป็นภาพจากกล้องวงจรปิด ผู้ต้องหาคนที่สองคือ นาย สมปอง คล้ายคลึง อายุ 54 ปี ขับรถยนต์กระบะนำของกลางมาขายที่ร้าน

สอบสวน นายศุภชัย เจ้าของร้านเล่าว่าเมื่อวันที่13 ส.ค. 62 วันเกิดเหตุ ได้มีชาย 2 ราย ขับรถยนต์กระบะสีขาว ยี่ห้อ Nissan เลขทะเบีย บธ-5468 เพชรบุรี สภาพเก่าเข้ามาจอดภายในร้านนำเศษเหล็กจำนวน 25 แผ่น และสกรูจำนวน 66 ตัว มาขายให้กับตนภายในร้านจึงได้รับซื้อไว้ตามปกติ ในราคากิโลกรัมละ 2 บาท แต่ไม่ได้ขอถ่ายบัตรประชาชนไว้เนื่องจากขณะนั้นมีลูกค้าเข้ามาขายเศษเหล็กภายในร้านหลายราย

ส่วนนาย สมปองคล้ายคลึง อายุ 54 ปี ได้ให้การว่า ไม่ได้ลงมืองัดแงะแผ่นเหล็กรองรางและหมุดยึดรางรถไฟแต่ยอมรับว่า ไปพบกองอยู่และได้ขนมาขายได้เงินเพียงพันกว่าบาทเท่านั้น

เวลาต่อมา พล.ต.ท.ธนา ชูวงศ์ ผบช.ภ.7 ได้เดินทางไปตรวจสอบจุดเกิดเหตุรถไฟตกราง ทั้งนี้เจ้าหน้าที่การรถไฟแห่งประเทศไทย ได้ซ่อมรางเสร็จพร้อมเปลี่ยนหมอนรางไฟใหม่เป็นหมอนคอนกรีตหมดแล้ว จำนวน 20ท่อน แทนหมอนไม้แบบเก่า ซึ่งหมอนชนิดนี้ ไม่ใช้เหล็กจานรองและตะปูยึดรางแบบเดิมที่ถูกขโมยไป

ทั้งนี้ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ยังได้นำแผ่นเหล็กรองราง มาตรวจสอบพร้อมเทียบเคียงกับหมอนรางรถไฟที่ซ่อมเสร็จแล้ว คดีดังกล่าวนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจคาดว่าคนร้ายน่าจะทำงานเป็นขบวนการ เพราะการจะถอดตะปูและแผ่นรองรางไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องมีอุปกรณ์หรือเครืองมือ อีกทั้งของกลางยังมีน้ำหนักมาก

ส่วนผู้ต้องหาในกล้องวงจรปิดอีก 1 รายคือ จิรศักดิ์ คล้ายคลึง กำลังเร่งติดตามตัวมาสอบสวนดำเนินคดีต่อไป