อดีตหัวหน้าชุดฉก.พิทักษ์ป่าแฉถูกย้ายเพราะขวางแก๊งตัดไม้พะยูง

นครราชสีมา-หัวหน้าชุดเฉพาะกิจอส.พิทักษ์ป่าฯแฉถูกสั่งเพราะขวางแก๊งตัดไม้พะยูงป่าเขาภูหลวงปักธงชัยมีเจ้าหน้าที่รัฐร่วมนายทุนต่างชาติลำเลียงส่งนอก

นายปัญญาวัฒน์ ศุภลักษณ์ อดีตหัวหน้าชุดเฉพาะกิจ อาสาสมัครพิทักษ์รักษ์อุทยานแห่งชาติ เขตห้ามล่าสัตว์ป่า ป่าเขาภูหลวง อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเดือนเมษายน 2561ได้รับการติดต่อขอให้เป็นชุดเฉพาะกิจอาสาสมัครฯ เข้าร่วมปฏิบัติการเฝ้าระวังป้องกันการลักลอบตัดไม้พะยูง ในพื้นที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าเขาภูหลวง ซึ่งเป็นเป้าหมายของนายทุนต่างชาติที่จะส่งขบวนการลักลอบตัดไม้เข้ามาตัดเพื่อส่งไปขายยังต่างประเทศชุดเฉพาะกิจฯได้มีการระดมทีมงานกว่า 20 คนลงพื้นที่ลาดตระเวนและกวาดล้างจับกุมขบวนการลักลอบตัดไม้พะยูงอย่างเข้มข้นสามารถจับกุมผู้กระทำความผิดได้หลายสิบราย และยึดของกลางเป็นไม้พะยูงที่ถูกตัดเป็นท่อนๆ ทิ้งไว้ในป่าได้หลายร้อยท่อน

นอกจากนี้ยังสืบทราบว่าขบวนการลักลอบตัดไม้พะยูงนี้ มีเจ้าหน้าที่รัฐหลายคน เข้าไปเกี่ยวข้องด้วยมีการทำงานเป็นเครือข่ายตั้งแต่การติดต่อชาวบ้านในพื้นที่ให้ไปชี้เป้า การส่งคนไปลักลอบตัดไม้ การนำไม้มากองรวมไว้เพื่อรอการเคลื่อนย้าย และการเคลียร์ทางขนไม้ออกจากพื้นที่ โดยมีการจ่ายเงินให้กับระดับหัวหน้าหน่วยเพื่ออำนวยความสะดวก ซึ่งชาวบ้านที่เข้าไปตัดจะได้ค่าจ้างคนละประมาณ 10,000 บาทต่อครั้ง

ส่วนเจ้าหน้าที่รัฐจะได้คนละหลายหมื่นถึงหลักแสนบาทต่อการขนย้ายไม้พะยูงออก 1 ครั้ง โดยรถที่จะเข้ามาขนย้ายออก ส่วนใหญ่จะเป็นรถเก๋งที่ทำการดัดแปลงเพื่อให้สามารถซุกท่อนไม้ขนออกไปได้สะดวก และไม่ให้ผิดสังเกตของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ตั้งด่านตรวจตามรายทาง หลังจากนั้นจะขนออกนอกประเทศเพื่อส่งให้กับนายทุนต่างชาติต่อไป

ภายหลังจากที่ชุดเฉพาะกิจฯเข้าไปปฏิบัติหน้าที่ป้องกันและปราบปรามอย่างเข้มข้นก็ทำให้เจ้าหน้าที่รัฐที่อยู่ในขบวนการไม่พอใจ เพราะเข้าไปขัดผลประโยชน์ของเขา จึงได้มีการทำเรื่องตั้งชุดเฉพาะกิจใหม่เข้ามาแทนที่ชุดของตนเอง โดยชุดเฉพาะกิจใหม่เขาสามารถสั่งการได้ทุกคน ทำให้ชุดของตนต้องถูกสั่งย้ายให้ไปช่วยงานในพื้นที่อื่นแทน เพื่อไม่ให้ไปขวางขบวนการลักลอบตัดไม้พะยูงป่าเขาภูหลวงได้อีก

ดังนั้นจึงรู้สึกเป็นห่วงพื้นที่ป่าเขาภูหลวงมาก เพราะในพื้นที่ดังกล่าวจะพบต้นไม้พะยูงขึ้นอยู่ทุกจุด และกำลังถูกขบวนการเหล่านี้ทำการตัดไม้พะยูงไปขายให้นายทุนต่างชาติอย่างสะดวกสบาย โดยไม่เกรงกลัวกฎหมายใดๆ ซึ่งจะทำให้ไม้พะยูงป่าเขาภูหลวงมีปริมาณลดลงอย่างรวดเร็วจึงอยากออกมาตีแผ่ให้สังคมทั่วไปรับรู้เรื่องราวเหล่านี้ เพื่อที่จะได้ช่วยกันรักษาไม้พะยูงป่าเขาภูหลวงไว้เป็นสมบัติของชาติ ไม่ให้ขบวนการเหล่านี้ตัดไปขายเพื่อประโยชน์ส่วนตัวอย่างที่เป็นอยู่ในขณะนี้.