posttoday

ชาวบ้านร้องศูนย์ดำรงธรรมอบต.ตะเคียนเตี้ยไม่เหลียวแลที่แท้รุกสปก.

24 กรกฎาคม 2562

ชลบุรี-โอละพ่อ!ชาวบ้านร้องเทศบาลตำบลตะเคียนเตี้ยไม่ดูแลที่แท้จริง59ครัวเรือนรุกที่สปก. นายกอบต.แจงดูแลมาตลอดในฐานะคนไทยด้วยกันไม่เคยขับไล่

ชลบุรี-โอละพ่อ!ชาวบ้านร้องเทศบาลตำบลตะเคียนเตี้ยไม่ดูแลที่แท้จริง59ครัวเรือนรุกที่สปก. นายกอบต.แจงดูแลมาตลอดในฐานะคนไทยด้วยกันไม่เคยขับไล่

นายมานพ ประกอบธรรม นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลตะเคียนเตี้ย อ.บางละมุง จ.ชลบุรี เปิดเผยกรณีชาวบ้านพื้นที่หมู่ 5 ตำบลตะเคียนเตี้ยกว่า 59 ครัวเรือน เข้าร้องเรียนไปยังศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดชลบุรีว่าเทศบาลตำบลตะเคียนเตี้ย ปล่อยปละละเลยไม่ใส่ใจความเป็นอยู่ทำให้ชาวบ้านต้องเผชิญเคราะห์กรรมไม่ได้รับการดูแลพัฒนาด้านระบบสาธารณูปโภค ทั้งถนนสาธารณะ น้ำประปา ไฟฟ้า ว่า ได้ลงพื้นที่สร้างความเข้าใจกับชาวบ้านแล้ว สิ่งที่ชาวบ้านร้องเรียนเป็นเรื่องไม่จริงที่ผ่านมาทางเทศบาลได้ช่วยเหลือตลอดเท่าที่จะทำได้แต่เนื่องจากพื้นที่ซึ่งชาวบ้านไปทำการปลูกพักบ้านเรือนที่อยู่อาศัยเป็นที่ดินของสปก. ซึ่งรัฐมอบให้ไว้ใช้ทำการเกษตรได้เพียงอย่างเดียวไม่สามารถนำไปใช้ทำอย่างอื่นได้และเทศบาลไม่มีหน้าที่เข้าไปดำเนินการในการขับไล่ได้แจ้งไปยังสำนักงานปฏิรูปที่ดินแล้วว่าปัจจุบันมีการบุกรุกซึ่งก็ยังไม่ได้ดำเนินการอะไรกระทั่งมีการร้องเรียนเกิดขึ้น

"เมื่อ30ปีที่ผ่านมาก็พบว่าพื้นที่ดังกล่าวชาวบ้านในตำบลตะเคียนเตี้ยดั้งเดิมก็ได้อาศัยพื้นที่ดังกล่าวในการทำเกษตรจริง เพราะมีจำนวนประชาชนกรเพียง 100 กว่าคนเท่านั้น แต่จนถึงปัจจุบันพบว่ามีประชาชนเข้ามาบุกรุกปลูกสร้างบ้านเรือนที่พักอาศัยในบริเวณดังกล่าวกว่า 296 ครัวเรือน มีจำนวนประชากรจำนวนทั้งสิ้นถึง 1,231 คน ถามว่าทำไมทางเทศบาลถึงเพิกเฉยเกษตรก็ต้องยอมรับว่าเห็นใจคนไทยด้วยกัน เพราะถ้าเทศบาลทำการลงไปขับไล่ก็จะเหมือนเป็นการกลั่นแกล้งกัน ที่สำคัญที่ดินในหมู่นี้ก็เป็นที่ดินสำนักงานปฏิรูปที่ดินเทศบาลจึงไม่มีหน้าที่เข้าไปดำเนินการในการขับไล่แต่อย่างใด" นายมานพ กล่าว

ที่ผ่านมาเทศบาลดูแลพี่น้องประชาชนมาอย่างดีไม่เคยทอดทิ้ง ประชาชนต้องการไฟฟ้าใช้ ทางเทศบาลก็ได้แนะนำว่าต้องไปทำเรื่องถึงสำนักงานปฏิรูปที่ดินในฐานะเจ้าของที่ดิน จาก นั้นถึงจะดำเนินการต่อให้จึงถือว่าให้ความช่วยเหลือและให้คำแนะนำเป็นอย่างดี ส่วนเรื่องของการพัฒนาถนนหนทางนั้นที่ผ่านมาก็ไม่เคยทอดทิ้ง เพียงแต่ว่าในการดำเนินการนั้นต้องได้รับการตอบรับ หรือ คำยืนยันจากทาง สปก.ก่อนว่าเป็นทางสาธารณะประโยชน์ และอนุญาตให้ทางเทศบาลเข้าไปทำการพัฒนาได้หรือไม่ ถึงจะสามารถเข้าไปพัฒนาพื้นที่ดังกล่าวได้จนทำให้การแก้ไขเป็นไปด้วยความล่าช้า เพราะหากทางเทศบาลเขาไปดำเนินการโดยพละการ แล้วทางสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินทำการตรวจสอบแล้วพบว่าเป็นที่ดินจาก สปก.ไม่ใช่พื้นที่ที่ทางเทศบาลดูแล ก็อาจมีการถูกเรียกเงินคืนจากผู้บริหารได้ ดังนั้นการดำเนินพัฒนาในพื้นที่หมู่ 5 นั้นจึงต้องเป็นไปด้วยความรอบคอบ

อย่างไรก็ตามทางเทศบาลก็ยังคงดูแลความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนในหมู่ 5 เหมือนเดิม แต่ก็อยากจะให้เข้าใจถึงขอบเขตการทำงานของทางเทศบาลด้วย.