บุกยึกทรัพย์ส.จ.นราธิวาสตัวเบิ้มขบวนการค้ายาเสพติด

นราธิวาส-รอง ผบ.ตร.นำเจ้าหน้าที่บุกยึดทรัพย์ส.จ.นราธิวาสร่วม 50 ล้าน พบเป็นตัวการใหญ่ขบวนการค้ายาเสพติดภาคใต้เพื่อส่งต่อต่างประเทศ

เมื่อวันที่ 23 ก.ค. พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร.เดินทางมายังกองบังคับการกรมทหารพรานที่ 11 ต.โล๊ะจูด อ.แว้ง จ.นราธิวาส โดยมี พล.ต.ท.ชินภัทร สารสิน ผบช.ปส. พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ ผบช.ภ.9 พล.ต.สมดุลย์ เอี่ยมเอก ผบ.ฉก.นราธิวาส พล.ต.ต.ดุษฎี ชูสังกิจ ผบก.ภ.จว.นราธิวาส และ เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องให้การต้อนรับ และเข้าห้องประชุมรับฟัง

พล.ต.ท.ชินภัทร สารสิน ผบช.ปส. กล่าวบรรยายสรุปการตรวจค้นเป้าหมาย จำนวน 17 จุด ตรวจยึดทรัพย์สินมูลค่าร่วม 50 ล้านบาทของนายการียา เจะมามะ อายุ 58 ปี ส.จ.นราธิวาส ซึ่งป็นผู้ต้องหาค้ายาเสพติดรายใหญ่ในพื้นที่ภาคใต้ ตามหมายจับศาลอาญา ที่ 313/2562 ลงวันที่ 12 ก.ค.62ในข้อหา ร่วมกันมียาเสพติดประเภท 1 ไอซ์หรือเมทแอมเฟตามีน ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต จากการซักทอดของนายเปาะสา ดิง และนายกอเซ็ง นิเกาะ 2 ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมได้เมื่อวันที่ 7 ก.ค. 62 ที่ผ่านมา ณ ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.บางกล่ำ จ.สงขลา พร้อมยาไอซ์ จำนวน 459 ก.ก.

หลังจากการรับฟังบรรยายสรุป พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ได้เดินทางไปยังบ้านเลขที่ 6 ม.1 ต.โล๊ะจูด อ.แว้ง จ.นราธิวาส บ้านของนายการียา เจะมามะ ส.จ.นราธิวาส ที่ถูกออกหมายจับ โดยพบกับนางเจะอาสะนอ เจะมามะ แม่ของนายการียา และสมาชิกในครอบครัว รวม 4 คน โดย พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ได้มีการพูดคุยสอบถามถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น และได้บอกให้นางเจะอาสะนอประสานลูกชายให้เข้ามอบตัวโดยจะให้ความเป็นธรรมทุกอย่าง

สำหรับ ของกลางที่เจ้าหน้าที่ ปปส.ทหารและตำรวจ ขยายผลตรวจยึดของกลางเพิ่มเติมมาได้จำนวน 25 รายการ แยกเป็น บ้าน 3 หลัง รถยนต์ 3 คัน จยย. 1 คัน สมุดบัญชีธนาคารต่างๆ 9 เล่ม โฉนดที่ดิน 8 แปลง มีมูลค่าร่วม 50 ล้านบาท โดยของกลางทั้งหมดเจ้าหน้าที่จะนำไปตรวจสอบถึงที่มาที่ไป

ด้าน พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ กล่าวว่า การจับกุมขบวนการลำเลียงค้ายาเสพติดครั้งล่าสุดจับได้เกือบ 460 กิโลกรัม มีการขยายผลจนสืบทราบว่า ตัวการค่อนข้างใหญ่ก็คือผู้ต้องหารายนี้ การขยายผลจำเป็นต้องใช้มาตรการในการยึดทรัพย์ ก็เลยได้มีการประสานทุกหน่วยไม่ว่า จะเป็นตำรวจภูธร ภาค 9 ทหาร ฝ่ายปกครอง ปปส. และ ปปง.โดยได้มีการตรวจค้นเป้าหมาย 17 จุด มีมูลค่าทรัพย์สินยึดมาได้ร่วม 50 ล้านบาท ซึ่งผู้ต้องหารายนี้เป็นรายใหญ่สั่งของมาแล้วส่งไปยังต่างประเทศ