เตือนภัยสาวแสบตีสนิทยายวัย80ก่อนขโมยเงิน-สร้อยทองคำหนีลอยนวล

บุรีรัมย์-สาวแสบตีสนิทแม่เฒ่าวัย80อ้างเป็นเพื่อนกับลูกสาวเหยื่อทำงานอยู่กทม.ออกอุบายหิวข้าวก่อนฉวยโอกาสขโมยเงินสร้อยทองคำ1บาทหนีลอยนวล

ที่อ.นาโพธิ์ จ.บุรีรัมย์มีมิจฉาชีพหญิงไปหลอกตีสนิทผู้สูงอายุที่อยู่บ้านลำพัง แล้วฉวยโอกาสเข้าไปขโมยเงินสดและสร้อยคอทองคำรูปพรรณ ก่อนจะขับรถจักรยานยนต์หลบหนีไป เหตุเกิดขึ้นที่บ้านเลขที่ 74 ม.9 บ้านหนองหญ้ารังกา ม.9 ต.นาโพธิ์ อ.นาโพธิ์ จ.บุรีรัมย์ ผู้เสียหายคือนางนวลศรี สิงห์ไธสง อายุ 80 ปี และนายลี สิงห์ไธสง อายุ 80 ปี สองสามีภรรยา

คุณยายนวลศรี เล่าวว่า เมื่วันที่ 19 ก.ค.62 เวลา 11.00 น.ได้มีหญิงอายุ 40 – 45 ปี รูปร่างท้วม ผมประบ่า ขี่รถจักรยานยนต์สีแดง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนมาจอดหน้าบ้านอ้างว่าเป็นเพื่อนกับลูกสาวเดินทางมาไกลหิวข้าว คุณยายก็ใจดีรีบไปเตรียมเครื่องสำหรับตำส้มตำ ที่อยู่ในห้องครัวในบ้าน ทั้งยังบอกให้ตาไปซื้อไก่ย่าง แต่หญิงมิจฉาชีพกลับบอกให้คุณยายออกมาตำส้มตำข้างนอกก่อนจะเดินไปยกครก สาก และเครื่องปรุงขนออกมานอกบ้านบอกว่าตำข้างนอกอากาศดีกว่าข้างในร้อน เมื่อคุณยายตำส้มตำอยู่ข้างนอก หญิงรายนี้ก็ออกอุบายว่าปวดท้องขอเข้าห้องน้ำคุณยายจึงชี้ให้ไปเข้าห้องน้ำในบ้าน ไม่นานก็ขอเข้าอีก 2 ครั้ง โดยที่ไม่ได้เอะใจอะไร

แต่เมื่อคุณยายเข้าไปหาแก้วหาจานในบ้านแล้วเดินออกมา ก็ไม่เห็นหญิงคนนี้แล้วสามีที่ไปซื้อไก่ย่างเข้ามา ก็ไม่พบหญิงคนนี้เช่นกันจึงเริ่มเอะใจรีบเข้าไปดูที่เก็บเงินปรากฏว่าเงินที่ลูกสาวส่งมาให้ใช้ และเงินจากเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุที่เก็บสะสมไว้รวมจำนวน 10,000 บาท กับสร้อยคอทองคำรูปพรรณหนัก 1 บาท รวมมูลค่ากว่า 30,000 บาท ที่เก็บไว้ในกระเป๋าเสื้อชั้นในหายไปทั้งหมด จึงมั่นใจหญิงคนดังกล่าวขโมยไปแน่นอน จึงได้แจ้งผู้ใหญ่บ้านทราบ ก่อนที่ผู้ใหญ่บ้านจะพาไปแจ้งความที่ สภ.นาโพธิ์ เพื่อให้เจ้าหน้าที่เร่งติดตามตัวมิจฉาชีพรายดังกล่าวมาดำเนินคดี

คุณยายนวลศรียังฝากบอกหญิงที่มาหลอกขโมยเงินยายด้วยว่า หากเอาเงินกับทองยายไปก็ขอให้เอามาคืนเพราะตากับยายแก่แล้ว ทำงานหนักไม่ได้ทุกวันนี้ต้องรอเงินจากลูกสาว และอาศัยเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ เป็นค่าใช้จ่ายและกินอยู่ในแต่ละวัน และหากได้เงินกลับมาคืนก็จะแบ่งไปทำบุญและเก็บไว้ใช้จ่าย

ด้าน พ.ต.ท.ประภาส พวงศรี รองผู้กำกับการ (สอบสวน) สภ.นาโพธิ์ ระบุว่า ขณะนี้รู้เบาะแสหญิงต้องสงสัยแล้ว และเตรียมขออนุมัติศาลออกหมายจับในวันพรุ่งนี้ ในข้อหา “ลักทรัพย์ในเคหะสถานโดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิด” ซึ่งจากการสืบสวนทราบว่าหญิงคนดังกล่าวได้ก่อเหตุมาแล้วหลายท้องที่ โดยมีพฤติกรรมในลักษณะเดียวกัน จึงได้ฝากประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนให้ประชาชน และผู้สูงอายุที่อยู่บ้านตามลำพัง ควรระมัดระวังอย่าหลงเชื่อบุคคลแปลกหน้าที่เข้ามาในหมู่บ้านแล้วใช้กลอุบายรูปแบบต่างๆ ในการหลอกลวง หากพบบุคคลไม่น่าไว้วางใจก็ให้แจ้งผู้ใหญ่บ้านได้รับทราบ