posttoday

พ่อสาวม.6ช๊อคไข้เลือดออกดับเผยผู้บริหารสสจ.ไม่เคยมาเยี่ยมงานศพ

17 กรกฎาคม 2562

กาฬสินธุ์-พ่อเปิดใจหลังสูญเสียลูกสาวช็อคโรคไข้เลือดออกดับเผยไม่เห็นเงาผู้บริหารสสจ.กาฬสินธุ์เยี่ยมงานศพญาติเรียกร้องตั้งคนนอกร่วมเป็นคณะกรรมการสอบสวน

กาฬสินธุ์-พ่อเปิดใจหลังสูญเสียลูกสาวช็อคโรคไข้เลือดออกดับเผยไม่เห็นเงาผู้บริหารสสจ.กาฬสินธุ์เยี่ยมงานศพญาติเรียกร้องตั้งคนนอกร่วมเป็นคณะกรรมการสอบสวน

กรณี น.ส.หัทยา หงษ์ชารี หรือน้องกุ๊กไก่ อายุ 19 ปี นักเรียนชั้น ม.6 โรงเรียนดงมูลวิทยาคม อ.หนองกุงศรี จ.กาฬสินธุ์ เสียชีวิตด้วยโรคไข้เลือดออกสายพันธุ์ใหม่เดงกี่ ซึ่งผู้ปกครองและญาติติดใจในขั้นการรักษาของโรงพยาบาลหนองกุงศรี เนื่องจากนำตัวลูกสาวส่งไปยังโรงพยาบาลในช่วงเวลาตี 4 แต่พยาบาลกลับวัดความดันและวัดไข้แล้วบอกว่าอาการปกติดี พร้อมบอกให้กลับไปก่อน และให้มาตรวจใหม่ในช่วงเวลา 09.00 น.จนทำให้น้องกุ๊กไก่เกิดอาการช็อคจนต้องเร่งตัวส่งโรงยาบาลกาฬสินธุ์ และส่งต่อไปยังโรงพยาบาลศรีนครินทร์ จ.ขอนแก่น แต่ก็ไม่สามารถยื้อชีวิตไว้ได้

ต่อมา นายไกรสร กองฉลาด ผวจ.กาฬสินธุ์ สั่งให้สำนักงานสาธารณสุข จ.กาฬสินธุ์ ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงในกระบวนการขั้นตอนในการรักษาจนทำให้ผู้ป่วยช็อคเสียชีวิต ซึ่งหากพบว่าเป็นข้อบกพร่องไม่เป็นไปตามระเบียบขั้นตอนและมีการละเว้นก็จะถูกดำเนินการขั้นเด็ดขาด โดยไม่มีการยกเว้น

ล่าสุด เมื่อวันที่ 17ก.ค.62 นายสมบูรณ์ หงษ์ชารี อายุ 48 ปี พ่อน้องกุ๊กไก่ กล่าวว่า เชื่อว่าไม่มีใครอยากให้น้องกุ๊กไก่เสียชีวิตด้วยโรคไข้เลือดออก โดยเฉพาะผู้ที่เป็นพ่อ เป็นแม่ ยิ่งแทบจะทำใจรับไม่ได้ เพราะต้องสูญเสียลูกสาวไปอย่างกะทันหัน โดยไม่ได้ร่ำลา ทั้งที่น้องอายุยังน้อยเป็นเด็กเรียนเก่ง นิสัยดี และจะเป็นเสาหลักของครอบครัวในอนาคต แต่เมื่อน้องเสียชีวิตแล้วก็เอากลับคืนมาไม่ได้ ซึ่งตั้งแต่วันที่น้องจากไปจนถึงขณะนี้ยังติดใจว่า หากวันนั้นที่นำตัวลูกสาวส่งโรงพยาบาลและเจ้าหน้าที่รับตัวไว้รักษา ให้อยู่ใกล้มือหมอ ใกล้เครื่องไม้เครื่องมือแพทย์ ลูกสาวก็อาจจะไม่มีอาการช็อคและอาจจะไม่เสียชีวิตก็ได้ อยากให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตรวจสอบระบบและขั้นตอนอย่างตรงไปตรงมา เพื่อให้ความเป็นธรรมกับลูกสาว และให้คณะกรรมการและสำนักงานสาธารณสุขเร่งดำเนินการตรวจสอบ เพื่อให้มีคำตอบที่ชัดเจน ให้ความกระจ่างกับญาติและสังคม

นอกจากประเด็นของการรับการรักษาครอบครัวยังสงสัยว่าการเสียชีวิตของน้องกุ๊กไก่ครั้งนี้เป็นรายแรกที่ป่วยด้วยโรคไข้เลือดออกของ จ.กาฬสินธุ์ ในปี 2562 หรือไม่ และไม่เห็นมีผู้บริหารของหน่วยงานที่รับผิดชอบโดยตรงมาเยี่ยมให้กำลังใจในงานศพแม้แต่วันเดียวทั้งที่เราก็เฝ้ารอและพร้อมที่จะเปิดใจรับฟังคำอธิบายมั่นใจว่าหากเจ้าหน้าที่ไม่บอกให้พาลูกกลับบ้านก่อน ค่อยกลับมาพบหมออีกครั้งจะไม่สูญเสียลูกสาวอย่างแน่นอน

นายเดชา แก้วมงคล อายุ 40 ปี ญาติน้องกุ๊กไก่ กล่าวว่าการแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบอยากให้มีบุคคลภายนอกเข้าไปเป็นหนึ่งในคณะกรรมการชุดนี้ด้วย โดยดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา และต้องให้เจ้าหน้าที่หรือบุคคลที่ถูกตรวจสอบพักราชการหรือออกจากพื้นที่ไปก่อน เพื่อความเป็นธรรมกับหลานสาวที่เสียชีวิต และให้ความเห็นอกเห็นใจครอบครัวคนสูญเสียด้วย เพราะการสูญเสียชีวิตคนทั้งคน จะเอาเงินมาชดเชยมาพบให้แค่นั้นก็จบไป มันไม่ใช่ คนที่บกพร่องต่อหน้าที่ก็ควรจะได้รับการลงโทษด้วย

ด้านนายแพทย์พรพัฒน์ ภูนากลม ผู้อำนวยการโรงพยาบาลนาคู ในฐานะผู้เชี่ยวชาญสาขาศาสตร์ป้องกัน (ระบาดวิทยา) ซึ่งเป็นตัวแทนสำนักงานสาธารณสุข จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ยังรอผลการตรวจเลือดยืนยันสายพันธุ์ของโรคไข้เลือดออกจากกรมควบคุมโรค ซึ่งคาดว่าภายในสัปดาห์หน้าจะรู้ผล

ทั้งนี้ในส่วนกระบวนการขั้นตอนการรับตัวผู้ป่วยรักษานั้นจะมีการปรับปรุงขั้นตอนในการรับตัวผู้ป่วยในสถานพยาบาลหรือโรงพยาบาลต่างๆซึ่งหากผู้ป่วยมีอาการลักษณะที่ต้องสงสัยป่วยเป็นไข้เลือดออกก็จะรับตัวไว้รักที่โรงพยาบาลทันที ส่วนการตรวจสอบประเด็นที่ญาติติดใจในการรับตัวผู้ป่วยขณะนี้มีทีมเยียวยาและเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ไปแล้ว แต่ยืนยันว่าทางแพทย์ และพยาบาลปฏิบัติหน้าที่อย่างดีที่สุดแล้ว ไม่อยากให้มองว่าใครผิดใครถูกและโทษใคร