"เจ๊หน่อย"ควงส.ส.เพื่อไทยรับฟังปัญหาภัยแล้งถึงเขื่อนอุบลรัตน์

ขอนแก่น-"คุณหญิงสุดารัตน์" พาส.ส.เพื่อไทยลุยตรวจภัยแล้งที่ขอนแก่น รับฟังปัญหาของชาวบ้านในพื้นที่ สอนมวยรัฐบาลให้เร่งประกาศพื้นที่ภัยแล้ง บอกความจริงกับประชาชน

เมื่อวันที่ 14 ก.ค.ที่เขื่อนอุบลรัตน์ อ.อุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย นำคณะทำงานจากพรรคเพื่อไทย รวมทั้ง ส.ส.ขอนแก่น พรรคเพื่อไทย ลงพื้นที่ อ.อุบลรัตน์ เพื่อรับฟังปัญหาและผลกระทบจากสถานการณ์ภัยแล้งที่กำลังเกิดขึ้นในพื้นที่ จ.ขอนแก่น โดยได้ทำการตรวจสอบปริมาณน้ำในเขื่อนอุบลรัตน์ และหารือร่วมกับโรงไฟฟ้าพลังน้ำภาคตะวันออกเฉียงเหนือ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) และสำนักงานชลประทานที่ 6 ขอนแก่น ในการบริหารจัดการน้ำในช่วงหน้าแล้ง รวมทั้งการพูดคุยกับประชาชนในพื้นที่ ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ภัยแล้งที่กำลังเกิดขึ้น

คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า การลงพื้นที่ครั้งนี้ทำให้ทราบปัญหาและความเดือดร้อนของเกษตรกรในพื้นที่โดยเฉพาะกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกข้าว พบว่าตอนนี้เดือดร้อนมาก ทั้งที่มีการคาดการณ์แล้วว่าปีนี้จะเกิดสถานการณ์ภัยแล้งที่รุนแรง ถือเป็นจุดที่บกพร่องในการทำงานของรัฐบาล โดยพบข้อบกพร่อง 2 จุดคือ รัฐบาลพอมีข้อมูลรู้อยู่แล้วว่าปีนี้จะเผชิญกับภัยแล้ง ต้องมีมาตรการเบื้องต้นก่อน เช่น เรื่องของน้ำ โดยการลงพื้นที่ดูน้ำในเขื่อนต่างๆ พบว่า แย่ที่สุด เพราะประชาชนต้องการมีน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภค

" วันนี้เขื่อนอุบลรัตน์ระดับน้ำใกล้เคียงกับระดับน้ำก้นอ่าง จะปล่อยน้ำได้อีกแค่ 100 กว่าล้านลบ.ม. ซึ่งไม่เพียงพอกับที่จัดการทำการเกษตร จะได้เฉพาะเรื่องของการน้ำอุปโภคบริโภค จะให้เพียงพอก็ยังต้องลุ้น ดังนั้น ก่อนจะถึงฤดูทำนารัฐบาลควรจะทำความเข้าใจกับประชาชนที่รับน้ำจากเขื่อนอุบลรัตน์ว่า ปีนี้มีความเสี่ยงที่จะไม่มีน้ำ ก็ต้องมีมาตรการที่ชัดเจนให้กับประชาชน เพราะจากการรับฟังปัญหาจากประชาชนทราบว่า ปีนี้ปลูกข้าวมา 4 รอบแล้ว ปลูกเสร็จก็ตาย ก็ต้องทิ้ง ลงทุนค่าเมล็ด ค่าปุ๋ย ค่ายาไปแล้ว 4 รอบ ประชาชนเดือดร้อนมาก เพราะไม่มีน้ำ" คุณหญิงสุดารัตน์กล่าว

อย่างไรก็ตาม ขอเสนอปัญหาไปยังพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ กระทรวงมหาดไทยว่า ต้องประกาศเป็นพื้นที่ภัยพิบัติภัยแล้งทันที อย่าปล่อยให้ประชาชนต้องไปหว่านข้าวอีก เพราะต้องไปควักทุนอีกรอบ วันนี้ป่วยการที่รัฐบาลจะไม่พูดความจริงกับประชาชน ต้องมาพูดความจริงว่า ไม่สามารถทำนาได้แล้ว และให้รัฐบาลประกาศว่า พื้นที่ไหนบ้างเป็นพื้นที่ภัยพิบัติภัยแล้ง จากนั้นก็กำหนดอัตราชดเชย เพราะชาวนาจะได้ไม่ต้องลงทุนเพิ่ม ไม่ต้องไปกู้หนี้ยืมสินเพิ่ม รัฐจะชดเชยให้เท่านี้ ไม่ต้องทำนา เขาจะได้ไปจับปลาจะได้ไปทอเสื่อจะได้ไปใช้แรงงานในกทม.หรือในหัวเมือง ไม่ใช่ไม่พูดความจริง