posttoday

จิตแพทย์แนะฝึกสมาธิเป็นยาคลายเครียดป้องกันป่วย6โรค

12 กรกฎาคม 2562

นครราชสีมา-จิตแพทย์ เผย "สมาธิ" เป็นยาคลายเครียดได้ แนะควรฝึกใช้ประจำ ช่วยป้องกันป่วย 6 โรค

นครราชสีมา-จิตแพทย์ เผย "สมาธิ" เป็นยาคลายเครียดได้ แนะควรฝึกใช้ประจำ ช่วยป้องกันป่วย 6 โรค

นายแพทย์กิตต์กวี โพธิ์โน ผู้อำนวยการโรงพยาบาลโรงพยาบาลจิตเวชนครราชสีมาราชนครินทร์จ.นครราชสีมา เปิดเผยว่า สภาพการเปลี่ยนแปลงของสังคมเศรษฐกิจและเทคโนโลยีการสื่อสารในยุคปัจจุบันล้วนก่อความเครียดให้ประชาชนได้ง่ายการคลายเครียดมีหลายวิธีที่ได้ผลเช่นการออกกำลังกายแต่ประชาชนบางคนอาจไม่สะดวกหรือมีข้อจำกัดต่างๆ รพ.จิตเวชนครราชสีมาฯจึงมีข้อแนะนำให้ใช้วิธีการฝึกทำสมาธิซึ่งเป็นการผ่อนคลายความเครียดที่ลึกซึ้งที่สุดมีรูปแบบที่ง่ายสามารถปฏิบัติได้ด้วยตัวเองทำที่ไหนก็ได้ไม่จำเป็นต้องไปทำที่วัดสามารถทำได้ทุกอิริยาบถไม่มีข้อจำกัดด้านอายุผู้ที่กำลังนอนป่วยก็ทำได้หลักสำคัญของการทำสมาธิคือการเอาใจไปจดจ่อกับสิ่งใดสิ่งหนึ่งเพียงอย่างเดียววิธีที่แนะนำคือการนับลมหายใจของตัวเองเป็นหลักและยุติการคิดเรื่องอื่นๆอย่างสิ้นเชิงการทำสมาธิจะช่วยให้จิตใจสงบปลอดความคิดฟุ้งซ่านความกังวลเศร้าโกรธซึ่งเป็นผลมาจากความเครียด

ด้านแพทย์หญิงอรภา เข็มทอง จิตแพทย์และหัวหน้ากลุ่มงานสนับสนุนและพัฒนาเครือข่ายรพ.จิตเวชนครราชสีมาฯกล่าวเพิ่มเติมว่าวิธีการฝึกสมาธิโดยการนับลมหายใจมีเพียง3ขั้นง่ายๆดังนี้

ขั้นที่ 1ให้นั่งหรือนอนแล้วหลับตาเพื่อตัดสิ่งรบกวนทั้งหมดและหายใจเข้า-ออกช้าๆจากนั้นให้เริ่มนับลมหายใจเข้า-ออกคือลมหายใจเข้านับ1หายใจออกก็นับ1,หายใจเข้านับ2หายใจออกก็นับ2นับไปเรื่อยๆลักษณะเดียวกันจนถึง5แล้วให้เริ่มนับ1ใหม่นับไปจนถึง6แล้วกลับมาเริ่มนับ1ใหม่จนถึง7และเพิ่มจำนวนเป็น8,9,10เมื่อครบ10ถือเป็น1รอบแล้วจึงเริ่มนับ1ใหม่ไปจนถึง10และทำซ้ำๆกันจนใจสงบและนิ่งขึ้นโดยผู้ที่เริ่มฝึกครั้งแรกอาจจะนับเลขผิดพลาดได้เนื่องจากอาจยังไม่มีสมาธิพอหรืออาจจะมีความคิดอื่นๆผุดขึ้นมาระหว่างนับลมหายใจไม่ต้องกังวลใจขอให้พยายามตั้งสติใหม่ประการสำคัญเมื่อมีความคิดแทรกขึ้นมาขอให้รับรู้และปล่อยไปไม่เก็บมาคิดต่อสมาธิจะดีขึ้น

ขั้นที่2เมื่อใจสงบมากขึ้นแล้วให้เริ่มนับลมหายใจเข้า-ออกเร็วขึ้นไปอีกและต่อเนื่องกันคือหายใจเข้านับ1หายใจออกนับ2ไปจนถึง10

และขั้นที่3หากนับลมหายใจเข้า-ออกได้เร็วและไม่ผิดพลาดแสดงว่าจิตใจสงบมากแล้วคราวนี้ให้ใช้สติมารับรู้รับลมหายใจเข้า-ออกเพียงอย่างเดียวไม่ต้องนับเลขและไม่คิดเรื่องใดๆทั้งสิ้นมีแต่เรื่องสงบเท่านั้น

แพทย์หญิงอรภา เข็มทอง จิตแพทย์กล่าวต่อว่าหากเราฝึกสมาธิเป็นประจำโดยใช้เวลาเพียง15นาทีวันละ2ครั้งคือเช้าและเย็นหรือก่อนนอนจะทำให้จิตใจเราสงบเบิกบานอารมณ์เย็นสมองแจ่มใสหายเครียดจนตัวเองและคนใกล้ชิดรู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้นอย่างชัดเจน

การฝึกสมาธินี้ได้รับความนิยมจากคนทั่วโลกมีงานวิจัยยืนยันตรงกันว่ามีผลดีต่อร่างกายและจิตใจช่วยทำให้จิตสงบโดยร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนเอ็นดอร์ฟินส์(Endorphins)หรือสารแห่งความสุขออกมาช่วยให้ระบบประสาทสมองทำงานเป็นระเบียบการทำงานของอวัยวะมีประสิทธิภาพดีขึ้นสามารถป้องกันการเกิดโรคที่มีความสัมพันธ์กับความเครียดได้อย่างน้อย6โรคได้แก่โรคซึมเศร้า โรคอัลไซเมอร์ โรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน โรคมะเร็ง และโรคหลอดเลือดหัวใจ

เครดิตภาพ https://www.jvkorat.go.th/th/