posttoday

ทหารปัดล่าแมวดาวที่ต้องฆ่าเพราะลอบเข้ามากัดไก่ชน

11 กรกฎาคม 2562

เชียงใหม่-ฟังอีกด้าน!ทหารปัดล่าแมวดาวที่ต้องฆ่าเพราะลอบเข้ามากัดไก่ชน ทหารอีกนายแจงที่ต้องฆ่างูสิงดงหวั่นทำร้ายลูกชายวัย2ขวบที่อาศัยอยู่ในบ้าน

เชียงใหม่-ฟังอีกด้าน!ทหารปัดล่าแมวดาวที่ต้องฆ่าเพราะลอบเข้ามากัดไก่ชน ทหารอีกนายแจงที่ต้องฆ่างูสิงดงหวั่นทำร้ายลูกชายวัย2ขวบที่อาศัยอยู่ในบ้าน

เจ้าหน้าที่ตั้ง 4 ข้อหาสิบเอกทหาร กองพลทหารราบที่ 7 หลังสารภาพลงมือฆ่าแมวดาวชายป่าหลังค่ายโชว์โพสต์ในโซเชียล และเตรียมดำเนินคดี ทหารอีกค่ายแห่งหนึ่งในอำเภอเชียงดาว ที่ฆ่างูสิงดง และมีการนำมาเผยแพร่ในโลกโซเชี่ยลด้วย ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้สอบปากคำเบื้องต้นทราบว่า งูสิงดง ตัวดังกล่าวเลื้อยเข้ามาในบ้านพักเจ้าตัวจึงลงมือฆ่าเนื่องจากมีลูกน้อยเกรงจะได้รับอันตราย

นายสมหวัง เรืองนิวัติศัย ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 ร่วมกับนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ที่ปรึกษาหน่วยเฉพาะกิจปฏิบัติการพิเศษผู้พิทักษ์อุทยานแห่งชาติและสัตว์ป่า (หน่วยฯ พญาเสือ) นายอิสระ ศิริไสยาสน์ ผอ.ส่วนสำนักสัตว์ป่า สบอ. 16 และพันเอกชายแดน กฤษณสุวรรณ เสธ พล ร.7 แถลงข่าวความคืบหน้า กรณี สิบเอกเจริญศักดิ์ ผ่องศรีสุข อายุ 28 ปี ผู้ต้องหา ฆ่าแมวดาว บริเวณชายป่า หลังค่ายในกองพลทหารราบที่ 7 แล้วนำไปฝั่งอำพรางเจ้าหน้าที่ไว้ ต่อมาเพจ watchdog thailand โพสต์ภาพแมวดาวถูกฆ่าถลกพร้อมวอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งตรวจสอบ เจ้าหน้าที่จึงได้เข้าตรวจสอบ และนำตัวสิบเอกเจริญศักดิ์ไปชี้จุดที่เป็นสถานที่เกิดเหตุบริเวณ โรงเลี้ยงไก่ ในศูนย์การเรียนรู้ฯ ของค่ายกองพลทหารราบที่ 7 อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ มีพื้นที่ติดต่อกับป่าอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย

ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 เปิดเผยว่า จากการสอบสวน สิบเอกเจริญศักดิ์ ผู้ต้องหา ให้การว่า ตนเองเลี้ยงไก่ชนจำนวนหนึ่งไว้ที่ศูนย์เรียนรู้ฯ ภายในค่ายทหารเพื่อเป็นอาชีพเสริม ก่อนหน้านี้ไก่ชนของตนได้หายไปจำนวนหลายตัว เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคมที่ผ่านมา ตนเองได้มาซุ่มยิงสัตว์ที่มากัดไก่ชนของตนเอง และเมื่อเวลา 20.00 น.ตนเองได้ใช้ไฟฉายสองพบเห็นตาสัตว์ โดยไม่ทราบว่า เป็นสัตว์ชนิดใด จึงได้ใช้ปืนไทยประดิษฐ์ยิงในระยะ 20 กว่าเมตร และได้เข้าตรวจสอบภายหลังพบว่า ซากสัตว์ถูกยิ่งห่างจากจุดที่ส่องไฟฉายพบ ประมาณ16 เมตร เมื่อยิงเสร็จ ไม่กล้าเข้าไปคนเดียวจึงได้ขับมอเตอร์ไซค์ ไปรับพลทหารมาช่วยดูอีกหนึ่งคน เพื่อมาเป็นเพื่อนเข้าไปดู เมื่อค้นหาพบสัตว์ป่าที่ตนเองยิ่งตาย แต่ตนเองเข้าใจว่า เป็นเสือปลา ไม่ทราบว่าเป็น สัตว์ป่าคุ้มครอง จึงได้ถ่ายรูปส่งให้กับเพื่อนในกลุ่มไก่ชน เพื่อให้ทราบว่าเจอต้นตอของสาเหตุที่ไก่ชนของตนหายไปแล้ว และเห็นว่าหนังมีความสวยงาม เช้าวันที่ 7 กรกฎาคม เวลา 08.00น. จึงได้ชำแหละซากเพื่อเก็บหนังไว้ ส่วนเนื้อ ได้โยนทิ้งไปทั้งหมด ไม่ได้นำมากิน แต่หนังนั้นภายหลังทราบว่า เป็นหนังแมวดาว จึงเกิดความกลัว จึงนำไปทำลายทิ้งแยกชิ้นส่วน แล้วฝังกลบ ใกล้ๆ บริเวณที่เกิดเหตุ ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะนำตัวสิบเอกเจริญศักดิ์ มาค้นหาซากสัตว์เพื่อนำมาเป็นหลักฐานประกอบการทำสำนวนคดี

ทหารปัดล่าแมวดาวที่ต้องฆ่าเพราะลอบเข้ามากัดไก่ชน

ส่วนปืนไทยประดิษฐ์ ผู้ต้องหายอมรับว่า เป็นของตน ซึ่งตนได้รับมาจากรุ่นพี่ทหารรุ่นก่อนซึ่งออกไปจากกองพลทหารราบที่ 7 แล้ว แต่ไม่ได้นำไปยิงสัตว์ป่า ตามที่ระบุกันในโซเชียล ต่อมาได้มีการสอบสวนจากนายทหารพระธรรมนูญจึงได้นำซากหนังแมวดาว(ที่ทราบภายหลัง)และอาวุธปืนนำส่งให้กับนายทหารรัฐธรรมนูญ นำส่งให้กับเจ้าหน้าที่ชุดตรวจสอบ ทางเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหา กับ สิบเอกเจริญศักดิ์ ผ่องศรีสุข ว่า การกระทำดังกล่าวเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535 มาตรา 16 ฐานล่าสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่รับอนุญาต,มาตรา 19 ฐานมีไว้ในครอบครองซึ่งซากสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาต,มีไว้ในครอบครองซึ่งอาวุธปืนโดยโดยไม่ได้รับอนุญาต,ยิงอาวุธปืนในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร

ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 กล่าวเพิ่มเติมว่า ส่วนรูปชายอีกคนที่ยืนถือซากงูสิงดงนั้น เป็นทหารยศจ่าอยู่ที่ค่ายทหารแห่งหนึ่งในอำเภอเชียงดาว แต่เป็นเพื่อนกันกับสิบเอกคนที่ฆ่าแมวดาวตัวดังกล่าวนี้ และได้นำภาพส่งในกลุ่มไลน์ไก่ชนเช่นกัน เบื้องต้นจ่าคนดังกล่าวอ้างว่า งูสิงดงจะได้เลื้อยเข้ามาในบ้านจึงต้องฆ่าเพราะเกรงว่า จะทำร้ายคนในครอบครัวเนื่องจากมีลูกน้อยวัย 2 ขวบอาศัยอยู่ในบ้าน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ยังไม่ปักเชื่อและเตรียมแจ้งความดำเนินคดี ที่ สภ.เชียงดาว อย่างไรก็ตามจากการตรวจสอบเบื้องต้นไม่พบว่าทั้งสองเหตุที่ฆ่าสัตว์ป่านี้ ไม่ได้เป็นการล่าเพื่อนำมาค้าขาย

ขณะที่พันเอกชายแดน กฤษณสุวรรณ เสธ. พล ร.7 เปิดเผยว่า ทางผู้บังคับบัญชาได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนของหน่วยกองพลทหารราบที่ 7 ซึ่งมีนายทหารพระธรรมนูญ อยู่ในคณะกรรมการด้วย ได้สรุปว่า ผู้ต้องหาได้ทำผิดจริง ส่วนในการพิจารณาของคณะกรรมการ ว่าโทษหนักสุดคือปลดออกจากราชการและตอนนี้ได้ลงโทษด้วยการสั่งขังเรือนจำมลฑลทหารบกที่ 33 เป็นเวลา 7 วัน หลังเกิดเหตุผู้บังคับบัญชาระดับสูงทั้ง ผู้บัญชาการทหารบก แม่ทัพภาค 3 ไม่มีนโยบายปกป้องผู้ที่กระทำผิด จึงสั่งการให้ ควบคุมตัวสิบเอกคนดังกล่าวมาสอบสวน ซึ่งความผิดได้แยกออกมาเป็น 2 ส่วน ได้แก่ความผิดตามกฎหมายของกรมอุทยานฯ และในส่วนของระเบียบวินัยของทหาร ก็มีการดำเนินการตามระเบียบ อยู่แล้ว

นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ที่ปรึกษาหน่วยเฉพาะกิจปฏิบัติการพิเศษผู้พิทักษ์อุทยานแห่งชาติและสัตว์ป่า เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาทางกรมฯได้รับเรื่องการร้องเรียนกรณีค้าสัตว์ป่ารวมกว่า 100 ราย โดยเฉพาะกรณีนี้เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่เก็บวัตถุพยานหลักฐานให้รัดกุมเพื่อแจ้งความเอาผิดกับผู้ต้องหา เพื่อป้องกันผู้ต้องหาให้การปฏิเสธในชั้นศาล อย่างไรก็ตามคดีนี้ตนมั่นใจว่าจะสามารถเอาผิดผู้ต้องหาได้อย่างแน่นอนเนื่องวัตถุพยานที่เจ้าหน้าที่ตรวจยึดมาได้มีครบทั้งอาวุธปืน ซากแมวดาว ภาพถ่าย ต่างๆเป็นต้น

ทหารปัดล่าแมวดาวที่ต้องฆ่าเพราะลอบเข้ามากัดไก่ชน