posttoday

พัทยาโลว์ซีซั่นนักท่องเที่ยวลดลง30%ค่าเงินบาทแข็งทำตลาดยุโรปหาย

10 กรกฎาคม 2562

พัทยา-ส.อุตสาหกรรมสถานบันเทิงพัทยาชี้ช่วงโลว์ซีชั่นยอดนักท่องเที่ยวลดลงกว่า 30 % ปัจจัยค่าเงินบาทแข็งตัวทำตลาดยุโรปหายแต่รับผลกระทบน้อยกว่าเมืองท่องเที่ยวอื่น

พัทยา-ส.อุตสาหกรรมสถานบันเทิงพัทยาชี้ช่วงโลว์ซีชั่นยอดนักท่องเที่ยวลดลงกว่า 30 % ปัจจัยค่าเงินบาทแข็งตัวทำตลาดยุโรปหายแต่รับผลกระทบน้อยกว่าเมืองท่องเที่ยวอื่น

นายดำรงเกียรติ พินิจการ เลขาสมาคมอุตสาหกรรมบันเทิงและการท่องเที่ยวเมืองพัทยา กล่าวว่า สถานการณ์ท่องเที่ยวในเมืองพัทยา ช่วงโลว์ซีชั่นในปี 62 นี้สถานที่ท่องเที่ยวในเมืองพัทยา สถานบริการ ทั้งกลุ่มบาร์เบียร์ ไนต์คลับ ผับ บาร์ พบว่าสถิตินักท่องเที่ยวลดลงอย่างเห็นได้ชัด หากเปรียบเทียบจากยอดของนักท่องเที่ยวช่วงซีซั่นของปี 61 โดยพบว่าปริมาณนักท่องเที่ยวลดลงถึง 20-30 % ทั้งนี้เกิดจากหลายปัจจัย โดยเฉพาะในกลุ่มตลาดหลักอย่างนักท่องเที่ยวจีน ซึ่งมีปริมาณลดลงอย่างชัดเจน โดยคาดว่ามีผลพวงมาจากเหตุการณ์เรือล่มที่จังหวัดภูเก็ต รวมถึงเหตุการณ์ที่มีนักท่องเที่ยวชาวจีนถูกทำร้ายที่สนามบิน ทำให้รัฐบาลจีนเกิดความไม่พอใจที่นักท่องเที่ยวชาวจีนถูกทำร้ายจนส่งผลกระทบในภาพลบต่อประเทศ

ทั้งนี้ สำหรับนักท่องเที่ยวของเมืองพัทยานั้นจะมีนักท่องเที่ยวกลุ่มใหม่ที่เดินทางมาท่องเที่ยวมากขึ้น อย่างกลุ่มตลาดอินเดีย จึงทำให้มาทดแทนกลุ่มตลาดจีนได้บางส่วน ซึ่งกลุ่มนักท่องเที่ยวตลาดหลักเดิมในอดีตอย่าง รัสเซีย หรือตลาดยุโรป หายไปจะมีตลาดนักท่องเที่ยวจีนเข้ามาแทน ซึ่งในปัจจุบันตลาดนักท่องเที่ยวจีนที่หายไปนั้นส่วนใหญ่จะเป็นในส่วนของกรุ๊ปทัวร์ แต่จะมีกลุ่มนักท่องเที่ยวจีนกลุ่มใหม่ที่เดินทางมาท่องเที่ยวหรือที่เรียกว่าตลาดนักท่องเที่ยว FIT จึงทำให้เกิดการเปลี่ยนพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางมาท่อง เที่ยวด้วยตัวเอง จองโรงแรมเอง และจะมาท่องเที่ยวตามรอยแอพพลิเคชั่นของคนจีน ซึ่งหากสถานประกอบ การ ร้านค้าในเมืองพัทยาที่เจาะตลาดกลุ่มลูกค้าจีนสไตล์ FIT อยู่แล้วคงไม่ได้รับผลกระทบมากนัก ส่วนสถานบริการที่รับแต่กรุ๊ปทัวร์เพียงอย่างเดียว จะได้รับผลกระทบเป็นอย่างมากในเรื่องของกระประกอบกิจการที่แย่ลง

แต่แม้ตัวเลขของ ททท. ที่ระบุว่ากลุ่มตลาดนักท่องเที่ยวจีนมีการเดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทยเพิ่มขึ้น นั้นอาจจะเป็นการมองในภาพรวมที่มีสถิติเดินทางเข้ามาในประเทศไทย แต่เรื่องของการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวจีนนั้นที่มาเป็นกรุ๊ปทัวร์จะเลือกท่องเที่ยวแบบประหยัด ขณะเรื่องสถานการสงครามการค้าหรือ Trad War พบว่าในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา กลุ่มนักท่องเที่ยวยุโรปไม่มีการเดินทางมาท่องเที่ยวยังเมืองพัทยาเลย เนื่องจากค่าเงินบาทที่แข็งตัวเพราะต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นจากเดิม จึงมีการย้ายสถานที่ท่องเที่ยวที่ทำให้การใช้จ่ายเกิดการาคุ้มค่ามากกว่า ทำให้นักลงทุนชาวต่างชาติที่มามีการร่วมลงทุนในการประกอบกิจการสถานบันเทิงพบมีบ้างกลุ่มเริ่มมีการถอนทุนออกไปบ้างแล้ว

เลขาสมาคมอุตสาหกรรมบันเทิงและการท่องเที่ยวเมืองพัทยา กล่าวต่ออีกว่าในอนาคตมองว่าการปรับเข้าสู่ EEC นั้น ในมุมมองของตัวเองคิดว่าเมืองพัทยายังได้เปรียบกว่าเมืองท่องเที่ยวอื่นๆด้วยเมืองพัทยาเป็นพื้นที่ที่อยู่ใกล้สนามบิน สุวรรณภูมิและอู่ตะเภา ทำให้การเดินทางมาท่องเที่ยวยังเมืองพัทยาสะดวก อีกทั้งในพื้นที่เมืองพัทยาเองก็มีการจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวควบคู่การท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง ซึ่งการจัดกิจ กรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวทำให้ผู้ประกอบการมีรายได้แม้จะเป็นในช่วงระยะสั้นก็ตาม ซึ่งกิจกรรมเหล่านี้ถือเป็นสีสันและแรงกระตุ้นนักท่องเที่ยวในเดินทางมาท่องเที่ยวได้มากขึ้น

ด้าน น.ส.อำพร แก้วแสง ผู้บริหารร้านเดอะสโตนเฮาส์ วอล์คกิ้งสตรีท กล่าวว่าสำหรับสถานการณ์การท่องเที่ยวเมืองพัทยาหากเปรียบเทียบกับที่ผ่านมาพบว่ายอดนักท่องเที่ยวลดลง แต่ปัจจุบันพบมีตลาดนักท่อง เที่ยวเอเชีย อย่าง จีนที่ยังคงมีอยู่และอินเดียเดินที่มาเสริมเพิ่มขึ้น แทนกลุ่มตลาดนักท่องเที่ยวยุโรปที่หายไป หมดเนื่องจากค่าเงินบาทที่แข็งตัว ทำให้ผู้ประกอบการต่างต้องมีการปรับตัวเพื่อรับกับสถานการณ์การท่อง เที่ยวที่เกิดขึ้น ทั้งการจัดทำโปรโมชั่นดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มีการใช้จ่ายมากขึ้น ควบคู่กับการจัดกิจกรรมของเมืองพัทยาในการส่งเสริมการท่องเที่ยว

นอกจากนี้ผู้ประกอบการเองก็ต้องมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบการมให้บริการ รูปแบบของร้าน ซึ่งหลาย ๆปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวผู้ประกอบการจึงต้องมีความกระตือรือร้นมากขึ้น และจากสภาวะที่ตลาดนักท่องเที่ยวยุโรปหายไปทำให้สถานประกอบการบาร์เบียร์มีการปิดกิจการไปหลายแห่ง จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นผู้ประกอบการได้มีการหารือกันอย่างต่อเนื่อง เพื่อหารูปแบบการรับมือกับสิ่งที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน ทั้งนี้หากในอนาคตเมื่อ EEC จะเกิดขึ้นในเมืองพัทยาก็จะส่งผลดีที่ทำให้การท่องเที่ยวมีความคึกคักมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้คงต้องอาศัยระยะเวลา ซึ่งหากภาพรวมของประเทศดีส่วนตัวเชื่อว่าผู้ประกอบกิจการที่มีการปิดกิจการไปอาจ จะกลับมามาลงทุนอีกครั้งและจะทำให้สถานการณ์การท่องเที่ยวและสถานบันเทิงกลับมาคึกคักเช่นเดิม