กระหึ่ม! นร.พิษณุโลกขับรถอีโก้งขอยืมพ่อมาพาเพื่อนไปโรงเรียน
พิษณุโลก-แชร์กันกระหึ่ม เด็กนักเรียนขับรถอีโก้งพาเพื่อนไปโรงเรียน ครูชี้นร.ยืมรถพ่อขนฟางมาเพาะเห็ดในวิชาเกษตร เป็นเรื่องปกติของเด็กพ่อแม่มีอาชีพทำการเกษตร แต่ย้ำเรื่องความปลอดภัยแล้ว
พิษณุโลก-แชร์กันกระหึ่ม เด็กนักเรียนขับรถอีโก้งพาเพื่อนไปโรงเรียน ครูชี้นร.ยืมรถพ่อขนฟางมาเพาะเห็ดในวิชาเกษตร เป็นเรื่องปกติของเด็กพ่อแม่มีอาชีพทำการเกษตร แต่ย้ำเรื่องความปลอดภัยแล้ว
เมื่อวันที่ 3 ก.ค. มีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “ชัด ประมูลสิน” โพสต์ภาพและข้อความลงในกลุ่มพวกเราชาววัดโบสถ์เป็นภาพเหตุการณ์ของเด็กนักเรียนชายชั้นมัธยมปลายคนหนึ่ง กำลังขับรถอีโก้งพาเพื่อนๆ ประมาณ 7 คน ไปเรียนหนังสือ เป็นภาพที่ถูกถ่ายขณะติดไฟแดงที่ตลาดวัดโบสถ์ จ.พิษณุโลก พร้อมเขียนข้อความว่า “กำลังมาแรงครับกับยืมรถพ่อมา อิอิ เห็นแล้วก็อมยิ้มไปตามๆ กันเลยครับ ขอบคุณน้องที่ให้ถ่ายนะครับ” โดยโพสต์ดังกล่าวเป็นที่สนใจ มีคนเข้าไปแสดงความคิดเห็นและแชร์ต่อกันอย่างแพร่หลาย ทั้งเห็นด้วยว่าเป็นภาพที่น่ารัก ส่วนบางคนก็แสดงความคิดไม่เห็นด้วยเนื่องจากเกรงว่าจะเป็นอันตรายเกิดอุบัติเหตุได้ เพราะเป็นรถที่ใช้ในการเกษตรไม่ควรนำมาขับบนท้องถนน
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปพบกับนายเจษฏาภรณ์ ศรีสวาท หรือ น้องโอ็ด อายุ 17 ปี นักเรียนชั้นม. 5 ซึ่งเป็นผู้ขับรถอีโก้งคันดังกล่าวเปิดเผยว่า ตนได้ไปขอยืมรถอีโก้งจากพ่อที่บ้านเพื่อนำไปขนกองฟางไปใช้เพาะพันธุ์เห็ดในวิชาการงานและอาชีพด้านการเกษตรที่โรงเรียน แต่ก็ให้เพื่อนๆ สวมใส่หมวกกันน็อค เพื่อป้องกันอุบัติเหตุด้วย ตอนแรกก็ไม่คิดว่า จะเป็นเรื่องราวอะไรใหญ่โตจนมีการแชร์ในโลกโซเชียลจนโด่งดังขึ้น
อย่างไรก็ตาม ขอยืนยันว่าปกติแล้วทุกวันจะขี่รถจักรยานยนต์มาเรียนหนังสือ ไม่ได้ขับรถอีโก้งรับเพื่อนมาโรงเรียนด้วยแต่อย่างใด พร้อมกับมีการพูดคุยกับอาจารย์ให้รับทราบเรื่องที่เกิดขึ้นแล้วทั้งหมด นอกจากนี้ที่บ้านของตนก็ทำอาชีพเกษตรกรรม จึงมีความสามารถทั้งขับรถไถนาและขับรถอีโก้งดังกล่าว
ด้าน น.ส.อุษณีย์ เสือจันทร์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการโรงเรียนวัดโบสถ์ศึกษา กล่าวว่า ตนได้เรียกนักเรียนทั้งหมดมาพูดคุยและชี้แจงให้ฟังแล้วร่วมกับผู้อำนวยการโรงเรียน ทราบว่าเป็นเหตุเฉพาะหน้าเนื่องจากเด็กขออนุญาตกลับบ้านไปเอาฟางข้าวมาเพาะเห็ด ในวิชาด้านการเกษตร แต่ก็ไม่ทราบว่าเด็กจะขอยืมรถอีโก้งของพ่อมาใช้ จนมีผู้ถ่ายภาพนำไปโพสต์ลงในโซเชียลมีเดีย จึงได้กำชับให้ขับขี่อย่างปลอดภัยสวมหมวกกันน็อคด้วยทุกครั้ง
นอกจากนี้ ต้องขอชื่นชมที่นักเรียนเหล่านี้มีใจจิตอาสามีน้ำใจช่วยเหลือกิจกรรมของโรงเรียน และก็ถือว่าเป็นวิถีชีวิตของชาว อ.วัดโบสถ์ เพราะส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม ซึ่งเด็กจะสามารถขับขี่รถพวกนี้ได้ด้วย ที่ผ่านมาทางโรงเรียนก็เป็นห่วงเป็นใยมีการจัดอบรมให้ความรู้เรื่องความปลอดภัยในการป้องกันเฝ้าระวังเรื่องใช้รถใช้ถนนอยู่เป็นประจำ
