สสจ.สงขลาดำเนินคดีบัตรพลังงานขณะเจ้าของชี้แจงไม่ได้เป็นผลิตภัณฑ์ของบริษัท

สงขลา-สสจ.สงขลาดำเนินคดีบัตรพลังงานฐานแสดงสลากไม่ถูกต้องและเลขอย.ไม่ตรงกันขณะที่เจ้าของชี้แจงไม่ใช่ผลิตภัณฑ์สินค้าของบริษัท

เมื่อวันที่ 14 มิ.ย.62 เภสัชกรวิไลวรรณ สาครินทร์ หัวหน้าฝ่ายคุมครองผู้บริโภคด้านอาหารและยา และนิติกร สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสงขลา (สสจ.) ได้เข้าแจ้งความกับ พ.ต.อ. กิตติชัย สังขถาวร ผกก. สภ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เพื่อให้ดำเนินคดีกับ บริษัทเอ็กซ์เพิร์ทโปรเน็ทเวิร์ค ตาม พรบ.อาหารและยา พ.ศ.2522 กรณีบัตรพลังงาน ฐานแสดงสลากไม่ถูกต้อง เลข อย. ไม่ตรงกับผลิตภัณฑ์อาหาร หลังจากที่ได้ตรวจสอบสินค้าของบริษัทซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารไปตรวจสอบแล้วพบว่าสลากไม่ถูกต้องและเลข อย.ไม่ตรงกับผลิตภัณฑ์ หลังจากที่ได้เข้าไปตรวจสอบบริษัท เมื่อวันที่ 13 มิย. 62

“ขอแนะนำว่าบัตรพลังงาน หรืออุปกรณ์ต่าง ๆนั้นไม่สามารถรักษาโรคได้ ถ้าหากเจ็บป่วยควรไปพบแพทย์ และทานยาตามที่แพทย์สั่งจะดีที่สุด"เภสัชกรวิไลวรรณ กล่าว

อย่างก็ไรตามก่อนหน้านี้เจ้าของบริษัทเอ็กซ์เพิร์ทโปรเน็ทเวิร์คได้ออกมาแถลงข่าวเพื่อชี้แจงเรื่องนี้โดยระบุว่าบัตรพลังงานไม่ใช่สินค้าของบริษัท

นายธนัช สุรินทร์ อายุ 46 ปี เจ้าของบริษัทเอ็กซ์เพิร์ทโปรเน็ทเวิร์คชี้แจงเรื่องนี้ว่า บัตรพลังงานไม่ใช้เป็นของบริษัทตนแต่เป็นของบริษัท “LA Geniusm”ที่มาเปิดในประเทศไทย แต่ขาดทุนจึงทิ้งบัตรเอาไว้จึงได้เอาไปเก็บไว้ และที่ชาวบ้านนำไปใช้ก็ไม่ได้เกี่ยวกับตนเลย และตนก็ไม่ได้มีผลประโยชน์ใดๆทั้งสินกับการแจกบัตรนี้ แต่ตนเคยใช้เหน็บที่เอวก็หายปวดจึงได้แจกให้กับคนอื่นๆที่ซื้อสินค้าที่เป็นอาหารเสริมเท่านั้น และไม่ทราบว่าบัตรนี้มีกี่แบบแต่บางใบมีชื่อของบริษัทตนอยู่ เพราะมีการทำขึ้นมาเป็นต้นแบบเสนอให้กับบริษัทตนเท่านั้น

นายธนัช ยังย้ำว่า บัตรนี้ไม่ใช่บัตรวิเศษแค่ช่วยบรรเทาอาการปวดเมื่อยอ่อนล้าจากการทำงานหนัก ซึ่งที่เคยลองใช้ก็ช่วยได้จริงๆ ซึ่งเป็นความรู้สึกส่วนตัวไม่เกี่ยวกับคนอื่น ประกอบกับสินค้าที่ตนขายก็เกี่ยวกับกล้ามเนื้อโดยตรง จึงนำบัตรนี้มาแจกให้ใช้ควบคู่กันไป

สำหรับบัตรนี้ทางบริษัท “LA Geniusm” ได้ทิ้งไว้หลังปิดกิจการที่ห้างสรรพค้าแห่งหนึ่งใน อ.หาดใหญ่ ประมาณ 1,000 ใบ และตนได้แจกไปเรื่อยๆใครมาขอก็ให้ไป ส่วนคนที่นำไปขายเช่นที่ จ.ขอนแก่นนั้น ตนไม่ทราบเพราะ ทางบริษัท “LA Geniusm” ได้ทำตลาดมาก่อนแล้ว เรื่องที่ชาวบ้านนำไปใช้นั้นตนไม่ทราบจริง

นายธนัช ยืนยันว่า บริษัทตนประกอบกิจการอาหารเสริมเพียงอย่างเดียวและตนก็เป็นเจ้าของเพียงคนเดียว เปิดมา 4 เดือนแต่จดทะเบียนไว้นานแล้วและเป็นธุรกิจเครือข่ายการทำตลาดขึ้นอยู่กับสภาพเศรษฐกิจ และหลังจากนี้กำลังรอหมายเรียกจากทางตำรวจเพื่อเข้าไปให้ปากคำเพิ่มเติม ส่วนจะฟ้องร้องหรือไม่นั้นยังไม่ได้คิด ที่ออกมาแถลงข่าวเพราะต้องการขอความเป็นธรรมเพราะบริษัทตนได้รับความเสียหายถูกมองว่าเป็นบริษัทลวงโลก แชร์ลูกโซ่ ซึ่งไม่เป็นความจริง ตนประกอบกิจการถูกต้องจำหน่ายสินค้าที่เป็นอาหารเสริมเพื่อสุขภาพไม่เกี่ยวกับบัตรพลังงานแต่อย่างใด