รถตู้หัวหิน-กรุงเทพฯหยุดกิจการ1รายสิ้นมิ.ย.นี้อ้างคสช.จัดระเบียบ

ประจวบคีรีขันธ์-รถตู้กรุงเทพฯ-หัวหินหยุดกิจการ1รายหยุดวิ่งสิ้นเดือนมิ.ย.นี้อ้างถูกคสช.จัดระเบียบทำลูกค้าเหลือน้อยและขนส่งไม่ต่อใบอนุญาตแล้ว

เฟซบุ๊กรถตู้กรุงเทพฯ-หัวหิน ของบริษัทจูนแอนด์เจมส์ทรานสปอร์ต ซึ่งเป็นผู้ประกอบการรถตู้โดยสารสาธารณะเส้นทาง กรุงเทพฯ-หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์โพสต์ข้อความระบุว่า 30 มิ.ย. 62 เตรียมปิดกิจการขอประกาศเลยว่า ธุรกิจเจ๊งเพราะคสช.ของรัฐบาลประยุทธ์ ขอบคุณทุกท่านที่เคยใช้บริการ RIP รถตู้สาธารณะ

ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบที่ตั้งคิวรถตู้โดยสารสาธารณะพบข้อมูลว่าจุดจำหน่ายตั๋วของรถตู้กรุงเทพฯ-หัวหิน- บริษัทจูนแอนด์เจมส์ทรานสปอร์ตได้ปิดให้บริการเพียง1 บริษัทส่วนผู้ประกอบการรถตู้รายอื่นยังคงเปิดให้บริการตามปกติ ซอยหัวหิน 51 อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ วันนี้มีลูกค้าที่เป็นชาวหัวหินและนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศทยอยเดินทางมาใช้บริการเรื่อยๆเพื่อเดินทางเข้าสู่พื้นที่กรุงเทพมหานคร

ผู้บริหารคิวรถตู้บริษัทจูนแอนด์เจมส์ทรานสปอร์ตรายหนึ่งได้ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ว่า สิ้นเดือนมิถุนายน นี้รถตู้ของบริษัทฯจะอายุครบ10 ปีและสำนักงานขนส่งจะไม่ต่อใบอนุญาตขนส่งสาธารณะให้ทำให้ไม่สามารถวิ่งรถให้บริการแก่ผู้โดยสารได้ตามปกติจากเดิมที่เคยมีรถตู้วิ่งในคิวกว่า100 คัน โดยมีจุดหมายปลายทางที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ แต่ภายหลังจากที่ คสช.ได้จัดระเบียบคิวรถตู้ทั่วประเทศเมื่อ 5 ปีที่ผ่านมานั้น ทำให้ต้องย้ายคิวไปอยู่ที่สายใต้ใหม่ปิ่นเกล้าแทนและคิวรถทุกคันต้องมาอยู่รวมกันทำให้การแข่งขันสูงขึ้นลูกค้าน้อยลงสุดท้ายจึงไม่สามารถประกอบกิจการต่อไปได้

บรรยากาศคิวรถตู้หัวหิน

นายสุทธิพันธ์ จิตนิยม อดีตคนขับรถตู้บริษัทจูนแอนด์เจมส์ทรานสปอร์ต เปิดเผยว่า สำหรับตนเองนั้นเดิมเคยมีรถตู้เป็นของตนเองจำนวน1คัน และเคยขับรถให้กับคิวของบริษัทจูนแอนด์เจมส์ทรานสปอร์ตกระทั่งมีการจัดระเบียบ มองอนาคตว่าไปไม่รอดเนื่องจากพบว่าเริ่มจะมีการแข่งขันในด้านการบริการที่สูงมากจึงตัดสินใจขายรถตู้ทิ้งแล้วออกจากบริษัทดังกล่าวมาสมัครเป็นพนักงานขับรถให้กับคิวอื่นแทน ซึ่งทำให้ตนเองไม่ต้องมาแบกภาระในการดูแลและบำรุงรักษาหรือผ่อนชำระค่างวดรถตู้ที่เป็นของตนเองแต่อย่างได ไม่ต้องเสี่ยงกับกรณีรถหมดอายุไม่สามารถต่อใบอนุญาตได้ รถบางคันยังผ่อนไม่หมดแต่อายุครบกำหนดต้องหยุดให้บริการก่อนไปก่อนซะแล้ว ซึ่งตนเองก็ยอมรับว่าการจัดระเบียบของ คสช.นั้นมีผลต่อผู้ประกอบการจากเดิมที่แต่ละบริษัทฯเคยอยู่คิวใครคิวมันตามที่ต่างๆทำให้ไม่ต้องแย่งลูกค้ากับบริษัทอื่นแต่เมื่อถูกจับมารวมกันทำให้แต่ละบริษัทฯต้องแย้งลูกค้ากันเองจนเกิดปัญหาขึ้นโดยหลังจากนี้เชื่อว่าจะเกิดปัญหาเพิ่มขึ้นอีกเวลาถึงเทศกาลวันหยุดยาวที่จะไม่มีรถวิ่งให้บริการประชาชนหรือรถมีไม่เพียงต่อกับความต้องการของประชาชน

นายบุญลือ พินอูป พนักงานขับรถตู้ อีกรายหนึ่ง กล่าวว่า สำหรับตนเองแล้วมีรถของตนเองเช่นกันและรถก็มีอายุใกล้ครบ10 ปีแล้ว และกำลังอยู่ในช่วงตัดสินใจว่าจะทำอย่างไรต่อไปซึ่งตามกฎหมายเมื่อรถตู้มีอายุครบ10 ปีจะไม่สามารถต่อใบอนุญาตเดินรถสาธารณะได้และไม่สามารถซื้อรถตู้คันใหม่มาขออนุญาตได้จะต้องซื้อรถมินิบัสแทนซึ่งราคาสูงกว่าหลายเท่าตัวซึ่งตนเองคงไม่มีปัญญาซื้อใหม่แน่นอน เพราะจากรถตู้ราคาคันละล้านกว่าบาท เมื่อตกแต่งแล้วเกือบ2ล้านบาทผ่อนกับไฟแนนท์ราคาก็สูงขึ้นอยู่แล้ว และหากจะต้องมาซื้อรถมินิบัสราคาเริ่มต้นคันละ3 ล้านกว่าบาทยังไม่รวมค่าตกแต่งซึ่งผู้ประกอบการส่วนใหญ่แบกรับภาระไม่ไหวในอนาคตรถตู้คงค่อยๆหมดไปเรื่อยๆซึ่งจะกระทบกับผู้โดยสารอย่างแน่นอน