ประมงพื้นบ้านเหิมขู่ระดมม็อบไล่ผู้ว่าฯเมืองคอน

นครศรีธรรมราช-ประมงพื้นบ้านเมืองคอนเดือด หลังถูกไล่จับอย่างหนักจนทำมาหากินไม่ได้ ยื่นข้อเสนอ 3 ข้อถึงนายกฯ ขีดเส้น 1 เดือนไม่ได้ผลมีม็อบไล่ผู้ว่าฯ

เมื่อวันที่ 10 มิ.ย. ที่ห้องประชุมโรงเรียนวัดมุขธารา ต.ปากนคร อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ได้มีกลุ่มชาวประมงพื้นบ้านในพื้นที่ ต.ท่าไร่ ต.ท่าซัก ต.ปากนคร ต.บางจาก ต.ปากพูน ของ อ.เมือง ประมาณ 500 คน ที่เดือดร้อนจากการถูกเจ้าหน้าที่ประมงไล่จับกุมทุกวัน และถูกดำเนินคดีในข้อหาใช้เครื่องมือทำประมงผิดกฏหมายในทะเลอ่าวไทย ทำให้ชาวประมงพื้นบ้านไม่สามารถทำหากินหารายได้เลี้ยงครอบครัวได้

ทั้งนี้ การนัดรวมตัวกันในครั้งนี้เพื่อหารือร่วมกัน หาทางแก้ปัญหาให้กับชาวประมงพื้นบ้าน โดยมีนายสายัณห์ ยุติธรรม และ ดร.รงค์ บุญสวยขวัญ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคพลังประชารัฐ และนายปรีชา แก้วกระจ่าง ผอ.พรรคพลังประชารัฐประจำจ.นครศรีธรรมราช ร่วมกันพบปะรับฟังปัญหาจากชาวประมงพื้นบ้าน โดยมีตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบจาก สภ.เมืองมาคอยดูแลรักษาความเรียบร้อยตลอดเวลา

อย่างไรก็ตาม ชาวบ้านได้นำเสนอปัญหาผ่านส.ส.พรรคพลังประชารัฐ เพื่อเสนอไปยังรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หามาตรการแก้ปัญหาช่วยเหลือ ผ่อนปรนให้ชาวประมงออกประกอบอาชีพได้ก่อนจะอดตาย นอกจากนั้นยังระบุว่า กรณีนายเอกรินทร์ แวววรรณจิตร อายุ 32 ปี ถูกเจ้าหน้าที่นำเรือตรวจการณ์พุ่งชนจนเรือประมงพังเสียหายจมกลางทะเล ต้องว่ายน้ำเข้าฝั่งเอาตัวรอด แถมยังถูกจับกุมดำเนินคดีศาลสั่งปรับ 10,000 บาท ที่น่าแค้นใจคือนายทุนหลายรายเจ้าหน้าที่ไม่จับกุม

ชาวบ้าน สะท้อนปัญหาว่า การที่ชาวประมงถูกดำเนินการอย่างหนัก เพราะมีบริษัทนายทุนแห่งหนึ่งที่เป็นเจ้าของสัมปทานเลี้ยงหอยแครงอ่าวปากนครร่วมมือกับเจ้าหน้าที่กับนายทุนไม่บังคับใช้ แต่มาใช้กฎหมายเด็ดขาดเอากับชาวประมงพ้นบ้าน จึงขอความเห็นใจจากจังหวัด แต่ชไม่ได้รับความเมตตา จึงต้องเสนอไปยัง นายกรัฐมนตรีผ่าน ส.ส.ให้ล้มเลิกสัมปทานหรือไม่ต่ออายุสัมปทานบริษัทนี้ หากไม่ได้รับการแก้ปัญหาภายใน 1 เดือน ชาวประมงทั้งจังหวัดจะประท้วงขับไล่ผวจ.นครศรีธรรมราช และประมงจังหวัดต่อไป

ด้าน รศ.ดร.รงค์ บุญสวยขวัญ กล่าวว่า สรุปข้อเสนอของชาวประมงพื้นบ้านที่มารวมตัวกัน 3 ข้อ คือ 1.ขอให้ทางจังหวัดทั้งผวจ.นครศรีธรรมราช และประมงอำเภอมีคำสั่งผ่อนปรนข้อกฎหมายให้ชาวประมงพื้นบ้านประกอบอาชีพได้ตามปกติ 2.ขอให้ยกเลิกสัมปทานการเลี้ยงหอยในปากอ่าวปากนคร เพื่อให้ชาวประมงพื้นบ้าน สามารถเข้าไปจับสัตว์น้ำได้ และ 3.ให้มีการแก้กฎหมายให้ชัดเจนโดยแยกรูปแบบวิธีการจัดการกับการทำประมงในเชิงพาณิชย์ และประมงพื้นบ้านออกจากกัน