posttoday

กองทัพภาค2ไม่ชี้ชัดอาวุธสงครามโยงกลุ่มโกตี๋

07 มิถุนายน 2562

นครราชสีมา-ข้อมูลไม่ตรงกัน! กองทัพภาคที่ 2 ระบุอาวุธสงครามที่พบในศรีสะเกษเคยเป็นเขตพื้นที่สู้รบของประเทศเพื่อนบ้าน ไม่ชี้ชัดเกี่ยวกับกลุ่มการเมือง

นครราชสีมา-ข้อมูลไม่ตรงกัน! กองทัพภาคที่ 2 ระบุอาวุธสงครามที่พบในศรีสะเกษเคยเป็นเขตพื้นที่สู้รบของประเทศเพื่อนบ้าน ไม่ชี้ชัดเกี่ยวกับกลุ่มการเมือง

กรณีการพบอาวุธสงครามทั้งกระสุน RPG และ M79 หลายร้อยลูกซุกซ่อนในคลองส่งน้ำบ้านขนุนเหนือ ต.สโน อ.ขุขันธ์ จ.ศรีสะเกษ โดยพล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ระบุว่า มีลักษณะคล้ายคลึงกับอาวุธที่ยึดได้จากกลุ่มของนายวุฒิพงศ์ กชธรรมคุณ หรือโกตี๋ นักเคลื่อนไหวกลุ่มเสื้อแดง เนื่องจากมีหมายเลขล็อตนัมเบอร์เหมือนกันในช่วงชุมนุมทางการเมือง เมื่อปี 2553 และ 2557

ล่าสุด พล.ต.อัครเดช บุญเทียม รองแม่ทัพภาคที่ 2 ในฐานะโฆษกกองทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า พื้นที่ที่ตรวจพบอาวุธสงครามเป็นเขตสู้รบช่วงที่ประเทศเพื่อนบ้านมีความขับแย้งภายใน ไม่ได้เป็นอาวุธสงครามของกองทัพภาคที่ 2 หรือกองทัพบก เพราะรุ่นของอาวุธสงครามเก่ากว่าอาวุธที่อยู่ในความครอบครองถึง40 ปีมาแล้ว ส่วนจะเป็นของใคร มาซุกซ่อนไว้เพื่อวัตถุประสงค์อะไรก็จะเป็นหน้าที่ของหน่วยข่าวกรองของกองทัพภาคที่ 2 และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนของตำรวจภูธรภาค 3 ที่จะร่วมกันค้นหาความจริงต่อไป

"จะเป็นอาวุธที่นำมาเพื่อไปขายในตลาดมืดหรือไม่ หรือมีไว้เพื่อก่อเหตุร้ายที่ใด ก็กำลังติดตามอยู่ตลอด ส่วนที่สงสัยว่าอาจจะเกี่ยวโยงกับกลุ่มการเมืองในประเทศหรือไม่ขณะนี้ยังไม่สามารถระบุได้ เพราะต้องมีข้อมูลที่ชัดเจนกว่านี้ก่อน" พล.ต.อัครเดช กล่าว

ทั้งนี้ฝากเตือนถึงประชาชนว่า การมีอาวุธสงครามไว้ในครอบครองจะมีโทษหนัก ซึ่งในช่วงที่ คสช.เปิดโอกาสนิรโทษกรรมให้ผู้ครอบครองอาวุธสงครามนำมามอบให้กับเจ้าหน้าที่ ก็ปรากฎว่ามีประชาชนนำมามอบให้จำนวนหลายตัน แม้ว่าช่วงนี้จะเลยช่วงนิรโทษกรรมมาแล้วก็ตามก็ยังมีช่องทางที่จะนำมามอบให้กับเจ้าหน้าที่ทหาร หรือตำรวจได้ หากผู้ครอบครองไม่ได้มีเจตนาก็สามารถอนุโลมเพื่อไม่ให้ผิดกฎหมายได้ แต่อย่านำไปซุกซ่อน หรือนำไปทิ้งไว้ในที่ต่างๆ เพราะกลัวความผิด ซึ่งอาจจะเกิดอันตรายกับผู้บริสุทธ์ได้