posttoday

จัดระเบียบ"แพเมืองกาญจน์" พ่อเมืองยันอีก 3 เดือนเห็นผล

30 มีนาคม 2562

อีก 3-4 เดือนจากนี้ แม่น้ำแควน้อย แควใหญ่ และแม่กลอง เขต จ.กาญจนบุรี ซึ่งมีแพให้บริการนักท่องเที่ยวจอดเรียงรายกันเป็นจำนวนมาก จะถูกจัดระเบียบใหม่ให้มีความเป็นระเบียบเรียบร้อยมากขึ้

โดย...ปิยรัชต์ จงเจริญ

อีกไม่นาน 3-4 เดือนนับจากนี้ แม่น้ำแควน้อย แควใหญ่ และแม่กลอง เขต จ.กาญจนบุรี ซึ่งมีแพให้บริการนักท่องเที่ยวจอดเรียงรายกันเป็นจำนวนมาก จะถูกจัดระเบียบใหม่ให้มีความเป็นระเบียบเรียบร้อยมากขึ้น

โดยปัจจุบันมีผู้ประกอบการแพเพื่อการท่องเที่ยวรวมทั้งสิ้น 80 ราย และมีจำนวนแพประมาณ 500 หลัง ส่วนใหญ่เป็นแพที่ยังไม่ได้รับอนุญาตถูกต้อง โดยกระจายอยู่ตามเขื่อนและลำน้ำของจ.กาญจนบุรี ซึ่งแม้ว่าการให้บริการแพท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะไม่ถูกต้อง แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า นี่คือ สัญลักษณ์การท่องเที่ยวอย่างหนึ่งของเมืองกาญจน์

จีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผวจ.กาญจนบุรี กล่าวถึงความคืบหน้าในเรื่องนี้ว่า การจัดระเบียบการจอดเรือแพนั้น มีอยู่ 3 ส่วน คือ 1.บ้านเรือนประชาชนที่มีการสร้างรุกล้ำลำน้ำ 2.แพที่จอดอยู่ต่อจากบ้านเรือนที่ปลูกสร้างรุกล้ำลำน้ำ และ 3.แพที่จอดอยู่บริเวณเขื่อนขุนแผนริมน้ำหน้าเมืองกาญจนบุรี ที่บดบังทัศนียภาพของแม่น้ำแควใหญ่

"ได้หารือกับทางธนารักษ์และเทศบาลเมืองกาญจนบุรี ขอพื้นที่บนบกบริเวณลานว่างด้านข้างสวนสมเด็จพระญาณสังวร มาสร้างเป็นบ้านพักอาศัยให้กับชาวบ้านที่ปลูกบ้านเรือน รุกล้ำลำน้ำ โดยทำสัญญาเช่ากับทางธนารักษ์ประมาณ 50 หลัง ชาวบ้านยินดีร่วมมือจะใช้งบฯ ยุทธศาสตร์จังหวัดประมาณ 20 ล้านบาท ส่วนแพจะนำไปจอดที่บริเวณคลองไส้ไก่ ด้านข้างสวนสมเด็จพระญาณสังวร"

ส่วนปัญหาเรื่องการจอดแพบริเวณเขื่อนขุนแผนเรียงรายจนบดบังทัศนียภาพของแม่น้ำนั้น ผวจ.กาญจนบุรี บอกว่า ได้หารือกับกรมเจ้าท่า ให้นำแพไปจอดในพื้นที่ที่จัดเตรียมไว้ให้บริเวณคลองไส้ไก่ ส่วนในการจะรับนักท่องเที่ยวขึ้นแพ ก็ให้เดินทางมารับนักท่องเที่ยว ที่บริเวณ ท่าจอดแพกลางที่จะจัดสร้างขึ้น ด้านข้างที่จอดรถสวนสมเด็จพระญาณสังวร

นอกจากนี้ ทางจังหวัดยังมีแผนพัฒนาตลอดทั้งลำน้ำแควเพื่อสร้าง ความเป็นระเบียบเรียบร้อยและเป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ของจังหวัด โดยจะขยับแพที่จอดระเกะระกะบริเวณ หน้าเมืองและตลอดลำน้ำเป็นลำดับ คาดว่าไม่น่าเกิน 3-4 เดือน โดยเตรียมงบประมาณเพื่อที่จะทำท่าเรือแพและสำนักงานให้ชาวแพ และได้พูดคุยกับ ชาวแพในการเข้าไปจอดรอรับนักท่องเที่ยวบริเวณบึงบัวแล้ว

ด้าน รัฏฐ์ชาพัชร กระจ่างฉายนายกสมาคมผู้ประกอบการชาวเรือ ชาวแพ กล่าวว่า ผู้ประกอบการยินดีที่ จะให้ความร่วมมือกับทางจังหวัด ทั้งเรื่องการรื้อถอนบ้านเรือนที่รุกล้ำลำน้ำขึ้น มาอยู่ บนบกให้ถูกต้อง รวมถึงการจัดระเบียบแพและการขึ้นทะเบียนแพในจังหวัด ซึ่งหากสามารถขึ้นทะเบียนแพได้จริง กลุ่มผู้ประกอบการจะยินดีมาก เพราะนอกจากจะเป็นการควบคุมจำนวนแพแล้ว เจ้าของแพยังสามารถทำเรื่องขอกู้เงินจากธนาคารหรือสถาบันการเงินเพื่อมาขยายธุรกิจของตนเองได้อีกด้วย

"แพแต่ละหลังนั้น เจ้าของต้องลงทุนในการสร้างเกือบ 1 ล้านบาท ต่อหลัง ขึ้นอยู่กับขนาดของแพ หากสามารถนำเอาแพที่ขึ้นทะเบียนไปกู้ เงินมาขยายและพัฒนาธุรกิจได้ก็จะยิ่งเป็นผลดีกับผู้ประกอบการเองด้วย"

รัฏฐ์ชาพัชร กล่าวอีกว่า นโยบายดังกล่าวของทางจังหวัด นอกจากจะ เป็นผลดีต่อภาพรวมการท่องเที่ยวเพื่อภาพลักษณ์ที่ดีแล้ว คาดว่าจะทำให้มี นักท่องเที่ยวให้ความสนใจเดินทางมาท่องเที่ยวล่องแพมากกว่าในปัจจุบัน

ต้องรอดูว่า อีก 3-4 เดือนนับจากนี้ การจัดระเบียบลำน้ำในเขต จ.กาญจนบุรี จะมีความเป็นระเบียบสวยงาม กลมกลืนโดยไม่ชมทับทัศนียภาพเดิมอันสวยงามได้หรือไม่ เพราะนี่คือหน้าตาการท่องเที่ยวของเมืองกาญจน์

นี่คืองานวัดฝีมือของ "จีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์" ผวจ.กาญจนบุรี