ตร.พบเบาะแสคนร้ายฆ่าสาวเมืองกาญจน์หมกร.ร.ย่านลาดพร้าว

กาญจนบุรี-คืบหน้าฆ่าโหดสาวเมืองกาญจน์ทิ้งศพหมกโรงแรมหรู ย่านลาดพร้าว ตำรวจพบเบาะแสคนร้าย เป็นหนุ่มแอฟริกัน แต่เดินทางออกนอกประเทศแล้ว

เมื่อเวลา 16.45 น. วันที่ 25 มี.ค. นายประพฤติ รื่นฤทธิ์ อายุ 63 ปี บิดาของ น.ส.ศุษมา รื่นฤทธิ์ อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 299/4 ถนนอู่ทอง ต.ปากแพรก อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ประกอบกิจการจิวเวลรี่ที่ จ.กาญจนบุรี เหยื่อสาวที่ถูกฆ่าเสียชีวิตในห้องพักโรงแรมแห่งหนึ่ง ภายในซอยลาดพร้าว 130 เขตบางกะปิ กทม.ได้เดินทางนำศพของบุตรสาวมายังศาลาสวดศพวัดเทวสังฆาราม (วัดเหนือ) พระอารามหลวง ต.บ้านเหนือ โดยมี นางบุญเตือน รื่นฤทธิ์ แม่และลูกชายหญิงฝาแฝดพร้อมญาติและเพื่อนผู้ตายรอรับศพท่ามกลางความโศกเศร้า โดยเฉพาะนางบุญเตือนผู้เป็นแม่ร้องให้จนเป็นลมล้มพับ

นายประพฤติ เปิดเผยว่า บุตรสาวได้ออกจากบ้านเมื่อเวลาประมาณ 19.00 น. ของวันที่ 23 มี.ค. เพื่อเดินทางไปส่งของคือพญาครุฑเลี่ยมทองล้อมเพชร ราคาแสนกว่าบาท นำไปส่งให้ลูกค้าที่น่าจะนัดเจอกันที่โรงแรมดังกล่าว โดยเดินทางไปกับเพื่อน ก่อนไปยังเอาสินค้ามาให้ดู ต่อมาช่วงบ่ายของวันที่ 24 มี.ค.ตำรวจสน.ลาดพร้าวแจ้งมาว่าลูกสาวถูกฆ่าเสียชีวิตในโรงแรมที่พัก ทราบว่าผู้ต้องสงสัยเป็นชายชาวแอฟริกา ซึ่งทางพนักงานของโรงแรมบอกว่า ก่อนหน้านี้ผู้ต้องสงสัยรายนี้เคยมาพักที่โรงแรมและหลังเกิดเหตุทางตำรวจได้ติดตามตัวผู้ต้องสงสัยทราบว่าได้เดินทางออกนอกประเทศไปฮ่องกงแล้ว

นายประพฤติ กล่าวว่า โดยปกติลูกรสาวเป็นคนร่าเริงมีครอบครัวแล้ว แต่งงาน นายเฮนรี่ โอเคชุกุ วาดิเค ชาวไนจีเรีย มีลูก 3 น คนโตเป็นฝาแฝดชายหญิงอายุ 6 ขวบ ส่วนคนเล็กเพศชาย อายุ 4 ขวบ อยู่ประเทศไนจีเรีย แต่ฝาแฝดชายหญิงอยู่บ้านที่จ.กาญจนบุรี ในส่วนของการค้าขาย พวกเรารับจ้างทำตัวเรือนและค้าขายพลอย ในส่วนของลูกค้ารายนี้น่าจะมีการติดต่อสั่งทำของกับลูกสาวหลายครั้ง จนทำให้ลูกสาวเชื่อใจ แต่ก็ไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้น จึงมีการฆ่ากัน ในส่วนของลูกสาวก็มีทรัพย์สินและเครื่องประดับ อาทิ สร้อยคอทองคำหนัก 10 กว่าบาท และเครื่องประดับกับเงินสดคิดเป็นมูลค่าประมาณ 7 แสนบาทหายไปจากที่เกิดเหตุด้วย จึงอยากให้ทางตำรวจเร่งติดตามคนร้ายรายนี้มาลงโทษตามกฎหมายให้ได้