posttoday

หนุ่มเตรียมฟ้องกลับ หลังตกเป็นแพะในคดีฆ่าน้องเพลงหลังศาลฎีกายกฟ้อง

21 มีนาคม 2562

หนุ่มตรังหารือทนายเตรียมฟ้องกลับผู้ที่ทำให้เสียหาย หลังตกเป็นแพะในคดีฆ่าเด็กหญิง11ปีต้องติดคุกถึง4ปีจนล่าสุดศาลฎีกาพิพากษายกฟ้อง

หนุ่มตรังหารือทนายเตรียมฟ้องกลับผู้ที่ทำให้เสียหาย หลังตกเป็นแพะในคดีฆ่าเด็กหญิง11ปีต้องติดคุกถึง4ปีจนล่าสุดศาลฎีกาพิพากษายกฟ้อง

จากกรณีที่ศาลฎีกา ได้มีคำพิพากษา ยกฟ้อง นายประถมพงษ์ หมื่นบาล อายุ 38 ปี หลังตกเป็นผู้ต้องหาฆ่า ด.ญ.เกตุมาตุ หรือน้องเพลง อายุ 11 ปี (ขณะนั้น) ในความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน พรากเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีไปเสียจากบิดา มารดา ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแล เพื่อการอนาจาร ซ่อนเร้น ย้าย หรือทำลายศพ หรือส่วนของศพ เพื่อการปิดบังการเกิด การตาย หรือเหตุแห่งการตาย

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 12 พ.ค.2557 เมื่อมีผู้พบศพ น้องเพลง ถูกฆ่ายัดท่อระบายน้ำ บริเวณ ถ.วัดพระงาม-บ้านควน ม.7 ต.บ้านโพธิ์ อ.เมืองตรัง กระทั่งต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุม นายประถมพงษ์ มาดำเนินคดี ซึ่งศาลชั้นต้น ได้พิพากษาให้รับโทษประหารชีวิต แต่ต่อมาศาลอุทธรณ์ ได้มีคำพิพากษาลดโทษเหลือจำคุกตลอดชีวิต กระทั่งมาถึงศาลฎีกา ได้มีคำพิพากษายกฟ้อง นายประถมพงษ์

นายประถมพงษ์ ได้เปิดใจหลังได้รับการปล่อยตัวจากเรือนจำว่า เป็นการคืนความมบริสุทธิ์ยุติธรรมให้กับตน เพราะศาลเห็นว่าตนไม่ใช่ผู้กระทำ จึงยกฟ้องให้ โดยช่วงที่ถูกจำคุก 4 ปีนั้น รู้สึกเหมือนจะบ้า และเคยคิดที่จะทำร้ายตัวเอง อีกทั้งช่วงนั้นทางครอบครัวก็ลำบากมาก เป็นหนี้สินเยอะ เพราะต้องหาเงินเพื่อต่อสู้คดี และลูกก็ไม่ได้เรียนถึง 2 คน เพราะส่งเสียให้ไม่ทัน และอีก 2 คนต้องให้พี่ไปรับเลี้ยงไว้

"ผมและครอบครัวยังถูกตราหน้าว่า เป็นคนชั่ว คนเลว ของสังคม ส่วนลูกก็ไม่อยากไปโรงเรียนเพราะถูกเพื่อนล้อเพื่อแกล้ง ดังนั้น เมื่อศาลคืนความยุติธรรมให้กับผมแล้ว จึงอยากให้สังคมคืนความยุติธรรมให้กับผมด้วย พร้อมอยากฝากบอกว่า ก่อนที่จะฟังข่าวสารอะไร ให้ใช้จิตสำนึกคิดก่อน ซึ่งข่าวที่ปรากฏออกไป หรือที่เสนอไป ก็ไม่ควรตัดสินว่า คนนั้นไม่ดี เพราะบางครั้งก็ไม่ใช่ทุกคน"นายประถมพงษ์กล่าว

ด้าน นายสายัน หมื่นบาล พี่ชายของ นายประถมพงษ์ กล่าวว่า วันนี้ทางครอบครัวรู้สึกดีใจมาก เพราะรู้อยู่แล้วว่าน้องชายไม่ได้ก่อเหตุตั้งแต่ต้น และรอโอกาสนี้มานานแล้ว จึงขอบคุณศาลที่ให้ความเมตตากับครอบครัว เพราะเมื่อก่อนไปไหนมาไหนก็มีแต่ถูกคนประณามหยามเหยียด รวมทั้งไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่า เรื่องแบบนี้จะมาเกิดกับครอบครัว จึงอยากเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องออกมาแสดงความรับผิดชอบต่อเรื่องนี้ด้วย เพราะได้ทำให้ชื่อเสียงของครอบครัวเสียหาย โดยเฉพาะตำรวจที่เป็นเจ้าของเรื่อง

ขณะที่ นายวิฑูรย์ องอาจ ทนายความในคดีนี้ กล่าวว่า เริ่มแรกเมื่อเข้ามาแสวงหาพยานหลักฐาน ได้เจอข้อพิรุธหลายประการ จึงเชื่อว่าคนร้ายไม่ใช่ นายประถมพงษ์อย่างแน่นอน แต่ในเรื่องนี้สังคมค่อนข้างชี้นำว่าจำเลยเป็นผู้กระทำความผิดมาโดยตลอด แม้กระทั่งมีการออกข่าวว่าพบดีเอ็นเอของจำเลย หรืออะไรก็แล้วแต่ ซึ่งนำไปสู่การออกหมายจับจำเลย จนทุกคนคิดว่าจำเลยเป็นคนร้าย อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้ก็คงจะต้องดูข้อมูลและหลักฐานต่างๆ เพื่อเตรียมที่จะฟ้องกลับกับผู้ที่มีส่วนทำให้เกิดความเสียหายในครั้งนี้ต่อไป