นิสิตสถาปัตย์ม.นเรศวรแจงรับน้องลงเสาเอกไม่รุนแรง

พิษณุโลก-นิสิตสถาปัตย์ม.นเรศวรแจงข้อเท็จจริงภาพรับน้อง"ลงเสาเอก"หลังเพจดังนำไปเผยแพร่ยันไม่รุนแรงขออย่าบิดเบือนข้อเท็จจริง

เมื่อวันที่ 20ก.พ.62 กรณีเพจเฟซบุ๊ก ANTI SOTUS โพสต์ภาพกิจกรรมการรับน้องใหม่ของคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร จ.พิษณุโลก ในพิธีลงเสาเอกประจำปีการศึกษา 2561ในสภาพเนื้อตัวเปรอะเปื้อนดินโคลน นอนราบลงกับพื้นดินที่เปียกแฉะ และบางภาพมีการใช้ผ้าโพกศีรษะปิดหน้าปิดตา ทำให้ชาวโซเชียลมีเดียเข้าไปคอมเม้นท์พูดคุยถึงกิจกรรมนี้ว่าจัดขึ้นอย่างเหมาะสมหรือไม่

น.ส.ปานตะวัน กองละคร นิสิตชั้นปีที่ 3 เปิดเผยว่า เพจเฟซบุ๊กที่นำรูปภาพไปลงนั้นได้โพสต์ข้อความบิดเบือนจากความจริง กิจกรรมที่เกิดขึ้นเป็นภาพบรรยากาศการรับน้องใหม่ หรือพี่สู่ขวัญน้อง ประจำปีการศึกษา 2561 สถมน. รุ่น 23/2561 ก่อร่างสร้างเสานี้เป็นโครงการลงหลักปักเสาจัดเป็นประเพณีประจำทุกปี เป็นกิจกรรมที่มีมานานตั้งแต่ สถ.รุ่นที่ 4 โดยให้นิสิตปี 1 ที่อยากร่วมกิจกรรมช่วยกันขุดหลุมและนำเสาประจำรุ่นปักไว้หน้าคณะ โดยมีอาจารย์ ศิษย์เก่า มาร่วมกันขุดดิน และมีการมอบทุนการศึกษาให้กับรุ่นน้องที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ จากนั้นรุ่นพี่จะช่วยกันล้างและเช็ดหน้าที่เปื้อนโคลนให้พร้อมกับผูกข้อไม้ข้อมือเพื่อเป็นการรับขวัญ และมีการประกอบพิธีพราหมณ์ ตลอดการจัดกิจกรรมจะมีอาจารย์และเจ้าหน้าที่หน่วยพยาบาลดูแลการจัดกิจกรรมของน้องๆ ตลอดจนจบเป็นอย่างดี

ด้าน น.ส.ปาริมา  สุขเลิศ นิสิตชั้นปีที่ 3 กล่าวว่า กิจกรรมลงเสาเอกเป็นเรื่องที่น่าภาคภูมิใจ แสดงถึงความเป็นคณะสถาปัตย์ เพราะทุกครั้งที่จะสร้างบ้านจะต้องมีการขุดหลุมเพื่อลงเสาเอกให้ฐานรากมีความมั่นคงแข็งแรง เป็นจุดเริ่มต้นของน้องๆ ไม่ใช่ว่าจำใจต้องทำหรือบังคับ จึงอนุรักษ์ไว้และไม่มีใครคัดค้าน น้องใหม่แต่ละคนล้วนมากันคนละครอบครัว แต่เมื่อมาอยู่รวมกันต้องรักใคร่สามัคคีกัน พิธีลงเสานี้จะทำให้น้องๆ รู้จักช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ถ้าใครยกเสาไม่ไหวก็จะรีบเข้าไปช่วยแบก สุดท้ายอยากจะให้เพจที่นำรูปและข้อมูลไปโพสต์ผิดๆควรจะสอบถามข้อเท็จจริงเสียก่อนเพราะจะทำให้บุคคลภายนอกเข้าใจไปในทางที่ผิดได้

ขณะที่ นายภาณุวัฒน์  จันธิมา นิสิตชั้นปีที่ 1 น้องใหม่คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ กล่าวว่า กิจกรรมนี้เป็นกิจกรรมที่สนุก เพื่อนๆ ทุกคนได้ร่วมแบกเสาและขุดหลุมลงเสาด้วยกัน ทำให้เพื่อนที่ไม่รู้จักกันมาก่อนรักกันมากขึ้น เพราะกิจกรรมนี้จะคอยช่วยเหลือซึ่งกันและกัน เวลาใครหมดแรงก็จะให้เพื่อนอีกคนมาเปลี่ยน ภาพกิจกรรมที่เพจนำไปเผยแพร่เป็นเพียงแค่บางส่วนที่ภาพอาจจะดูรุนแรงแต่ภาพที่สื่อไปในทางทีดีก็มีเยอะมากกลับไม่ถูกนำไปชี้แจงหรือเผยแพร่แต่อย่างใด.