posttoday

ยืนยันพระสงฆ์ในจังหวัดชายแดนใต้ออกบิณฑบาตตามปกติ เตือนงดแชร์คลิปสร้างความตระหนก

21 มกราคม 2562

โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 สน.เผยพระจาก388 วัดในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ยังออกบิณฑบาตตามปกติ เตือนระมัดระวังการแชร์คลิปเสียงสร้างความตื่นตระหนก

โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 สน.เผยพระจาก388 วัดในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ยังออกบิณฑบาตตามปกติ เตือนระมัดระวังการแชร์คลิปเสียงสร้างความตื่นตระหนก

เมื่อวันที่ 21 ม.ค. 62 เวลา 10.30 น. ที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ค่ายสิรินธร ต.เขาตูม อ.ยะรัง จ.ปัตตานี พันเอก ปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า กล่าวว่า จากกรณีที่กลุ่มผู้ไม่หวังดีได้มีการปล่อยข่าวลือและข่าวลวง เป็นคลิปเสียงและข้อความ เผยแพร่ในสื่อสังคมออนไลน์ ที่ทำให้สังคมเชื่อว่ากลุ่มคนร้าย เตรียมการก่อเหตุในพื้นที่ โดยภายหลังได้มีการแชร์คลิปเสียงและข้อความดังกล่าวอย่างแพร่หลาย สร้างความตื่นตระหนกหวาดกลัว ส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิตของพี่น้องประชาชนอย่างกว้างขวาง

ในการนี้ แม่ทัพภาคที่ 4 ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ได้สั่งการให้หน่วย ทำการตรวจสอบ ข่าวดังกล่าว ในเบื้องต้น พบว่าเป็นข่าวลวง ที่มีเจตนาให้เกิดความวุ่นวาย และตื่นตระหนก ปัจจุบันอยู่ระหว่างการสืบค้น ขยายผลไปยังตัวบุคคล ผู้ผลิต และปล่อยข่าวมาลงโทษตามกระบวนการทางกฎหมาย

"ในช่วงที่ผ่านมา นอกจาก กลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงพยายามสร้างสถานการณ์ ในพื้นที่อย่างต่อเนื่องแล้ว ยังมีกลุ่มผู้ไม่หวังดี ที่ฉกฉวยโอกาส ซ้ำเติมสถานการณ์ด้วยการปลุกระดม และปล่อยข่าวลือ เพื่อให้เกิดความตื่นตระหนก หวัดกลัว เกิดความปั่นป่วนและความวุ่นวายในพื้นที่ ซึ่งพฤติกรรมดังกล่าว ผิดกฎหมายอาญา ตามมาตรา 116 ข้อหา ยุยงปลุกปั่น เพื่อให้เกิดความปั่นป่วน ส่งผลกระทบต่อความมั่นคง มีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี

สำหรับ ผู้ที่แชร์ข้อมูลต่อ หากพบว่า มีเจตนากระทำด้วยความจงใจ ก็จะเข้าข่ายกระทำความผิด พรบ.คอมพิวเตอร์ มาตรา 14 มีอัตราโทษจำคุก ไม่เกิน 5 ปี และปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

นอกจากนี้ การแจ้งเตือนข่าวความเคลื่อนไหว ของกลุ่มก่อเหตุรุนแรงจะต้องเป็นข่าวที่ผ่านการรับรองจากหน่วยงานความมั่นคงของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า เท่านั้น ดังนั้นหากพบข่าวลักษณะดังกล่าว ขออย่าได้ตื่นตระหนก และให้มีการสอบถามเจ้าหน้าที่ให้ได้ข้อสรุปก่อนแชร์ หรือส่งต่อ" พันเอก ปราโมทย์ กล่าว

โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ยังกล่าวอีกว่า หลังจากเกิดเหตุคนร้ายยิงพระสงฆ์ในพื้นที่ จ.นราธิวาส มาตรการในการดูแลเป้าหมายอ่อนแอในพื้นที่ ได้มีการปรับเปลี่ยนมาตรการการรักษาความปลอดภัย เหตุการณ์ในครั้งนี้ถือเป็นบทเรียน เพราะที่ผ่านมาในการดูแลความปลอดภัย บางครั้งจะต้องสอบถามว่าต้องการหรือไม่ ซึ่งส่วนใหญ่เมื่อเหตุการณ์เบาบางลง ทางกลุ่มเป้าหมายอ่อนแอ ก็จะเกรงใจเจ้าหน้าที่

ทั้งนี้ท่านแม่ทัพภาค 4 ได้สั่งการให้ไปทำการสำรวจชุมชนล่อแหลม เป้าหมายเชิงสัญลักษณ์ วัด ทุกวัด ทุกสำนักสงฆ์ ทั้ง 388 แห่ง ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ จะต้องมีการวางแผนในการรักษาความปลอดภัย ทุกวัดจะต้องมีเจ้าหน้าที่ ทั้งพลเรือน ตำรวจ ทหาร กำลังภาคประชาชน จะต้องมาดูแล อย่างน้อย 1 ชุดปฎิบัติการ เพื่อดูแลความปลอดภัย

"ส่วนข่าวลือเรื่องงดบิณฑบาต ก็ไม่เป็นเรื่องจริง ท่านแม่ทัพภาค 4 ไม่เคยสั่ง ท่านสั่งเพียงแค่ให้ไปวางระบบรักษาความปลอดภัย ในขณะที่บิณฑบาต ซึ่งจะห้ามไม่ได้ เพราะเป็นกิจของสงฆ์ และเป็นความศรัทธาของพุทธศาสนิกชน ทำเพียงแค่การวางระบบในการดูแลรักษาความปลอดภัย ยกเว้นบางพื้นที่ ถ้าเป็นข้อตกลงของคณะกรรมการวัด หรือเป็นข้อสั่งการจากสำนักพุทธ ก็คงจะไปห้ามไม่ได้ และก็จะมีการจัดภัตราหารไปถวายให้ที่วัด แต่ขณะนี้ทั้ง 388 วัด พระยังคงออกบิณฑบาตเหมือนเดิมตามปกติ" โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า กล่าว