ผบช.ภาค4 ยันศพฆ่าถ่วงน้ำไม่ได้เกิดฝั่งไทย พบกุญแจมือที่ใส่ไม่มีใช้ในประเทศ

ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 ระบุเจ้าหน้าที่พบหลักฐานศพฆ่าถ่วงน้ำในแม่น้ำโขงไม่ได้เกิดในไทย ชี้กุญแจมือที่ศพเป็นอุปกรณ์ผลิตจากจีน ไม่มีใช้ในไทย เร่งประสาน สปป.ลาว ร่วมคลี่คลาย

ผู้สื่อข่าวรายงาน ความคืบหน้าเกี่ยวกับคดีฆาตกรรมฆ่าถ่วงน้ำชายนิรนาม โดยศพได้ลอยมาติดริมฝั่งน้ำโขง ในเขตพื้นที่ อ.เมือง และ อ.ธาตุพนม โดยสภาพศพถูกใส่กุญแจมือ ล็อกแขน รวมถึงมัดขาทั้ง 2 ข้าง รวมทั้งยังถูกคว้านท้องยัดเสาปูนไว้ภายใน และนำยัดกระสอบป่านมัดด้วยเชือกตาข่าย โดยทาง พล.ต.ต.ธนชาติ รอดคลองตัน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม ได้ตั้งคณะทำงาน เพื่อเร่งสืบสวน คลี่คลายปมคดีฆาตกรรม ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการส่งศพไปตรวจพิสูจน์ที่สถาบันนิติเวช

ล่าสุดเมื่อวันที่ 2 ม.ค. พล.ต.ท.สุรชัย ควรเตชะคุปต์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 ได้ร่วมประชุมกับเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องเพื่อสรุปความคืบหน้าของคดี

พล.ต.ท.สุรชัย กล่าวว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการส่งศพไปตรวจพิสูจน์ ชันสูตร ที่สถาบันนิติเวช จ.ขอนแก่น ตามขั้นตอน เมื่อทราบผลแล้วจะนำมาประกอบการดำเนินคดี ในการเทียบดีเอ็นเอ รวมถึงตรวจสอบอัตลักษณ์บุคคล รวมทั้งขอฝากไปถึง ประชาชนที่ทราบเบาะแส หรือญาติผู้เสียหาย หากมีข้อมูลสำคัญ สามารถเข้าให้ข้อมูลเพิ่มเติมแก่ตำรวจได้ทันที

จาการตรวจสอบเบื้องต้น เจ้าหน้าที่พบหลักฐานหลายอย่างที่บ่งชี้ ว่า การก่อเหตุไม่ได้เกิดในประเทศไทย โดยเฉพาะกุญแจมือ จากการตรวจสอบ สัญลักษณ์ตัวอักษร ที่มาของการผลิต พบว่ามาจากประเทศจีน และเป็นอุปกรณ์ที่ไม่มีใช้ในประเทศไทย ทำให้มั่นใจว่า การก่อเหตุมาจาก สปป.ลาว ก่อนทิ้งศพลงในน้ำโขง และเชื่อว่า เป็นการก่อเหตุจากพื้นที่อื่นที่มีระยะทางไกล เพราะจากสภาพศพที่เน่าเปื่อย เชื่อว่ามีการก่อเหตุฆาตกรรมมาแล้วไม่ต่ำกว่า 5 -7 วัน ซึ่งจะต้องมีระยะทางที่ศพไหลมากับน้ำโขง ไม่ต่ำกว่า 300-400 กิโลเมตร

ส่วนการกระทำยังไม่สามารถระบุได้ว่า จากกลุ่มไหน และผู้ตาย ยังไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่า เป็นสัญชาติไหน เพราะต้องรอผลตรวจชันสูตรโดยละเอียด แต่ได้มีการสั่งการให้ตำรวจ ประสานทุกท้องที่ เพื่อตรวจสอบหากมีผู้เสียหาย มีญาติหรือบุคคลสูญหาย มาร่วมตรวจสอบให้ข้อมูล นอกจากนี้ยังได้ประสานไปยัง ทางการ สปป.ลาว เพื่อร่วมคลี่คลายคดี

"หากผลตรวจชันสูตรออกมาว่า เป็นคนไทย และถูกฆาตกรรมมาจากประเทศเพื่อนบ้าน จะได้รวบรวมหลักฐานเพื่อดำเนินคดีต่อไป ซึ่งหากใครที่คาดว่าเป็นญาติ หรือเป็นคนไทย สามารถมาร้องทุกข์กับตำรวจ เพื่อจะได้ทำเรื่องถึงอัยการสูงสุด แต่งตั้งพนักงานสอบสวน ทำคดีที่เกิดขึ้นนอกราชอาณาจักร เจ้าหน้าที่ตำรวจยืนยันว่าจะเร่งคลี่คลายคดีให้เร็วที่สุด"ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4กล่าว