posttoday

กรมเจ้าท่าลุยตรวจการสร้างบ้านรุกล้ำแม่น้ำพิจิตร

22 ธันวาคม 2561

พิจิตร-กรมเจ้าท่าเอาจริงลุยตรวจสร้างบ้านรุกล้ำแม่น้ำพิจิตรสั่งรื้อถอนหากฝ่าฝืนจะดำเนินคดีตามกฎหมาย

พิจิตร-กรมเจ้าท่าเอาจริงลุยตรวจสร้างบ้านรุกล้ำแม่น้ำพิจิตรสั่งรื้อถอนหากฝ่าฝืนจะดำเนินคดีตามกฎหมาย

เมื่อวันที่ 22 ธ.ค. 2561 นายสุชิน ธรรมพิทักษ์ ผอ.การสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขานครสวรรค์ พร้อมด้วย พ.อ.วีรวัฒน์ วิวัฒน์วานิช รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดพิจิตร ได้ร่วมกันลงพื้นที่ติดตามความก้าวหน้าของโครงการขุดลอกและพัฒนาคลองข้าวตอก – แม่น้ำพิจิตร ซึ่งเป็นความร่วมมือกันระหว่างจังหวัดพิจิตร ร่วมกับมูลนิธิอุทกพัฒน์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ และกองทัพภาคที่ 3 (กองพันทหารช่างที่ 8 กองพลทหารม้าที่ 1 ) ที่ได้นำเครื่องจักรมาเป็นผู้ดำเนินการ ภายใต้งบประมาณ 10.3 ล้านบาทเศษ ทั้งนี้ เพื่อเป็นการแก้ปัญหา น้ำท่วม-ภัยแล้ง รวมถึงให้แม่น้ำพิจิตรและคลองข้าวตอกได้เป็นพื้นที่หน่วงน้ำเพื่อกระจายน้ำและกักเก็บน้ำเป็นแก้มลิงอันจะส่งผลให้จังหวัดอื่นๆที่อยู่พื้นที่ลุ่มเจ้าพระยาและกรุงเทพฯรอดพ้นจากน้ำท่วมได้ระดับหนึ่ง

จากนั้น นายสุชิน ธรรมพิทักษ์ได้ลงพื้นที่ตรวจแม่น้ำพิจิตร ซึ่งพบว่าบริเวณในเขตริมแม่น้ำพิจิตรของตำบลเมืองเก่า อำเภอเมืองพิจิตรมีประชาชนสร้างบ้านเรือนรุกล้ำเข้าไปในแม่น้ำพิจิตรจำนวนหลายร้อยหลังคาเรือน ซึ่งก่อนหน้านี้ก่อนที่จะมีการประกาศบังคับใช้กฎหมายของกรมเจ้าท่าก็ได้ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนที่ปลูกสร้างบ้านเรือนหรืออาคารที่รุกล้ำเข้าไปในแม่น้ำพิจิตรให้มาดำเนินการจดแจ้งหรือขึ้นทะเบียนพร้อมทั้งรับทราบกฎกติกา-ระเบียบ-กฎหมายต่างๆ จนเป็นที่เข้าใจ และได้มีการประกาศและสั่งการแล้วว่านับต่อจากนี้รัฐบาลมีนโยบายจะพัฒนาแม่น้ำพิจิตรและคลองข้าวตอก ดังนั้น จึงห้ามอย่างเด็ดขาดว่า ห้ามมิให้สร้างบ้านเรือนหรือสิ่งปลุกสร้างรุกล้ำเข้าไปในแม่น้ำพิจิตรและคลองข้าวตอก โดยได้มีการใช้โดรนบินถ่ายภาพมุมสูงเก็บไว้เป็นหลักฐานและข้อมูลของทางราชการตลอดเส้นทาง 127 กิโลเมตร ของแม่น้ำพิจิตร

ล่าสุดหลังจากลงพื้นที่เพื่อตรวจดูความเป็นระเบียบเรียบร้อยก็พบว่าในแม่น้ำพิจิตรบริเวณตำบลเมืองเก่ามีราษฎร 4-5 ราย ที่ไม่เชื่อฟังและไม่เคารพยำเกรงกฎหมายได้ดำเนินการปลูกสร้างบ้านเรือนรุกล้ำไปในแม่น้ำพิจิตร ทั้งๆที่รู้ว่าเร็วๆนี้จะมีการขุดลอกแม่น้ำพิจิตรเพื่อประโยชน์กับเกษตรกรและคนกลุ่มใหญ่เกือบ 3 หมื่นครอบครัว จะได้มีน้ำไว้ใช้เพื่อการเกษตรและเป็นแก้มลิงแก้ปัญหาน้ำท่วม-ภัยแล้ง ซึ่งการกระทำดังกล่าวถือเป็นความผิดตามกฎหมายเบื้องต้นได้ให้โอกาสผู้ที่กระทำผิดขอให้ทำการรื้อถอนบ้านเรือนและสิ่งปลูกสร้างออกจากแม่น้ำพิจิตรให้แล้วเสร็จภายใน 3 เดือน ซึ่งหากไม่ดำเนินการก็จะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป