posttoday

ออกหมายจับ"แบงก์ เทพารักษ์"ตบยายดับ ลูกเผยทองแม่หนัก 1 บาทหายไป

19 ธันวาคม 2561

ลูกชาย "ยายติ๋ม" ระบายความแค้นทั้งน้ำตา ลั่น "เบนซ์ เทพารักษ์" ต้องถูกจับ ยันเอาเรื่องให้ถึงที่สุด เผยหลังเกิดเหตุทองแม่หนัก 1บาท หายไป ด้าน ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น ออกหมายจับแล้ว

ลูกชาย "ยายติ๋ม" ระบายความแค้นทั้งน้ำตา ลั่น "เบนซ์ เทพารักษ์" ต้องถูกจับ ยันเอาเรื่องให้ถึงที่สุด เผยหลังเกิดเหตุทองแม่หนัก 1บาท หายไป  ด้าน ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น ออกหมายจับแล้ว

จากกรณี นาย เบนซ์ ชายอายุ 17 ปี นักเลงขาใหญ่ประจำซอย คนในชุมชนเทพารักษ์ เขตเทศบาลนครขอนแก่น ก่อเหตุทำร้ายร่างกายนางวนิดา  แพนุ่น อายุ 62 ปี หรือยายติ๋ม เจ้าของร้านขายของชำ ภายในชุมชนเทพารักษ์ เขตเทศบาลนครขอนแก่น จนเสียชีวิต ก่อนนำศพยายติ๋ม มาทิ้งไว้ริมถนน

ล่าสุด เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 19 ธ.ค.2561  นายนฤดล แพนุ่น อายุ 32 ปี  อยู่บ้านเลขที่ 48 ม.1 ต.คำแคน อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น ลูกชายยายติ๋ม ได้เข้ามาที่ร้านของยายติ๋ม เพื่อตรวจสอบทรัพย์สิน และการร่วมพูดคุยกับคนในชุมชนเพื่อสอบถามถึงเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้น รวมทั้งการเตรียมให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยนายนฤดล กล่าวว่า โดยปกติแล้วไม่ได้อาศัยอยู่กับมารดา เพราะต้องทำงาน โดยที่มารดาหลังจากบิดาเสียชีวิต ก็ได้มาเช่าที่ริมถนนเทพารักษ์ แห่งนี้ เพื่อขายของชำเล็กๆน้อยๆมาเป็นเวลาประมาณ 30 ปีแล้ว โดยที่ตนเองนั้นมีพี่สาวรับราชการอยู่ต่างพื้นที่ โดยแวะเวียนมาเยี่ยมมารดาบ้าง รวมทั้งการให้เงินทองกับมารดาใช้จ่ายตามสมควร โดยยืนยันว่าคุณแม่มารดาและครอบครัวไม่เคยมีปัญหากับใคร

"หลังเกิดเหตุผมได้เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว และวันเดียวกันได้กลับมาที่ร้านของคุณแม่ ซึ่งพบสิ่งของตก พัดลมล้ม แต่ผมก็ยังคงไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้น  เพราะต้องรับศพคุณแม่นำกลับไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีที่บ้าน ที่ อ.มัญจาคีรี แต่ด้วยความสงสัยจึงย้อนกลับมาตรวจสอบรายละเอียดต่างๆที่คาดว่าจะเกี่ยวข้องกับการที่คุณแม่ที่ถูกทำร้าย ซึ่งได้รับความร่วมมือกับคนในชุมชนเป็นอย่างดี โดยเฉพาะกับการที่พลเมืองดีให้ดูคลิปจากกล้องวงจรปิด จึงพบว่าคุณแม่ถูกนายเบนซ์ทำร้ายร่างกายอยู่ข้างถนน ขณะนำขยะไปทิ้ง และพากันเดินเข้าไปในชุมชนเทพารักษ์ ซึ่งในชุมชนเทพารักษ์ไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้น จึงได้พยายามสอบถามจากคนในชุมชน จึงทราบว่าหลังจากที่คุณแม่เปิดร้านในช่วงเช้าตรู่  โดยได้นั่งดื่มกาแฟอยู่หน้าร้าน นายเบนซ์เดินเข้ามาพูดคุยและมีการยื้อแย่งกันอยู่หน้าร้านจนสิ่งของตกหล่น พัดลมล้ม จากนั้นนายเบนซ์ก็เดินออกจากร้านไป คุณแม่จึงเก็บกวาดสิ่งของที่ร้าน และนำขยะไปทิ้ง จากนั้นจึงเกิดเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต่อมา คือคุณแม่ถูกนายเบนซ์ทำร้าย ตามรายละเอียดในคลิปจากกล้องวงจรปิดที่ปรากฏในสื่อมวลชน" นายนฤดล กล่าว

นายนฤดล กล่าวต่อว่า  หลังได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่าคุณแม่ถูกทำร้ายร่างกายและถูกนำร่างมาทิ้งไว้ริมถนน ซึ่งมีสภาพเลือดไหลออกปาก จมูก ใบหน้าบวมปูด ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะได้นำร่าง ส่ง รพ.ศูนย์ขอนแก่น ก่อนที่จะเสียชีวิตในเวลาต่อมา ซึ่งจากการตรวจสภาพศพของแพทย์พบว่า ซี่โครงหักหลายซี่ กะโหลกศีรษะด้ายซ้ายแตกร้าว   โดยที่สร้อยคอทองคำหนัก 50 สตางค์และ สร้อยข้อมือหนัก 50 สตางค์ที่คุณแม่สวมใส่ประจำได้หายไป เหลือเพียงแหวนพระที่นิ้วมือเท่านั้น

ออกหมายจับ"แบงก์ เทพารักษ์"ตบยายดับ ลูกเผยทองแม่หนัก 1 บาทหายไป นายนฤดล แพนุ่น ลูกชายผู้เสียชีวิต

"จากการสอบถามคนในชุมชนและคนที่เห็นเหตุการณ์ทำให้ทราบข้อมูลอีกว่า ก่อนเกิดเหตุในช่วงเช้าวันดังกล่าว นายเบนซ์มาทวงถามเอาเงินกับคุณแม่จำนวน 10,000 บาท เนื่องจากนายเบนซ์ไปขอเงินยายตัวเอง และยายของนายเบนซ์ไม่มีให้พร้อมทั้งบอกว่าได้ให้คุณแม่ของผมนั้นยืมไปหมดแล้ว นายเบนซ์จึงเดินไปทวงเงินกับคุณแม่ที่ร้านขายของ จนมีปากเสียงกัน จากนั้นเมื่อนายเบนซ์เห็นคุณแม่เอาขยะไปทิ้งก็เข้ามาต่อว่าและทำร้ายร่างกาย  จากนั้นก็พากันเดินเข้าไปในชุมชน ซึ่งเชื่อว่าคุณแม่ต้องการเคลียร์เรื่องเงินที่นายเบนซ์ทวงนอกจากนี้ยังคงมีพยานซึ่งเห็นเหตุการณ์ที่บ้านนายเบนซ์  ที่ระบุว่าคุณแม่ถูกนายเบนซ์ทำร้ายร่างกายอย่างรุนแรง และสาเหตุไม่ได้เกิดจากการที่แม่นำขยะไปถึงแต่อย่างใด ซึ่งผมยอบรับว่าขณะนี้มีความโกรธแค้นอย่างมาก แต่เมื่อมีเจ้าหน้าที่และผู้สื่อข่าวเข้ามาช่วยกันตรวจสอบ ก็รู้สึกดีขึ้น ลดความโกรธแค้นลงได้บ้าง เพราะทำให้เชื่อมั่นว่า กฎหมายยังมีอยู่จริง แต่หากกฎหมายทำอะไรไม่ได้ ผมก็อยากจะทำเหมือนที่ผู้ก่อเหตุทำขึ้นเหมือนกัน เพราะแม่ใครใครก็รัก"นายนฤดล กล่าว

ขณะที่ พ.ต.อ.จำลอง สุวลักษณ์ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น กล่าวว่า ขณะนี้พนักงานสอบสวนสภ.เมืองขอนแก่น ได้ขอศาลอนุมัติออกหมายจับนายเบนซ์แล้ว ในข้อหา ทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย ส่วนคนที่อยู่ในเหตุการณ์ตอนนี้พบตัวหมดแล้ว เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้นำตัวมาสอบสวนและกันเป็นพยาน เพราะเป็นเพียงผู้เห็นเหตุการณ์แต่ไม่ได้ร่วมลงมือทำร้ายผู้ตาย