เมียผู้ต้องหาโร่กราบเท้าพ่อด.ญ.13หลังสามีข่มขืนลูกสาวเหยื่อ
บุรีรัมย์-เมียผู้ต้องหาโร่ขอโทษกราบเท้าพ่อเหยื่อแทนสามีหลังฝ่ายชายไปก่อเหตุข่มขืนด.ญ.13ป่วยออทิสติก พ่อเผยห่วงสภาพจิตใจและความปลอดภัยของลูกสาวเตรียมไปอยู่บ้านญาติ
บุรีรัมย์-เมียผู้ต้องหาโร่ขอโทษกราบเท้าพ่อเหยื่อแทนสามีหลังไปก่อเหตุข่มขืนด.ญ.13ป่วยออทิสติก พ่อเผยห่วงสภาพจิตใจและความปลอดภัยของลูกสาวเตรียมไปอยู่บ้านญาติ
ร.ต.อ.ศักดิ์ชาย กิตติอุดมพันธ์ รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ ได้ควบคุมตัวนายทวิพงษ์ พูนสังข์ หรือติ๊ก อายุ 37 ปี และนายสุวิน นุชสาย หรือน็อต อายุ 25 ปี 2 ผู้ต้องหา ที่ใช้มีดจี้และกำลังบังคับข่มขืน ด.ญ.เอ (นามสมมติ) อายุ 13 ปี ที่ป่วยออทิสติก ตั้งแต่ช่วงกลางเดือน ส.ค. และเดือน ต.ค. ส่งฝากขังที่ศาลจังหวัดนางรอง โดยนายสุวิน หรือน็อต เป็นน้าชายของผู้เสียหาย และนายทวิพงษ์ หรือติ๊ก เป็นเพื่อนบ้าน
ด้าน พ.ต.อ.สมชัย โสภณปัญญาภรณ์ ผู้กำกับการ สภ.เฉลิมพระเกียรติ ระบุว่า เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหาผู้ต้องหาทั้ง 2 “พรากพาเด็กอายุไม่เกินสิบห้าปีไปเสียจากบิดามารดาผู้ปกครอง, กระทำชำเราเด็กอายุไม่เกินสิบห้าปี ซึ่งมิใช่ภรรยาของตนโดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม” และนายสุบิน หรือน็อต ถูกแจ้งข้อหาเสพสารเสพติดเพิ่มอีก 1 ข้อหา หลังตรวจพบสารเสพติดในร่างกาย ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการประสานทีมสหวิชาชีพร่วมสอบปากคำเด็กผู้เสียหาย และสอบปากคำพยานที่เกี่ยวข้อง ทั้งรอผลตรวจยืนยันจากแพทย์ เพื่อประกอบสำนวนคดี สรุปส่งอัยการตามกระบวนการขั้นตอน
ขณะที่ น.ส.นุช อายุ 39 ปี ภรรยาของนายทวิพงษ์ หรือติ๊ก หนึ่งในผู้ต้องหา ได้เข้าไปกราบเท้าขอโทษพ่อของ ด.ญ.เอ ผู้เสียหาย แทนสามีของตัวเองที่ได้กระทำชำเราลูกสาว พร้อมขอให้พ่อของผู้เสียหายอโหสิกรรมให้กับสามีด้วย เพราะสามีก็ยอมรับผิดและถูกจับดำเนินคดีเพื่อไปรับผลกรรมกับสิ่งที่กระทำแล้ว ซึ่งพ่อผู้เสียหายก็พูดด้วยน้ำเสียสั่นเครือด้วยความโกรธและเสียใจว่า ทำไมถึงกล้าทำกับลูกสาวตนเองแบบนี้ ก่อนจะบอกกลับไปว่าหัวอกคนเป็นพ่อไม่มีใครรับได้ แต่ก็อโหสิกรรมให้เพราะไม่อยากให้มีเวรมีกรรมต่อกันอีก ส่วนเรื่องคดีก็ว่ากันไปตามกฎหมาย
ด้าน น.ส.เมย์ พี่สาว ผู้เสียหาย บอกว่า คนในครอบครัวไม่มีใครรับได้กับการกระทำของผู้ต้องหาทั้งสองที่ทำกับน้องสาวแบบนี้ โดยเฉพาะนายน็อต ซึ่งเป็นน้าแท้ๆ กลับทำได้ลงคอโดยไม่สะทกสะท้านอะไร ก็อยากให้เจ้าหน้าที่ลงโทษตามกฎหมายให้ถึงที่สุดซึ่งถึงแม้นายน็อตจะยังปฏิเสธก็มั่นใจในพยานหลักฐานว่านายน็อตข่มขืนน้องสาวของตนเอง
ขณะที่พ่อของ ด.ญ.ผู้เสียหาย บอกว่า ตอนนี้เป็นห่วงสภาพจิตใจของลูกสาวมากทั้งเรื่องความปลอดภัยด้วยเพราะผู้ต้องหาขู่ไว้ว่าหากออกมาได้จะมาฆ่าทิ้งยกครัวจะให้ลูกสาวไปอาศัยอยู่บ้านญาติเพราะต้องเดินทางไปทำงานต่างจังหวัดและหากผู้ต้องหาพ้นโทษออกมาจริง ก็อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมาช่วยดูแลความปลอดภัยด้วย