ทช.บุรีรัมย์กางโทษตากข้าวบนนถนนผิดกม.มีโทษทั้งจำปรับ
บุรีรัมย์-โทษใครดี!ม.3ขับรถจยย.เสียหลักชนกองข้าวเปลือกตากบนถนนเสียชีวิต1สาหัส1 ชาวบ้านวอนเห็นใจเรียกร้องรัฐบาลจัดหาพื้นที่ให้เพียงพอ
บุรีรัมย์-โทษใครดี!ม.3ขับรถจยย.เสียหลักชนกองข้าวเปลือกตากบนถนนเสียชีวิต1สาหัส1 ชาวบ้านวอนเห็นใจเรียกร้องรัฐบาลจัดหาพื้นที่ให้เพียงพอ
กรณีนักเรียนชายชั้น ม.3 โรงเรียนแห่งหนึ่ง ต.ทะเมนชัย อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ ขับรถจักรยานยนต์ไปเฉี่ยวชนกองข้าวเปลือกที่ชาวนาตากไว้บนถนนทางหลวงหมายเลข 3047 สายบ้านหนองม่วงน้อย – หนองไทร ต.ทะเมนชัย อ.ลำปลายมาศ เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 10 พ.ย.61ทำให้เสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บสาหัส 1 รายรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลศูนย์บุรีรัมย์
จากการลงพื้นที่ตรวจสอบจุดเกิดเหตุ พบเป็นถนน 2 ช่องจราจรแต่ไม่พบชาวนานำข้าวเปลือกมาตากบนถนนมีเพียงร่องรอยอุบัติเหตุสอบถามชาวบ้านใกล้เคียงให้ข้อมูลว่าวันเกิดเกตุได้มีเกษตรกรนำข้าวเปลือกไปตากบนถนนสายดังกล่าวแต่เกิดเหตุมีฝนตกหนักทำให้สภาพถนนลื่น ทั้งอาจเกิดจากความประมาทของผู้ขับขี่จึงทำให้รถจักรยานยนต์เสียหลักล้ม
นางประสงค์ ทราบรัมย์ ชาวบ้านหนองม่วงน้อย กล่าวว่า สาเหตุที่เกษตรกรต้องนำข้าวเปลือกมาตากบนถนนลาดยาง เนื่องจากสถานที่ตากในหมู่บ้านไม่เพียงพอ เพราะเกษตรกรส่วนใหญ่จะเก็บเกี่ยวผลผลิตพร้อมๆ กัน และการตากบนถนนทำให้ข้าวเปลือกแห้งเร็วใช้เวลาเพียง 2 – 3 วันก็เก็บเข้ายุ้งฉาง หรือนำไปขายให้กับโรงสีได้แล้วแต่หากตากตามพื้นหญ้าจะทำให้ข้าวเปียกชื้นแห้งช้า อาจต้องใช้เวลาเป็นสัปดาห์
"เกษตรกรรู้ว่าการตากข้าวบนถนนทางหลวงผิดกฎหมายแต่ไม่มีทางเลือกเพราะหากไม่รีบตากให้แห้งมีฝนตกใส่ข้าวเปียกก็จะทำให้เมล็ดข้าวมีความชื้นสูง เสื่อมคุณภาพ และหักเสียหายทำให้ขายไม่ได้ราคา จึงอยากจะฝากให้หน่วยงานภาครัฐเข้ามาหาแนวทางแก้ไขปัญหา ทำลานตากเป็นพื้นปูนให้เพียงพอต่อความต้องการของเกษตรกรเพื่อลดปัญหาสถานที่ตากเพราะไม่ได้อยากมาตากบนถนนอยู่แล้ว" นางประสงค์ กล่าว
ด้านนายวิทย์ วรวงศ์ ผู้อำนวยการแขวงทางหลวงชนบทบุรีรัมย์ได้ออกมาแจ้งเตือนชาวนาว่า ตามกฎหมาย พ.ร.บ.ทางหลวง มาตรา 38 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติทางหลวง พ.ศ.2535 บัญญัติว่า “ห้ามมิให้ผู้ใดติดตั้ง แขวน วาง หรือกองสิ่งใดเขตทางหลวง ในลักษณะที่เป็นการกีดขวาง หรืออาจเป็นอันตรายแก่ยานพาหนะ หรือในลักษณะที่จะทำให้เกิดความเสียหายแก่ทางหลวงหรือความไม่สะดวกแก่งานทาง เว้นแต่จะได้รับอนุญาต ซึ่งหากฝ่าฝืนก็จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ”
ที่ผ่านมาแขวงหลวงหลวงชนบทก็ได้ประชาสัมพันธ์ผ่านช่องทางต่างๆ อย่างต่อเนื่องแต่ก็ยังมีชาวนานำข้าวเปลือกมาตากบนถนนและไหล่ทางอ้างว่าไม่มีสถานที่ตากซึ่งก็ได้ให้เจ้าหน้าที่ออกสำรวจหากพบเกษตรกรรายใดนำข้าวมาตากกีดขวางถนน เบื้องต้นก็จะเตือนให้เก็บออก แต่หากยังไม่ทำตามก็จำเป็นจะต้องเคลื่อนย้ายออกให้ ซึ่งหากมีค่าใช้จ่ายในการเคลื่อนย้ายเจ้าของทรัพย์สินนั้น ๆ ก็ต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายเอง กรณีนี้หากฝ่าฝืนคำสั่งเจ้าพนักงานก็มีความผิดตามกฎหมายทางหลวงเช่นเดียวกัน คือ มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน ปรับไม่เกิน 5,000 บาท
นายวิทย์ วรวงศ์ ผู้อำนวยการแขวงทางหลวงชนบทบุรีรัมย์