ศาลไต่สวนคดีหวย30ล.จบแล้วนัดฟังคำสั่งมีมูลฟ้องหรือไม่20ธ.ค.นี้

กาญจนบุรี-ศาลจังหวัดกาญจนบุรีไต่สวนมูลฟ้องคดีหวย30ล.เสร็จสิ้นแล้ว สอบคำให้การรองผบช.ภ.7ในฐานะพยานโจกท์ปากสุดท้าย นัดฟังคำพิพากษามีมูลหรือไม่ 20 ธ.ค.นี้

ที่ศาลจังหวัดกาญจนบุรี ศาลได้ไต่สวนมูลฟ้องคดีหวย30ล้านบาท คดีนายปรีชา ใคร่ครวญ ได้เป็นโจทก์ยื่นฟ้องร.ต.ท.จรูญ วิมูล หรือ หมวดจรูญ ในคดีอาญา หมายเลขดำ ที่ อ.1863/61 ข้อหา ยักยอกทรัพย์ รับของโจร ซึ่งเป็นสลากกินแบ่งรัฐบาล รางวัลที่ 1 งวดประจำวันที่ 1 พ.ย. 60 เลข 533726 จำนวน 1 ชุด 5 ใบ เป็นเงินจำนวน 30 ล้านบาท

การไต่สวนวันนี้ถือเป็นนัดที่ 7 ซึ่งเป็นการไต่สวนพยานฝ่ายโจทก์ 1ปาก คือ พล.ต.ต.กฤษณะ ทรัพย์เดช รอง ผบช.ภาค 7

นายสุชพงศ์ บุญเสริม ทนายความความของนางสาวรัตนาพร สุภาทิพย์ หรือเจ๊บ้าบิ่น ฝ่ายโจทก์เปิดเผยว่า หลังการเบิกความของพล.ต.ต.กฤษณะแล้ว ได้มีการแถลงหมดพยานในชั้นไต่สวนมูลฟ้อง ซึ่งศาลได้นัดฟังคำพิพากษาหรือคำสั่งวันที่ 20 ธ.ค.61 เวลา 10.00 น.

"การที่ พล.ต.ต.กฤษณะ มาเป็นพยานในวันนี้ จะเป็นประโยชน์ต่อฝ่ายไหนคงตอบไม่ได้ เพราะมาเป็นพยานคนกลาง แต่เป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาของศาล พยานคนกลางจะมาเล่าให้ฟังว่าได้พบเห็นและได้ทำอะไรไปบ้าง ซึ่งเป็นการเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงให้ศาลฟัง เพื่อให้การพิจารณาของศาลเกิดความชัดเจนขึ้น จะได้มีคำสั่งหรือคำพิพากษาได้ถูกต้อง คดีนี้มีคู่ความเพียงแค่สองคนคือ ครูปรีชา กับ หมวดจรูญ ที่เป็นตัวหลัก" นายสุชพงษ์ กล่าว

ด้าน ครูปรีชา กล่าวว่า รู้สึกสบายใจตั้งแต่เริ่มคดีแล้วที่ได้นำความจริงมาขึ้นสู่ศาล และต้องขอขอบคุณสื่อมวลชนที่คอยติดตามข่าวนี้ และขอให้ติดตามกันต่อไป

ขณะที่ นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม กล่าวว่า วันนี้การสืบพยานชั้นไต่สวนมูลฟ้องเสร็จเรียบร้อยแล้วก็หวังว่าเราจะได้รับข่าวดีและคุณลุงจรูญจะได้รับความยุติธรรมซึ่งทุกอย่างขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของศาล การที่ พล.ต.ต.กฤษณะมาเป็นพยานให้กับฝ่ายโจทก์ ก็คงต้องเบิกความเป็นคุณต่อฝ่ายโจทก์อยู่แล้ว แต่พล.ต.ต.กฤษณะ เป็นเพียงผู้ทำสำนวน แต่ว่ายังไม่มีการสรุปสำนวน ซึ่งผู้ที่สรุปสำนวนคือเจ้าหน้าที่กองปราบปราม

ทั้งนี้หากเรื่องคดีไปสู่ชั้นพิจารณาแล้ว เราคงจะต้องมีหมายเรียกไปยังกองปราบ แล้วนำสำนวนมา ซึ่งเชื่อว่าจะเป็นประโยชน์ต่อฝ่ายเรา เพราะเมื่อถึงเวลานั้น เราก็มีสิทธิ์ที่จะยื่นพยานหลักฐาน แต่เบื้องต้นเราไม่อยากให้ถึงขั้นนั้น ดังนั้นก็ขอให้มีการพิจารณาดูคำเบิกความของพยานทุกปากอย่างรอบคอบและรัดกุม อีกไม่นานก็จะเห็นความจริงปรากฏแล้ว

ด้าน ร.ต.ท.จรูญ เปิดเผยถึงความรู้สึกว่า ก็รู้สึกสบายใจ แต่ก็อยากให้เรื่องจบโดยเร็วมากกว่า เพราะใครผิดใครถูกจะได้รู้กันสักที

ผู้สื่อข่าวย้อนกลับไปถาม ทนายษิทราว่า หลังจากนี้ไปจะตั้งหลักเผชิญหน้ากับ นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรมอย่างไรหลังออกมาเปิดเผยข้อมูลเรื่องเงิน ทนายษิรา ตอบอย่างอารมณ์ดีว่า อย่าไปสนใจเรื่องนี้เลย มาสนใจเรื่องงานที่ทำอยู่ดีกว่า เมื่อถึงเวลาจะออกมาชี้แจงความจริงให้ทุกคนรู้ ซึ่งสิ่งที่เขาพูดมาไม่มีเรื่องจริงเลย แต่ขอเวลาให้อีกสักระยะหนึ่งก่อน แต่คงอีกไม่นาน