"ช้างศึก" โดนยิงท้ายเกมเจ๊าปินส์ 1-1

ทีมชาติไทยยังต้องลุ้นเข้ารอบต่อในเกมสุดท้ายหลังทำได้แค่บุกเสมอ ฟิลิปปินส์ 1-1

ทีมชาติไทย แชมป์เก่าและแชมป์ 5 สมัย บุกเยือน ฟิลิปปินส์ ที่สนามปานาอัด สเตเดี้ยม เมื่อวันที่ 21 พ.ย. ในเกมนัดที่ 3 ศึกฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน "เอเอฟเอฟ ซูซูกิคัพ 2018" กลุ่มบี โดยทั้งสองทีมมี 6 คะแนนเท่ากัน แต่ "ช้างศึก" ผลต่างประตูได้เสียดีกว่า 7 ลูก หากชนะได้จะการันตีผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศทันที

เกมนี้ มิโลวาน ราเยวัช กุนซือทีมไทย เปลี่ยนผู้เล่น 3 ตำแหน่ง ส่ง ฉัตรชัย บุตรพรม ลงเฝ้าเสา พร้อมด้วย ปกเกล้า อนันต์ ในตำแหน่งกองกลาง และศุภชัย ใจเด็ด เล่นปีกซ้าย แล้วขยับ ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ ไปเล่นปีกขวา โดยมี อดิศักดิ์ ไกรษร ศูนย์หน้าที่ยิงไปแล้ว 7 ประตู พร้อมด้วย สรรวัชญ์ เดชมิตร เพลย์เมกเกอร์ที่ทำไปแล้ว 4 แอสซิสต์ ล่าตาข่าย ส่วน สเวน โกรัน อีริกส์สัน กุนซือประสบการณ์สูงของเจ้าบ้านมี ฟิล ยังฮัสแบนด์ และแพทริก ไรเชลท์ เป็นความหวัง

ครึ่งแรก ไทย ไม่สามารถทะลวงฝ่าแนวรับเจ้าถิ่นเข้าไปลุ้นประตูเน้นๆ ได้เลย อีกทั้งยังโดนฟิลิปปินส์ดักบอลได้แล้วบุกกดดันเป็นระลอกแต่จังหวะจบยังไม่คมพอ หมดครึ่งแรกเสมอกันอยู่ไร้สกอร์

ครึ่งหลัง รูปเกมยังสูสี กระทั่งนาที 56 ฟิลิป โรลเลอร์ แบ็กขวาเติมขึ้นสูงก่อนเปิดบอลเลียดเข้าปากประตูถึง ศุภชัย ใจเด็ด ล้มตัวชาร์จไม่เหลือให้ไทยขึ้นนำ 1-0 และเป็นประตูที่ 2 ของเจ้าตัวในทัวร์นาเมนท์นี้ จากนั้น "ช้างศึก" อาศัยการตั้งรับแล้วสวนกลับแต่ยังทำได้ไม่ดีพอ จนนาที 81 "ดิ อัซกาลส์" ตามตีเสมอ 1-1 โจวิน เบดิค ตัวสำรองยิงแฉลบชนเสาเข้าประตู ก่อนจนลงด้วยผลเสมอ 1-1

ขณะที่อีกคู่ สิงคโปร์ เปิดบ้านถล่ม ติมอร์ เลสเต 6-1 เก็บเพิ่มเป็น 6 คะแนน ขยับขึ้นมารั้งอันดับ 3 ตามหลังอันดับ 1-2 ไทยและฟิลิปปินส์ ที่มีทีมละ 7 คะแนน

สำหรับเกมนัดสุดท้ายรอบแรก "ช้างศึก" จะกลับมาเล่นในบ้านรับมือ สิงคโปร์ วันที่ 25 พ.ย.นี้ ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน ส่วนทัพ “ดิ อัซกาลส์” จะบุกเยือน อินโดนีเซีย