posttoday

เป็นหนี้ต้องชดใช้แต่เรียกดอกเบี้ยโหดเสี่ยงถูกดำเนินคดี-ยึดทรัพย์

21 พฤศจิกายน 2561

สระแก้ว-ลูกหนี้กู้ยืมเงินร้องตำรวจถูกเรียกดอกเบี้ยโหดตามเจ้าหนี้มาเจรจาไกล่เกลี่ยจนยอมคิดยอดเงินต้นกับดอกเบี้ยเพียงเท่าที่จ่ายไปแล้ว และคืนเอกสารที่ดินสปก.ค้ำประกันให้

สระแก้ว-ลูกหนี้กู้ยืมเงินร้องตำรวจถูกเรียกดอกเบี้ยโหดตามเจ้าหนี้มาเจรจาไกล่เกลี่ยจนยอมคิดยอดเงินต้นกับดอกเบี้ยเพียงเท่าที่จ่ายไปแล้ว และคืนเอกสารที่ดินสปก.ค้ำประกันให้

เมื่อวันที่ 21 พ.ย.61 นางย้อย ยุบัว อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 25 ม.8 ต.เขาสามสิบ อ.เขาฉกรรจ์ จ.สระแก้ว เข้าร้องทุกข์กับพ.ต.อ.สุภัค พูนสวัสดิ์ ผกก.สภ.เขาฉกรรจ์ อ.เขาฉกรรจ์ เพื่อขอความเป็นธรรม กรณีถูกเจ้าหนี้เงินกู้เรียกดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด

ต่อมา พ.ต.อ.สุภัค สั่งการให้เจ้าหน้าที่ไปเชิญ   น.ส.สมหมาย บำรุงจิตต์ อายุ 50 ปี เจ้าหนี้ปล่อยเงินกู้ อยู่บ้านเลขที่ 69 หมู่ 8 ต.เขาสามสิบ อ.เขาฉกรรจ์ จ.สระแก้วมาเจรจาประนอมหนี้กับนางย้อยลูกหนี้และแจ้งให้ทราบว่า คสช.มีคำสั่งให้ทหารและตำรวจร่วมกันกวาดล้างเงินกู้นอกระบบ

ก่อนหน้านี้ นางย้อยลูกหนี้ได้ขอกู้เงินจากน.ส.สมหมาย เจ้าหนี้ ตั้งแต่ปี 2559 จำนวน 50,000 บาท คิดดอกเบี้ยร้อยละ 10 โดยไม่มีการทำสัญญาเพียงเขียนไว้ในสมุดและมีการนำเอกสารที่ดิน สปก. จำนวน 2 ไร่เศษพร้อมบ้านไปค้ำประกันเงินกู้ ซึ่ง น.ส.สมหมาย แจ้งว่า ต้องมีการส่งดอกเดือนละ 10,000 บาท และมีการส่งดอกเบี้ยไประยะหนึ่ง จำนวน 88,000 บาท
กระทั่งนางย้อย ลูกหนี้มาทราบภายหลังว่า มีการคิดดอกเบี้ยเกินกว่าที่ตกลงกันไว้คือ ร้อยละ 10 แต่มีการคิดถึงร้อยละ 20 เมื่อเจราจากันไม่ได้จึงต้อมาร้องเรียนเพราะเจ้าหนี้แจ้งว่า จะต้องนำเงินดอกเบี้ยที่ค้างอยู่ถึงปัจจุบันเดือน พ.ย.61 จำนวน 190,000 บาท พร้อมเงินต้นอีก 50,000 บาทมาจ่ายก่อนจึงจะคืนสปก.ให้

ผลการเจรจาประนอมหนี้ ปรากฎว่า เจ้าหนี้ตกลงยอมยกหนี้ให้โดยคิดยอดเงินต้นบวกดอกเบี้ยเพียงเท่าที่จ่ายไปแล้ว 88,000 บาทเท่านั้น เจ้าหน้าที่จึงทำบันทึกเป็นหลักฐานมีการมอบเอกสารสิทธิ์ สปก.คืนให้ลูกหนี้ต่อหน้าเจ้าหน้าที่และนายชัยยา ยุบัว ผู้ใหญ่บ้าน ม.8 มาร่วมเป็นสักขีพยาน หากเจ้าหนี้รายนี้ดำเนินการปล่อยกู้ลักษณะนี้อีกจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมายและยึดทรัพย์ทันที

ด้าน พ.ต.อ.สุภัค กล่าวว่า การกู้ยืมเงินกฎหมายกำหนดไว้ว่าให้คิดดอกเบี้ยได้ไม่เกินร้อยละ 15 ต่อปี ถ้าเป็นเดือนก็ไม่เกินร้อยละ 1.25 บาท หากลูกหนี้ที่ไปกู้ยืม และคิดดอกเบี้ยเกินกว่าผู้ให้กู้ยืมมีความผิดตามกฎหมาย ซึ่งผู้เสียหายสามารถมาพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อให้ความรู้ด้านกฎหมายเกี่ยวกับด้านการกู้ยืม และอาจจะให้เจ้าหนี้มาไกล่เกลี่ยเพื่อให้เงินต้นและดอกเบี้ยอยู่ในอัตราที่กฎหมายกำหนดหากประชาชนถูกกระทำหรือคิดดอกเบี้ยเกิน สามารถมาขอความช่วยเหลือได้

เป็นหนี้ต้องชดใช้แต่เรียกดอกเบี้ยโหดเสี่ยงถูกดำเนินคดี-ยึดทรัพย์