หวั่นกระทบชุมชน!ชาวทับสะแกต้านสร้างโรงกำจัดคัดแยกแท่นขุดเจาะ

ประจวบคีรีขันธ์-ชาวทับสะแกค้านโครงการโรงงานตัดคัดแยกสิ่งติดตั้งและอุปกรณ์ที่รื้อถอนจากสถานประกอบกิจการปิโตรเลียม หวั่นกระทบสิ่งแวดล้อมสร้างมลพิษชุมชน

วันที่ 16 พฤศจิกายน 2561 ที่หอประชุมที่ว่าการอำเภอทับสะแก อ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ บริษัท อีเอส ออฟชอร์และมารีน เอ็นจิเนียริ่ง (ประเทศไทย) จํากัด จัดประชุมรับฟังความคิดเห็นของประชาชนประกอบการจัดทํารายงานเกี่ยวกับการศึกษามาตรการป้องกันและแก้ไขผลกระทบต่อคุณภาพสิ่งแวดล้อมและความปลอดภัย (ESA) โครงการโรงงานตัดคัดแยกสิ่งติดตั้งและอุปกรณ์ที่รื้อถอนจากสถานประกอบกิจการปิโตรเลียม โดยมีนายปรีดา สุขใจ นายอำเภอทับสะแก พร้อมด้วยผู้แทนจากสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัด , สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัด และประชาชนชาว อ.ทับสะแก กว่า 200 คน ร่วมรับฟังข้อมูล

ชาวบ้านอ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์  ยกมือคัดค้านการโครงการสร้างโรงงานตัดคัดแยกสิ่งติดตั้งและอุปกรณ์ที่รื้อถอนจากสถานประกอบกิจการปิโตรเลียม ในการประชุมรับฟังความเห็นของประชาชนประกอบการจัดทํารายงานเกี่ยวกับการศึกษามาตรการป้องกันและแก้ไขผลกระทบต่อคุณภาพสิ่งแวดล้อมและความปลอดภัย (ESA) ของบริษัท อีเอส ออฟชอร์และมารีน เอ็นจิเนียริ่ง เนื่องจากเห็นว่าเป็นโครงการที่เสี่ยงต่อมลพิษ และเชื่อว่าจะกระทบต่อชุมชนที่มีวิถีชีวิตทำประมงพื้นบ้านและเกษตรกรรม อีกทั้งพื้นที่ที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมที่ทางบริษัทฯนำมาเสนอ ระบุว่า ประมาณ 3กิโลเมตร นั้นหมายถึงพื้นที่ชุมชน ย่านที่อยู่อาศัยในตัวตลาดทับสะแกทั้งหมด จึงไม่เหมาะที่จะสร้างโครงการที่มีมลพิษกระทบกับชุมชน

นางสาวสุรีย์รัตน์ แต้ชูตระกูล ชาวบ้านทับสะแก กล่าวว่า สิ่งติดตั้งและอุปกรณ์ที่รื้อถอนจากสถานประกอบกิจการปิโตรเลียม มีสารเคมีปนเปื้อน เช่น สารปรอท พิษจากสารปรอททำให้สมองฝ่อ ระบบปราสาทส่วนกลางถูกทำลาย นอกจากนี้ยังมีสารอื่นอีกมากมาย การขนย้ายเชื่อว่าสารจะถูกปนเปื้อนลงในทะเล จะกระทบต่อชาวบ้านอาชีพประมงพื้นบ้านทั้งที่ทับสะแกเอง และอำเภอใกล้เคียง และหาน้ำทะเลปนเปื้อน อาหารทะเลขายไม่ได้ กระทบต่อการท่องเที่ยวในชุมชนด้วย

ทั้งนี้อยากให้บริษัทปรับเปลี่ยนธุรกิจใหม่เป็นการสร้างโรงงานผลิตเรือยอช์ทแทน จะเข้ากับชุมชนที่กำลังเดินหน้าเรื่องการท่องเที่ยวทางทะเลและการท่องเที่ยวชุมชน ส่วนโครงการคัดตัดล้างสิ่งติดตั้งและอุปกรณ์ที่รื้อถอนจากสถานประกอบกิจการปิโตรเลียม มีสารเคมีปนเปื้อน ควรย้ายไปอยู่ที่นิยมอุสาหกรรมจะดีกว่า มาอยู่ในอำเภอที่ชาวบ้านมีวิถีชีวิตเป็นชาวประมง และเป็นเกษตรกรชาวสวนมะพร้าวเป็นหลัก

หลังจากนี้ทางกลุ่มอนุรักษ์ทับสะแกจะล่ารายชื่อชาวบ้านที่ไม่เห็นด้วยยื่นต่อเอกอัครราชทูตสิงคโปร์ประจําประเทศไทย รวมถึงยื่นต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังและนายกรัฐมนตรีด้วย