กำลังพลร้องแม่ทัพภาค4 สอบผู้บังคับบัญชาลอบตัดไม้-ใช้อำนาจไม่เป็นธรรม

กำลังพลร้องแม่ทัพภาค4 ตรวจสอบพฤติกรรมผู้บังคับบัญชาใช้อำนาจไม่เป็นธรรม-ลักลอบตัดไม้ในพื้นที่นำออกไปข้างนอก

เมื่อวันที่ 12 พ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานกรณีมีการเผยแพร่ข้อความร้องเรียนของกำลังพลสังกัดหน่วยทหารในพื้นที่ภาคใต้ ที่ส่งถึงแม่ทัพภาคที่4ให้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง ของผู้บังคับบัญชาภายในหน่วยที่มีพฤติกรรมการใช้อำนาจอย่างไม่เป็นธรรม อาทิ การสั่งให้กำลังพลไปช่วยขนไม้ที่มีการตัดในพื้นที่เพื่อขนกลับบ้านของผู้บังคับบัญชารายนี้

ล่าสุด พ.อ.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษกกองอำนวยการ รักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า กล่าวว่า ได้รับทราบข้อมูลดังกล่าวแล้วซึ่งอยู่ระหว่างตรวจสอบ ข้อมูลไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก่อน

สำหรับข้อความร้องเรียนของกำลังพลมีเนื้อหาดังนี้

1.กองร้อย.... ตั้งอยู่ใน จังหวัดชายแดนภาคใต้ ผู้บังคับบัญชา รายนี้มีพฤติกรรม ออกคำสั่ง(บังคับไม่สามารถปฏิเสธได้)ให้กำลังพลไปช่วยขนไม้บนเขาซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องกับงานทางราชการ เป็นไม้ส่วนตัวของ ผู้บังคับบัญชา เพื่อขนกลับบ้าน จ.นครศรีธรรมราช หลายครั้งที่ใช้อำนาจบังคับให้กำลังพลที่กลับมาจากลาดตระเวนให้ไปช่วยขนไม้ทันที การขนไม้แต่ละครั้งใช้เวลาขนประมาณครึ่งวัน และหลายครั้งกำลังพลจำต้องทิ้งงานราชการเพื่อไปขนไม้ให้ ผู้บังคับบัญชา ตามคำสั่ง ช่วงกันยายน - ตุลาคม 2561 เป็นช่วงขนไม้จำนวนมากที่สุดและถี่ที่สุดที่สำคัญกว่านั้นได้ใช้รถของทางราชการในการขนไม้ ซึ่งนำมาใช้นอกราชการ แต่ทาง ผู้บังคับบัญชารายนี้ ได้อ้างว่าได้รับอนุมัติจากผู้บังคับบัญชาระดับสูงแล้ว ทั้งเรื่องการขอใช้รถทางราชการและเรื่องการใช้กำลังพลขนไม้ส่วนตัว

คำถามการใช้กำลังพลหลายสิบนาย ไปทำงานส่วนตัวนอกเหนือจากงานราชการในหน่วย ทำได้หรือไม่? และไม้ที่ให้กำลังพลไปขนนั้นเป็นไม้ที่ถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่??

2. ผู้บังคับบัญชามีพฤติกรรมส่อมิชอบโดยการนำญาติของตัวเองมาอยู่ในหน่วย มีชื่อในหน่วยแต่เจ้าตัวไม่เคยประจำในหน่วย จะมาเฉพาะเวลามีผู้บังคับบัญชามาตรวจเยี่ยมเท่านั้น รับเงินเดือน รับเบี้ยเสี่ยงภัย แต่ไม่ได้ลงมาปฎิบัติหน้าที่เหมือนกำลังพลคนอื่น ๆ

3. ผู้บังคับบัญชา มีพฤติกรรมเป็นผู้มีอำนาจ คัดเกณฑ์กำลังพลที่ตัวเองไว้ใจให้ช่วยสอดส่องภายในหน่วย ว่าใครเอาเรื่องพฤติกรรมมิชอบของตนไปพูด และยังข่มขู่กำลังพลทั้งหน่วยว่า ถ้ารู้ว่าใครไปร้องเรียน ผู้บังคับบัญชารายนี้จะปลดกำลังพลคนนั้นทันที ทำให้กำลังพลจึงยอมรับสภาพ ไม่กล้าร้องเรียน ที่ผ่านมาเคยมีชาวบ้านใกล้ฐานได้ไปร้องเรียนถึงพฤติกรรม ผู้บังคับบัญชารายนี้ แต่เรื่องก็เงียบ หากตัวคุณบริสุทธิ์ใจจริง ทำไมจึงต้องกลัวการถูกร้องเรียน หากกำลังพลไม่ได้รับความยุติธรรม แต่โดนดักเอาไว้แล้วว่าถ้าใครร้องเรียน จะปลดคนคนนั้น แล้วกำลังพลจะไปเรียกร้องความยุติธรรมและความเป็นธรรมได้จากใคร??

4.พฤติกรรมของพ่อครัว ในหน่วย มีพฤติกรรมค้าขายยาเสพติด ผู้บังคับบัญชารายนี้รับทราบทุกอย่างแต่ไม่ดำเนินการเนื่องจากเป็นคนสนิท

5. ผู้บังคับบัญชาได้เก็บเงินกำลังพลทุกนาย เพื่อเป็นค่าสร้างฐานเพิ่มเติม และได้บอกกำลังพลว่าจะแบ่งคืนให้กำลังพล หากขายฐานให้หน่วยอื่นได้ จะนำมาคืนกำลังพล แต่ถึงตอนนี้กำลังพลยังไม่ได้รับเงินจากการขายฐานและยังไม่มีคำชี้แจงจาก ผู้บังคับบัญชาแต่อย่างใด ส่วนนี้กำลังพลต้องการทราบรายละเอียด

6.เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ได้มีการเข้ามาสุ่มตรวจยาเสพติดในหน่วยพบกำลังพลจำนวน 6 นาย ตรวจพบสารเสพติดจากการตรวจปัสสาวะ ประเภทเมทแอมเฟตามีน 5 นาย และกัญชา 1 นาย ผู้บังคับบัญชาได้ทำการปลดกำลังพลทั้ง 6 นาย แต่เอกสารรายละเอียดปลดกำลังพลทั้ง 6 นาย สร้างความคาใจให้กำลังพล โดย ผู้บังคับบัญชา เขียนบันทึกอ้างว่ากำลังพลทั้ง 6 นาย ได้เป็นหนี้สวัสดิการกองร้อย และเป็นหนี้ร้านค้าใกล้ๆ กับกองร้อย แต่กำลังพลทั้ง 6 นาย ยืนยันว่าไม่ได้เป็นหนี้กองร้อยและร้านค้าแต่อย่างใดตามที่ ผู้บังคับบัญชาอ้างอิงในเอกสาร ที่ผ่านมาไม่ทราบว่าทาง ผู้บังคับบัญชาได้ใช้วิธีด้วยหรือไม่? แต่ที่ชัดเจน คือ กรณีของกำลังพลทั้ง 6 นาย ซึ่ง ผู้บังคับบัญชา สร้างหลักฐานเท็จ ให้กำลังพลที่ถูกปลดออกโดยนำเงินที่ระบุเข้ากระเป๋าตัวเอง กำลังพลได้มีการร้องเรียนไป แต่เรื่องก็เงียบไป

หากกำลังพลไม่ได้รับความยุติธรรม แต่โดนผู้บังคับบัญชาใช้อำนาจบีบบังคับเอาไว้แล้วว่าถ้าใครร้องเรียน จะปลดคนคนนั้น แล้วกำลังพลจะไปเรียกร้องความยุติธรรมและความเป็นธรรมได้จากใคร?? ซี่งทั้งหมดนี้ได้รับการร้องเรียนจากกำลังพลและชาวบ้าน อยากให้ทาง ผู้บังคับบัญชาระดับสูง เข้าตรวจสอบและตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงและขอให้ทางกองทัพภาคที่ 4 เข้าร่วมตรวจสอบด้วย

จักขอบพระคุณเป็นอย่างสูง