posttoday

แม่โวยลูกแค่ท่องสูตรคูณไม่ได้ โดนครูสั่งกระโดดตบกลางแดด-ตีก้นเขียวช้ำ

10 พฤศจิกายน 2561

บุรีรัมย์-แม่โวยครูทำโทษลูกรุนแรงเกินเหตุ สั่งกระโดดตบกลางแดด 50 ครั้ง ใช้ไม้เรียวตีก้นซ้ำอีก 10 ครั้ง เขียวช้ำเหตุแค่ท่องสูตรคูณไม่ได้

บุรีรัมย์-แม่โวยครูทำโทษลูกรุนแรงเกินเหตุ สั่งกระโดดตบกลางแดด 50 ครั้ง ใช้ไม้เรียวตีก้นซ้ำอีก 10 ครั้ง เขียวช้ำเหตุแค่ท่องสูตรคูณไม่ได้


แม่โวยครูหนุ่มทำโทษลูกชายชั้น ป.6 รุนแรงเกินกว่าเหตุ สั่งกระโดดตบกลางแดด 50 ครั้ง ไม่หนำใจใช้ไม้เรียวตีก้นประจานหน้าห้องอีก 10 ครั้งจนเขียวช้ำ เหตุแค่ลูกชายท่องสูตรคูณไม่ได้  ยันเอาเรื่องถึงที่สุดทั้งยืนกรานให้ย้ายครูออกไม่งั้นจะไม่ให้ลูกไป ร.ร. เพราะกลัวถูกทำโทษซ้ำ  ทั้งเกรงไปกระทำกับเด็กคนอื่นอีก

เมื่้อวันที่ 10 พ.ย. นางเฟื้องกมล   (ขอสงวนนามสกุล)  อายุ 30 ปี  แม่ค้าขายยำตลาดพุทไธสง  อ.พุทไธสง  จ.บุรีรัมย์  ได้ออกมาเรียกร้องขอความเป็นธรรม  หลัง ด.ช.พลวัฒน์ หรือ น้องเท่ห์  อายุ 12 ปี ลูกชายซึ่งเรียนอยู่ชั้น ป.6 โรงเรียนอนุบาลพุทไธสง  ถูกนายพยูง   (ขอสงวนนามสกุล)  อายุ 35 ปี ครูสอนภาษาอังกฤษ ทำโทษรุนแรงเกินกว่าเหตุ  ทั้งให้กระโดดตบกลางแดดที่ร้อนจัด  และใช้ไม้เรียวตีก้นจนเป็นรอยเขียวช้ำ

นางเฟื้องกมล เล่าว่า  เมื่อวันศุกร์ ที่ 9 พ.ย.ที่ผ่านมา  ประมาณบ่ายโมง ครูประจำชั้นของน้องเท่ห์ติดธุระจึงฝากให้ครูพยูง  มาดูแลเด็กนักเรียนที่ห้องแทน  โดยครูพยูง ก็ได้สั่งให้นักเรียนท่องสูตรคูณแม่ 8 และ 9 แต่น้องเท่ห์ ท่องตะกุกตะกักไม่คล่องเหมือนกับเพื่อนคนอื่นๆ  ครูจึงสั่งทำโทษโดยให้น้องเท่ห์ ไปกระโดดตบที่สนามหญ้ากลางแดดจำนวน 50 ครั้ง  แต่ลูกชายกระโดดได้แค่ 30 ครั้ง  เนื่องจากลูกชายมีโรคประจำตัวคือภูมิแพ้ ประกอบกับตัวอ้วนน้ำหนักมากจึงเกิดอาการเหนื่อยหอบ  ลูกชายจึงหยุดกระโดดแล้วเดินขึ้นไปบนห้องเรียน  แต่เมื่อครูพะยูง รู้ว่าน้องเท่ห์  กระโดดตบได้แค่ 30 ครั้งไม่ถึง 50 ครั้งตามที่สั่ง  จึงเกิดความไม่พอใจได้เรียกน้องเท่ห์ ออกไปหน้าห้อง แล้วทำโทษซ้ำโดยการใช้ไม้เรียวตีก้นอีกจำนวน 10 ครั้งต่อหน้าเพื่อนนักเรียนจำนวนมาก  จนก้นลูกระบมเขียวช้ำ   ซึ่งตอนแรกลูกไม่กล้าบอกตนเอง  แต่จะไปบอกพ่อ เมื่อพ่อเห็นรอยที่ก้นจึงได้มาบอกตนเองให้ทราบ  ทันทีที่ตนเองเห็นร่องรอยเขียวช้ำที่ก้นลูกก็ถึงกับน้ำตาไหล  เพราะสงสารลูก  แต่ตอนแรกก็ไม่ได้เข้าข้างลูกเพราะคิดว่าลูกอาจจะดื้อหรือทำอะไรผิดถึงได้ถูกทำโทษ   แต่พอสอบถามจากปากลูกชายว่าเกิดอะไรขึ้น  พอลูกชายก็เล่าให้ฟังจนรู้สาเหตุที่แท้จริงว่าสาเหตุแค่ลูกท่องสูตรคูณไม่ได้จึงถูกครูทำโทษ  ก็รู้สึกโกรธมาก เพราะลูกตนไม่ได้ทำผิดอะไรถึงได้มาลงโทษรุนแรงขนาดนี้  หัวอกคนเป็นพ่อเป็นแม่คงไม่มีใครรับได้

นางเฟื้องกมล  ยันยันว่าจะเอาเรื่องครูคนดังกล่าวถึงที่สุด  เพราะมองว่าเป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุ   ซึ่งเบื้องต้นก็ได้ไปแจ้งความที่ สภ.พุทไธสง ไว้เป็นหลักฐานแล้ว และได้พาลูกชายไปตรวจสภาพร่างกายที่ รพ.ด้วย   โดยหากเป็นไปได้ก็อยากให้ย้ายครูคนดังกล่าวออกจากโรงเรียน  ถ้าไม่ย้ายตนก็จะไม่ให้ลูกไปโรงเรียนเพราะกลัวจะถูกทำโทษซ้ำอีก  ทั้งเกรงว่าจะทำกับนักเรียนคนอื่นด้วย  

นางเฟื้องกมล   ยังกล่าวอีกว่า  ที่เสียใจและรับไม่ได้ คือ ครูคนดังกล่าวที่ตีลูกก็เป็นรุ่นพี่ของตนเอง  ที่เคยเรียนโรงเรียนเดียวกัน  และตนก็ชื่นชนรุ่นพี่คนนี้มาก  เพราะสมัยเรียนจะได้รับเลือกเป็นตัวแทนของโรงเรียนไปแข่งกิจกรรมต่างๆ  แต่ไม่คิดว่าวันนี้จะมาทำกับลูกของตนเองแบบนี้ ถ้าถามว่าสมัยเรียนตัวเองเคยถูกทำโทษหรือไม่  ก็เคยถูกครูทำโทษแต่ไม่เคยโดนรุนแรงจนเขียวช้ำขนาดนี้  จึงรับไม่ได้

สอบถาม ด.ช.เท่ห์   ก็เล่าว่า   เมื่อวันศุกร์ ที่ผ่านมา ครูพยูง สั่งให้ท่องสูตรคูณแต่ตนเองท่องไม่ได้เหมือนกับเพื่อนคนอื่น  ครูจึงทำโทษโดยการสั่งให้ไปกระโดดตบกลางแดดจำนวน 50 ครั้ง แต่ตนกระโดดได้แค่ 30 ครั้งก็เกิดอาการเหนื่อยหอบ เพราะพึ่งกินข้าวอิ่ม ประกอบกับน้ำหนักมาก และมีโรคประจำตัวอยู่แล้ว ทำให้กระโดดต่อไม่ไหว  จึงหยุดกระโดดแล้วตัดสินใจเดินขึ้นไปห้องเรียน แต่พอไปถึงห้องครูพยูง ก็เรียกให้ลุกขึ้นแล้วเดินไปหน้าห้องก่อนจะใช้ไม้เรียวตีก้น 10 ครั้ง โดยไม่ได้พูดอะไร  ซึ่งตอนนั้นก็เพื่อนๆ ในห้องเดียวกันและเพื่อนข้างห้องเห็นจำนวนมาก ก็รู้สึกอายและเจ็บที่ก้นแต่ก็พยายามกัดฟันไว้    พอมาถึงบ้านจึงตัดสินใจเล่าให้พ่อฟัง  หลังถูกครูตีก็ไม่กล้าไปโรงเรียนเพราะกลัวเพื่อนล้อ และกลัวถูกครูตีซ้ำอีก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา  ทางโรงเรียนได้เรียกครูคนที่ทำโทษเด็ก และผู้ปกครองนักเรียนมาพูดคุยไกล่เกลี่ยกัน  แต่ตกลงกันไม่ได้ เนื่องจากผู้ปกครองรับไม่ได้กับการกระทำของครู และยืนกรานอยากให้ครูย้ายออกจากโรงเรียน  ส่วนทางโรงเรียนก็ขอให้ผู้ปกครองให้โอกาสครูได้สอนที่นี่ต่อ เพราะครูไม่เคยมีประวัติกระทำผิด  ซึ่งทางโรงเรียนก็จะทำทันบนไว้ แต่ผู้ปกครองก็ไม่ตอบรับข้อเสนอ