เหยื่อโผล่อีก! สาวร้องตร.ถูก"อิ๋ว ข้าวกล่อง"หลอกซื้อที่ดินสูญกว่า3ล้าน

สาวสุราษฎร์ แจ้งความตำรวจท่าชนะ ถูก "อิ๋ว" น้าสะใภ้  ผู้ต้องหาคดีจ้างทำข้าวกล่อง หลอกซื้อที่ดิน สูญเงินกว่า 3 ล้าน เผยญาติยังโดนชวนร่วมลงทุนอีกนับ 10 ล้านบาท

เมื่อวันที่ 9 พ.ย. ที่สภ.ท่าชนะ จ.สุราษฎร์ธานี น.ส.มีชนก วิวัฒน์ อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 121/422 ต.ประสงค์อ.ท่าชนะ พนักงานฝ่ายการเงินลานเทปาล์มน้ำมันแห่งหนึ่งพร้อมญาติเข้าแจ้งความลงบันทึกประจำวันกับ ร.ต.อ.ดนัย จันทร์กลั่น รอง สารวัตร(สอบสวน)สภ.ท่าชนะ ได้ถูกนาง ธนิตา หรืออิ๋ว จันทร์อิ่ม ผู้ต้องหาที่หลอกลวงให้ผู้อื่นทำข้าวกล่องวันละ10,000กล่องที่จ.อุตรดิตถ์ ซึ่งเป็นน้าสะใภ้ ได้หลอกลวงให้ทำธุรกรรมซื้อที่ดินและร่วมทำธุรกิจจนสูญเสียเงินรวมกว่า3ล้านบาท

น.ส.มีชนก ให้การว่า เมื่อต้นปี 2560 ได้ไปทำธุระในพื้นที่ภาคเหนือและมาแวะพักกับนางอิ๋ว ได้ถูกชักชวนว่ามีคนว่าจ้างให้ทำข้าวกล่องไปส่งในบ่อนพนัน จำนวนวันละ 200-1,000 กล่องซึ่งช่วงแรกได้เงินดี  แต่ระยะหลังเริ่มมีปัญหาจ่ายเงินโดยอ้างเหตุผลต่างๆนานา ระหว่างนั้นได้ออกอุบายมีที่ดินเกือบ4ไร่ พร้อมบ้าน หลุดจำนองราคา 4 แสนบาทจึงซื้อไว้แต่กลับถูกหลอกให้ขายฝาก โดยนำเงินไปวางมัดจำแปลงอื่นอีก แปลงละ 200,000บาท โดยอ้างว่าจะได้กำไรจนผ่านไปยังไม่เห็นโฉนดที่แปลงดังกล่าวและได้เงินคืน และยังนำเงินไปซื้อเครื่องทำน้ำเกือบ 1 ล้านบาท ต่อมานางอิ๋วได้ชักชวนทำสัญญาว่าจ้างทำอาหารกล่อง 1 หมื่นกล่อง 6 มื้อ พร้อมได้ชักชวนญาติใน จ.สุราษฎร์ธานี ร่วมทำการจองสิทธิ์ทำข้าวกล่องรวมเป็นเงิน 6 แสนบาท แต่บอกยังไม่ได้ทำต้องรอทนายมาทำสัญญาให้เรียบร้อยก่อน  และยังถูกหลอกให้โอนเงินซื้อของต่างๆอีกหลายรายการ รวมเงินที่เสียไปกว่า 3 ล้านบาท

ด้านนางจิร์ติรัตน์ วิวัฒน์ อายุ 49 ปีมารดา น.ส.มีชนก กล่าวว่า นางอิ๋วได้แต่งงานกับน้องชายตัวเองซึ่งเป็นทหารเรือเมื่อปี 2558 หลังจากนั้นน้องชายได้ออกจากราชการทหาร และเมื่อต้นปี2560 ลูกสาวได้ไปอยู่ที่บ้านนางอิ๋วหลายเดือน จึงแอบขึ้นไปหาและเห็นว่ามีการลงทุนทำข้าวกล่องและได้เงินจริง หลังจากนั้นนางอิ๋วได้ชวนญาติพี่น้องของตนมาร่วมลงทุนอีกหลายรายมีเงินที่เสียไปร่วม 10 ล้านบาท ซึ่งตอนหลังเห็นว่าถูกหลอกจึงได้กลับมาอยู่บ้านและได้ทราบข่าวดังกล่าวจึงให้ลูกสาวออกมาแจ้งความ

พ.ต.ท.สมพงษ์ ณ สงขลา รองผกก.สอบสวน สภ.ท่าชนะ กล่าวว่าได้อำนวยความสะดวกให้กับผู้เสียหายที่อ.ท่าชนะ ไม่ต้องเดินทางไปยังจ.อุตรดิตถ์ จึงได้รับการสั่งการจากพล.ต.ต.อภิชาติ บุญศรีโรจน์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานีให้รับเรื่องและสอบปากคำรวบรวมประสานไปยังสถานีตำรวจต้นทางที่เกิดเหตุเรื่องการหลอกลวงทำข้าวกล่องที่มีความเสียหายในวงกว้างต่อไป หากได้รับการประสานมาจากสถานีตำรวจอุตรดิตถ์ให้สอบสวนหาพยานหลักฐานข้อเท็จจริงเพิ่มเติมจะดำเนินการให้ตามร้องขอต่อไป