ตำรวจแฉประวัติผู้ต้องหาโกงข้าวกล่องเคยหลอกญาติพี่น้องจนถูกยึดบ้านที่ดิน

อุตรดิตถ์-ตำรวจสอบปากคำ2ผู้ต้องหาโกง2แม่ลูกจ้างทำข้าวกล่อง/น้ำดื่มส่งโรงงานแฉประวัติหนึ่งในผู้ต้องหาเคยหลอกให้ญาติพี่น้องค้ำประกันรถยนต์ไม่จ่ายค่างวดจนถูกยึดบ้านที่ดิน

เมื่อวันที่ 8พ.ย.พล.ต.ต.พยูร์ ธนะศรีสืบวงศ์ รักษาราชการแทนผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุตรดิตถ์ได้เรียกตัวนางกัญจ์หทัย สุกใส อายุ 41 ปี และนางธนิตา จันทร์อิ่ม อายุ 43 ปี ชาว อ.พิชัย  ผู้ว่าจ้างให้นางธนิสร กุยแก้ว อายุ 42 ปี และ นางจอก นุชศรี อายุ 60 ปี สองแม่ลูก ทำข้าวกล่อง งสูญเงินลงทุนไปเกือบ 1 ล้านบาทมาสอบปากคำเพิ่มเติมอีกครั้งที่สภ.พญาแมน
หลังเมื่อค่ำวันที่ 7 พฤศจิกายนได้เข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวน

ขณะที่ผู้ต้องหาทั้ง 2 มาพบพนักงานสอบสวนได้ใช้ผ้าคลุมศีรษะรีบวิ่งลงจากรถขึ้นไปบนสภ.พญาแมนทันทีทั้ง 2 ราย ยังยืนยันปฏิเสธข้อกล่าวหาร่วมกันฉ้อโกงจะขอให้การในชั้นศาลจากนั้นพนักงานสอบสวนควบคุมตัวทั้ง 2 รายส่งฟ้องต่อศาลจังหวัดอุตรดิตถ์

พล.ต.ต.พยูร์ กล่าวว่า วันนี้มีเพียงรายเดียวที่เดินทางมาแจ้งความร้องทุกข์กับผู้ต้องหา แต่ทราบว่ามีอีกหลายรายที่ตกเป็นเหยื่อ หากต้องการแจ้งความก็ขอให้มาแจ้งความร้องทุกข์ได้ที่ สภ.พญาแมน อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบประวัติของผู้ต้องหาทั้ง 2 รายพบว่า นางธนิตามีคดีความติดตัวมากถึง 10 คดี ทั้งคดียักยอกทรัพย์ ฉ้อโกง และยาเสพติด

“ก่อนหน้านี้นางธนิตาได้ฉ้อโกงญาติพี่น้องให้ค้ำประกันรถยนต์จำนวน 4 คันแต่ไม่เคยส่งค่างวด ทำให้ผู้ค้ำประกันถูกยึดบ้านพร้อมที่ดินขายทอดตลาดเพื่อชดใช้หนี้แทนคดีนี้ใกล้จบและสรุปได้แล้ว หากไม่มีผู้เสียหายมาแจ้งความร้องทุกข์เพิ่มเติม เจ้าหน้าที่ใช้เวลาเพียง 2 วันสามารถนำผู้ต้องหาส่งศาลจังหวัดอุตรดิตถ์ได้” พล.ต.ต.พยูร์ กล่าว

สำหรับคดีฉ้อโกงสามารถยอมความหรือถอนแจ้งความกันได้หากคู่กรณีเจรจาชดใช้ค่าเสียหายจนเป็นที่น่าพอใจกับผู้เสียหาย ซึ่งขณะนี้ผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย พยายามที่จะไกล่เกลี่ยกับนางธนิสรอยู่ ยินยอมที่จะชดใช้ค่าเสียหายที่เกิดขึ้นทั้งหมดเพื่อขอให้นางธนิสรไม่เอาผิด

ผู้สื่อข่าวพยายามติดต่อนางธนิสรทางโทรศัพท์มือถือเพื่อสอบถามกรณีที่ผู้ต้องหาติดต่อขอเคลียร์และชดใช้ค่าเสียหายเพื่อให้ถอนแจ้งความปรากฎว่ายังไม่สามารถติดต่อได้