แจงทา "อุโบสถสีทอง" เป็นมติชาวบ้านหวังบูรณะให้สวยงาม ชี้ไม่ได้ขึ้นทะเบียนกับกรมศิลป์ฯ

ผู้ใหญ่บ้านแจงทาสีอุโบสถวัดที่ชัยนาทสีทอง เป็นมติชาวบ้านหวังบูรณะให้สวยงามไม่ทรุดโทรม ชี้วัดไม่ได้ขึ้นทะเบียนกับกรมศิลป์-ไม่ได้ของบจากรัฐ

จากกรณีที่เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในสังคมออนไลน์ หลังจากมีการเผยแพร่ อุโบสถที่ทาสีทองทั้งหลัง ในพื้นที่ จ.สุพรรณบุรี และ จ.ชัยนาท โดยเฉพาะความเห็นจากสำนักศิลปากรสุพรรณบุรีที่ระบุว่าอาจจะไม่เหมาะสมและผิด พ.ร.บ.โบราณสถานนั้น

ล่าสุดเมื่อวันที่ 26 ต.ค. ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังวัดศรีสโมสร หมู่ที่1 ต.กุดจอก อ.หนองมะโมง จ.ชัยนาท ซึ่งเป็นอีกวัดหนึ่งที่มีการทาสีอุโบสถเป็นสีทอง

เมื่อสอบถามชาวบ้านในหมู่บ้านก็ได้คำตอบว่า การทาสีทองอุโบสถหลังนี้มีขึ้นเมื่อประมาณ 2-3เดือนก่อน โดยมีผู้ใจบุญมาทำบุญและขอเป็นเจ้าภาพทำบุญค่าสีให้กับทางวัด โดยชาวบ้านได้ระดมกำลัง มาช่วยกันทาสีร่วมกับช่างสีที่จ้างมา โดยเมื่อทาเสร็จแล้วชาวบ้านทุกคนก็บอกว่าสวยงามและชื่นชอบ

ด้านนายนิวัฒนกร ศรีธรรมา ผู้ใหญ่บ้านก็ได้ชี้แจงว่า อุโบสถหลังนี้ไม่ได้มีการขึ้นทะเบียนกับทางกรมศิลปากร หรือของบประมาณจากทางราชการมาทำการบูรณะหรือทาสีแต่อย่างใด โดยการทาสีพระอุโบสถครั้งนี้มีขึ้นด้วยแรงศรัทธาของผู้มาทำบุญและชาวบ้าน

"การที่เลือกทาสีทองนั้นก็เป็นการลงมติของชาวบ้านเองว่า ขอเลือกที่จะทาสีทอง ซึ่งไม่ได้มีจุดประสง์ที่จะเปลี่ยนแปลงหรือทำลายพระอุโบสถเก่าแก่แต่อย่างใด เพราะด้านในที่เป็นภาพเขียนเก่าก็ยังคงรักษาไว้ในสภาพเดิม แต่การทาสีทองนั้นก็เพื่อบูรณะให้ไม่ทรุดโทรม และเน้นให้เห็นถึงความทรงคุณค่าของอุโบสถที่เกิดด้วยความเลื่อมใสศรัทธาของพุทธศาสนิกชนชาวกุดจอกที่มีมาตั้งแต่ครั้งบรรพบุรุษ"นายนิวัฒนกร กล่าว

นายนิวัฒนกร กล่าวอีกว่า อยากให้ผู้ที่แสดงความเห็นวิพากษ์วิจารณ์ขอให้ได้คิดและพิจารณามองบริบทของชุมชนกุดจอกด้วย เพราะสถานที่แห่งนี้เป็นมรดกทางวัฒนธรรมของชาวกุดจอก ที่ทุกคนรักและต้องการสืบทอดให้ลูกหลานต่อไปจึงต้องมีการบูรณะพัฒนาตามความเหมาะสมและความต้องการของคนในชุมชน