posttoday

ยังไม่ทราบสาเหตุ!พบซากช้างป่าเพศเมียตายกลางป่ากุยบุรี

23 ตุลาคม 2561

ประจวบคีรีขันธ์-พบซากช้างป่าเพศเมียกลางป่ากุยบุรีสัตวแพทย์ผ่าซากส่งชิ้นเนื้อตรวจห้องแล็ปจุฬาฯหาสาเหตุการตาย

ประจวบคีรีขันธ์-พบซากช้างป่าเพศเมียกลางป่ากุยบุรีสัตวแพทย์ผ่าซากส่งชิ้นเนื้อตรวจห้องแล็ปจุฬาฯหาสาเหตุการตาย

เมื่อวันที่ 23 ตุลาคม 2561 เจ้าหน้าที่ชุดลาดตระเวน อุทยานแห่งชาติกุยบุรี ต.หาดขาม อ.กุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ พบช้างป่าเพศเมีย  อายุประมาณ​40ปี นอนตายอยู่กลางป่าในเขตอุทยานแห่งชาติกุยบุรี บริเวณหุบมะกรูด หมู่ที่ 7 ใกล้กับบ่อน้ำบ่อที่ 55 จึงรายงานให้ นายทัศเนศวร์  เพชรคง หัวหน้าอุทยานแห่งชาติกุยบุรี  นายวัฒนา พรประเสริฐ ผู้อำนวยการส่วนอุทยานแห่งชาติสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่3 สาขาเพชรบุรี ทราบพร้อมประสานสัตวแพทย์หญิงกชพร พิมพ์สิน นายสัตวแพยน์ประจำสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าห้วยทรายอันเนื่องมาจากพระราชดำริ พร้อมทีมสัตวแพทย์ลงพื้นที่ผ่าพิสูจน์

ทีมสัตวแพทย์ ได้เข้าทำการตรวจสอบแล้ว คาดว่าเสียชีวิตมามากกว่า 7 วัน ที่บริเวณปลายงวงมีรอยตัดคล้ายของมีคม ซึ่งจะต้องทำการตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง แต่เป็นไปได้ จะเป็นกลไกธรรมชาติที่เกิดการแตกปริของหนังหุ้มปลายงวงจนหลุด ส่วนกรณีที่มีหลายคนตั้งข้อสันนิฐานว่า ถูกตัดปลายงวงเพื่อนำไปทำเป็นของขลังนั้น ไม่น่าจะเป็นไปได้ เพราะหากถูกตัดจริง ชิ้นส่วนงวงน่าจะถูกตัดยาวมากกว่านี้ อีกทั้งยังพบร่องรอยการกัดแทะของสัตว์ที่บริเวณปลายหาง ขา และงวงด้านบนบางส่วนด้วย

ส่วนผลการผ่าซากช้าง พบรอยจุดเลือด ลักษณะช้ำ และพบอาหารจำนวนมากภายในกระเพาะอาหาร ตั้งแต่ทางเดินทางอาหารส่วนต้นไปจนถึงทางเดินอาหารส่วนท้าย ลักษณะไม่ย่อย จึงได้เก็บตัวอย่างอาหารไปตรวจสอบพร้อมกับชิ้นส่วนสำไส้ ตับ หัวใจ ปอด และไต ทั้งนี้จะได้ส่งตัวอย่างชิ้นเนื้อตรวจที่ห้องแล็ปจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย คาดว่าผลการตรวจจะใช้เวลาราว 2เดือน

นายทัศเนศวร์  เพชรคง หัวหน้าอุทยานแห่งชาติกุยบุรี กล่าวว่า จุดที่พบซากช้างป่านี้เป็นพื้นที่ห่วงห้าม ไม่มีการท่องเที่ยว จะเป็นพื้นที่อยู่อาศัยหากินของช้างป่ากุยบุรี อย่างอิสระ ไม่มีนักท่องเที่ยวรบกวนปัจจุบันอุทยานแห่งชาติกุยบุรี สำรวจพบปริมาณช้างป่าภายในอุทยานมากกว่า 300ตัว มีความอุดมสมบูรณ์อย่างยิ่ง ซึ่งหลังจากพบซากช้างป่าได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบเรื่องแล้ว และรอผลตรวจของทีมสัตวแพทย์รายงานข้อมูลเพิ่มเติมต่อไป

ต่อมา นายธีรพันธ์ นันทกิจ รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พร้อมด้วย นายชาตรี จันทร์วีระชัย นายอำเภอกุยบุรี  ตลอดจนกำนันผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ ได้ร่วมกันนิมนต์พระภิกษุสงฆ์จากวัดรวมไทย มาสวดบังสกุลและอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้กับช้างป่า ตามความเชื่อของชาวบ้านในพื้นที่ จากนั้นได้ขุดหลุมขนาดใหญ่ ลึกกว่ากว่า3เมตร โรยปูขาวเพื่อฆ่าเชื้อโรค และทำการผังกลบซากช้างป่าไว้ในบริเวรดังกล่าว เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเชื้อโรคไปติดต่อกับสัตว์ป่าชนิดอื่นได้