"คนในห้ามออกคนนอกห้ามเข้า"อดีตเจ้าอาวาสพากลุ่มชายฉกรรจ์ยึดวัดหลวงพ่อเงิน

พิจิตร-วัดหลวงพ่อเงินบางคลานยังวุ่นวายไม่จบอดีตเจ้าอาวาสถูกคำสั่งปลดนำกลุ่มชายฉกรรจ์ใส่กุญแจประตูยึดวัดติดป้ายคนในห้ามออกคนนอกห้ามเข้า

เมื่อวันที่ 4 ต.ค. 2561 บรรยากาศที่วัดหิรัญญาราม หรือวัดบางคลาน ซึ่งเป็นวัดเก่าหลวงพ่อเงิน ต.บางคลาน  อ.โพทะเลจ.พิจิตร ยังคงเกิดความวุ่นวาย  หลังจากมหาเถระสมาคมและสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ  นำคำสั่งศาลเข้าจัดระเบียบและตรวจสอบบัญชีทรัพย์สิน  วัตถุมงคลของทางวัดพร้อมกับเรียกคืนตู้เซฟจำนวน 3 ตู้กับสมุดบัญชีธนาคารของทางวัดซึ่งเงินจำนวนหลักร้อยล้านบาท โดยพระครูพิสิฐสีลาภรณ์ อดีตเจ้าอาวาสวัดวัดหิรัญญาราม หรือวัดบางคลาน ซึ่งถูกปลดออกจากตำแหน่งไปแล้ว นำกลุ่มชายฉกรรจ์จำนวนนับสิบคนรวมถึงมีชาวบ้านร่วมด้วยเข้าปิดล้อมวัดและกดดันขับไล่นักท่องเที่ยวและเจ้าหน้าที่ชุดจัดระเบียบ และตรวจสอบบัญชีทรัพย์สิน สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติให้ออกไปจากวัดก่อนที่จะนำลูกกุญแจมาปิดล็อคประตูทางเข้าออกวัดรวม 6 จุด  เพื่อไม่ให้เจ้าหน้าที่ชุดดังกล่าวเข้ามาปฏิบัติหน้าที่ได้  หลังเกิเหตุ ประชาชนและนักท่องเที่ยว ที่จะมานมัสการหลวงพ่อเงินและทำบุญตามจุดต่างๆ ภายในวัดไม่สามารถเดินทางเข้ามาได้รวมถึงพระภิกษุสงฆ์ - สามเณรก็ไม่สามารถออกไปบิณฑบาตหรือ ปฏิบัติศาสนกิจของสงฆ์ได้ 

ช่วงนี้อยู่ในช่วงการโยกย้ายสับเปลี่ยนตำแหน่งของเจ้าหน้าที่ผู้ว่าฯ ฝ่ายปกครอง และหน่วยงานความมั่นคงของจังหวัดพิจิตร หลายตำแหน่ง  ทำให้เป็นช่องโหว่ สูญญากาศหาคนรับผิดชอบแก้ปัญหาอย่างจริงจังไม่ได้ทำให้ฝ่ายที่สนับสนุนอดีตเจ้าอาวาสและคณะกรรมการเก่าวัดชุดเก่าที่ถูกปลดออกจากตำแหน่งกลับมา สร้างสถานการณ์ความวุ่นวายต่างๆ เพื่อยืดเวลาที่จะไม่ยอมส่งมอบทรัพย์สินต่างๆของวัด คืนให้กับคณะกรรมการจัดระเบียบวัดหลวงพ่อเงินบางคลานเพื่อเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบตามคำสั่งศาล ที่ผ่านมาคณะกรรมการจัดระเบียบวัดบางคลาน ได้ดำเนินการตรวจสอบทรัพย์สินจากตู้บริจาคภายวัด และสมุดบัญชีธนาคารต่างๆ รวมทั้งวัตถุโบราณ โดยได้รวบรวมเบื้อต้นเป็นเงินสดและเงินฝากธนาคาร 18 บัญชีรวม กว่า120 ล้านบ วัตถุมงคล กว่าหนึ่งหมื่นองค์ และวัตถุโบราณอีกจำนวนมาก และยังเหลือที่อดีตเจ้าอาวาสยังต้องส่งมอบตู้เซฟขนาดใหญ่อีกจำนวน  ตู้และสมุดบัญชีอีก 1 บัญชี ที่อยู่กับอดีตเจ้าอาวาส โดยปัญหาดังกล่าวเกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2557 จนถึงปัจจุบัน.