แม่ใจยักษ์โยนลูกแรกเกิดลงมาจากอพาร์ทเม้นท์สูง5ชั้น รอดปาฏิหาริย์

พบทารกแรกเกิดถูกแม่โยนลงมาจากอพาร์ทเม้นท์สูง 5 ชั้น โชคดีร่างตกใส่ต้นกล้วยรอดชีวิต ตร.เร่งติดตามตัวแม่รายนี้แล้ว

เมื่อวันที่ 1 ต.ค. ร.ต.ท.อัสนีย์ กองเกิด รองสารวัตรสอบสวน สภ สำโรงเหนือ สมุทรปราการ ได้รับแจ้งว่ามีทารกถูกทิ้งไว้พงหญ้า ข้าวอพาร์ทเม้นท์แห่งหนึ่งใน ต.เทพารักษ์ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึงรีบไปตรวจสอบพร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนและอาสาสมาคมกู้ภัยสมุทรปราการ รถกู้ชีพโรงพยาบาลเปาโล สมุทรปราการ

ที่เกิดเหตุเป็นพงหญ้าและป่ากล้วยซึ่งอยู่ด้านข้างของอพาร์ทเม้นท์ สูง 5 ชั้น ที่ใต้ต้นกล้วยพบทารกเพศชาย ที่สะดือยังมีสายรกติดอยู่ ตามร่างกายถูกยุงและมดกัดจนเป็นตุ่มไปทั้งร่างกาย โดยทารกส่งเสียงร้องไห้ตลอดเวลา ชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียงได้ปีนกำแพงรั้วข้ามไปช่วยนำทารกออกมา จากการตรวจสอบยังพบที่บริเวณยอดต้นกล้วยมีร่องรอยการหัก เนื่องจากถูกร่างของทารกตกลงมากระแทก

จากการสอบถาม แม่บ้านของอพาร์ทเม้นท์ เปิดเผยว่า เมื่อช่วงสายของวันนี้ขณะกำลังเดินตรวจความเรียบร้อยโดยรอบอาคาร ก็ได้ยินเสียงเด็กร้อง ตอนแรกตนคิดว่าผีหลอก จึงไม่สนใจแต่เวลาผ่านไปขณะที่ตนทำงานเก็บกวาดทำความสะอาดอยู่ในอาคารชั้นล่างก็ได้ยินเสียงเด็กร้องอีกเป็นระยะ ๆ จนกระทั่งเวลาประมาณ 10 โมงเช้าตนก็ยังได้ยินเสียงเด็กร้องอยู่ จึงได้เรียกเพื่อนบ้านพากันเขาไปดูในป่ากล้วยที่ได้ยินเสียงเด็กร้องออกมา โดยเอาไม้เขี่ยรอบ ๆ ต้นกล้วยซึ่งอยู่นอกรั้วของอพาร์ทเม้นท์ดูได้พบว่าเด็กทารกนอนร้องไห้อยู่ใต้ต้นกล้วยดังกล่าว จึงได้ปีนรั้วข้ามไปนำเด็กออกมาก่อนโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ

ขณะเดียวกันได้รับแจ้งจากชาวบ้านที่พักอาศัยอยู่ที่ห้องพักชั้นล่างของอพาร์ทเม้นท์ดังกล่าวใกล้ที่เกิดเหตุได้เล่าว่า ได้ยินเสียงเด็กร้องตั้งแต่ช่วง ตี3 แล้ว แต่คิดว่าเป็นเสียงแมวร้องเพราะว่าเสียงร้องคล้ายกับแมวร้องจึงไม่ได้สนใจอะไรจนกระทั่งแม่บ้าคนดูแลอาคารได้มาบอกให้ไปช่วยค้นหาที่มาของเสียงที่ป่ากล้วยหลังห้องพักจึงได้พบว่าเป็นเสียงของเด็กทารก

เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ สันนิษฐานว่าแม่เด็กน่าจะอยู่ในอพาร์ทเม้นท์ดังกล่าว และได้คลอดทารกออกมาคาดว่าเป็นวัยรุ่นที่ยังไม่มีความพร้อม หลังคลอดจึงได้โยนทารกออกมาจากระเบียงด้านข้างตึกที่มีความสูง5 ชั้นลงมาแต่โชคดีร่างทารกตกลงมากระแทกกับยอดต้นกล้วยจนยอดหักและตกลงมาที่พื้นด้านล่างจึงไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด

ทั้งนี้เจ้าหน้าที่จะได้เร่งสืบสวนติดตามแม่รายนี้มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป