posttoday

หน่วยงานเกี่ยวข้องเสนอ11มาตรการแก้ราคามะพร้าวตกต่ำ

25 กันยายน 2561

ประจวบคีรีขันธ์-หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเสนอ11แนวทางแก้ไขปัญหาราคามะพร้าวภายในประเทศตกต่ำจากการนำเข้าจากต่างประเทศ

ประจวบคีรีขันธ์-หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเสนอ11แนวทางแก้ไขปัญหาราคามะพร้าวภายในประเทศตกต่ำจากการนำเข้าจากต่างประเทศ

เมื่อวันที่ 25ก.ย.61 นายประสพชัย พูลเกิด พาณิชย์จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า จากกรณีที่จังหวัดได้จัดประชุมหารือแนวทางการบริหารจัดการ กำกับดูแลสินค้ามะพร้าวนำเข้า เมื่อวันที่ 27 ส.ค.61ที่ศาลากลางจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โดยเชิญผู้แทนหน่วยงานราชการและผู้ประกอบการมะพร้าวในพื้นที่ร่วมประชุมกับผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจากส่วนกลาง ประกอบด้วย กรมการค้าต่างประเทศ กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร กรมการค้าภายใน กรมศุลกากร กรมวิชาการเกษตร ได้ข้อสรุปว่า

จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มีข้อเสนอเชิงนโยบายไปยังหน่วยงานส่วนกลางเพื่อป้องกันแก้ไขปัญหาราคามะพร้าวตกต่ำ จำนวน 11 ข้อ ได้แก่

1.เสนอให้กำหนดบทลงโทษอย่างเด็ดขาดกับผู้ที่ยื่นขอนำเข้ามะพร้าวแต่ทำผิดเงื่อนไขของกรมการค้าต่างประเทศภายใต้กรอบ AFTA และ WTO และกรมวิชาการเกษตร โดยควรกำหนดให้แปรรูปมะพร้าวผลเป็นมะพร้าวขาวในโรงงานที่ขอนำเข้าเท่านั้น

2.ขอให้ออกมาตรการกำกับดูแลการขออนุญาตนำเข้ามะพร้าวและผลิตภัณฑ์นอกโควต้าภายใต้กรอบ WTO ซึ่งยังเป็นช่องว่างทางกฎหมายอยู่

3.ขอให้แต่งตั้งคณะทำงานตรวจสต๊อกมะพร้าวของผู้ที่ขอนำเข้าโดยมีตัวแทนเกษตรกรร่วมเป็นคณะทำงานก่อนที่จะพิจารณาอนุญาตให้มีการนำเข้า

4.หากมีความจำเป็นต้องนำเข้ามะพร้าวเพื่อรักษาเสถียรภาพราคามะพร้าวในประเทศ ต้องกำหนดเงื่อนไขการขอนำเข้าให้ชัดเจน เช่น กำหนดสัดส่วนการนำเข้าและต้องซื้อมะพร้าวภายในประเทศ

5.แต่งตั้งคณะทำงานประเมินผลผลิตมะพร้าวระดับจังหวัดทั่วประเทศเพื่อให้ได้ข้อมูลที่เป็นเอกภาพและเป็นที่ยอมรับของทุกฝ่าย โดยมีการประเมินผลทุก 3 เดือน

6.ควรมีการทบทวนห้วงเวลาที่อนุญาตให้นำเข้ามะพร้าวโดยต้องไม่ส่งผลกระทบต่อผลผลิตในประเทศ

7.ควรกำหนดให้มีการออกใบเคลื่อนย้ายมะพร้าวนำเข้าจากท่าเรือหรือด่านชายแดนที่นำเข้าไปยังโรงงานและสถานที่แปรรูป รวมทั้งใบเคลื่อนย้ายผลผลิตมะพร้าวภายในประเทศระหว่างจังหวัดต้นทางและปลายทางเพื่อป้องกันการลักลอบนำเข้า

8.ควรเพิ่มกำลังอัตราเจ้าหน้าที่ด่านศุลกากรและด่านกักกันโรคพืชให้เพียงพอและหน่วยงานตรวจสอบทางทะเลเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการตรวจสอบมะพร้าวลักลอบนำเข้า รวมทั้งจัดสรรงบประมาณจัดซื้อเครื่องมือตรวจสอบดีเอ็นเอมะพร้าว ตลอดจนกำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้มงวดตรวจสอบและปราบปรามมะพร้าวลักลอบนำเข้าทั้งทางบกและทางทะเลอย่างต่อเนื่อง

9.ส่งเสริมและจัดตั้งสถาบันเกษตรและวิสาหกิจชุมชนในการแปรรูปมะพร้าว

10.ขอให้ขยายเวลางดการนำเข้ามะพร้าวจากเดิมที่รัฐบาลกำหนดระยะเวลา 3 เดือนคือตั้งแต่เดือนสิงหาคม – ตุลาคม 2561

และ11.ขอให้คณะกรรมการพืชน้ำมันและน้ำมันพืช เร่งกำหนดมาตรการแก้ไขปัญหาราคามะพร้าวตกต่ำเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรในระยะเร่งด่วน

ทั้งนี้ เพื่อบรรเทาปัญหาความเดือดร้อนให้กับเกษตรกรในพื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งมีพื้นที่ปลูกมะพร้าวมากที่สุดในประเทศไทย