posttoday

ชาวบ้านไม่ไว้ใจ!ผวาสุนัขจรจัดเพิ่มจำนวนวอนเจ้าหน้าที่มาช่วยจับ

19 กันยายน 2561

นครศรีธรรมราช-ชาวบ้านผวาสุนัขจรจัดเพิ่มจำนวนหลังเกิดเหตุกัดเด็กหญิงอายุ19วันวอนเจ้าหน้าที่รัฐดำเนินการจับออกไปให้พ้นหมู่บ้าน

นครศรีธรรมราช-ชาวบ้านผวาสุนัขจรจัดเพิ่มจำนวนหลังเกิดเหตุกัดเด็กหญิงอายุ19วันวอนเจ้าหน้าที่รัฐดำเนินการจับออกไปให้พ้นหมู่บ้าน

ชาวบ้านหมู่ 2 ตำบลทางพูน อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นเพื่อนบ้านของเด็กหญิงกัญญาภัค หนูคง หนูน้อยวัย 19 วัน ซึ่งถูกสุนัขจรจัดป่วยเป็นโรคพิษสุนัขบ้ากัด จนได้รับบาดเจ็บสาหัสเมื่อวันที่ 5ก.ย.61ออกมาเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่เข้าควบคุมด้วยมาตรการเด็ดขาด โดยเฉพาะสุนัขฝูงเดียวกันกับสุนัขที่กัดเด็กซึ่งเป็นสุนัขจรจัดไม่มีเจ้าของ ตอนนี้เข้ามาเพิ่มอีกนับ 10 ตัว มานอนตามหน้าบ้านทั้งกลางวันและกลางคืน ทำให้ชาวบ้านหวาดผวากับสุนัขฝูงนี้มาก บางคนไม่กล้าออกจากบ้าน ไม่กล้าให้ลูกหลานวิ่งเล่นในหมู่บ้าน

นอกจากนั้นชาวบ้านยังได้เตรียมหนังสติ๊กตั้งไว้ใกล้ตัวตลอดเวลา เมื่อสุนัขจรจัดฝูงนี้เข้ามาในบริเวณบ้านก็จะยิงไล่ให้ออกจากบริเวณบ้านเพราะเกรงว่าจะไม่มีความปลอดภัย สิ่งที่ชาวบ้านต้องการมากที่สุดในตอนนี้คือ ขอให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้ามาดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งกับสุนัขฝูงนี้ หรือเอาออกไปให้พ้นจากหมู่บ้าน เพื่อคลายความกังวล แม้จะเข้ามาฉีดวัคซีนป้องกันแล้วแต่ยังมาป้วนเปี้ยนทั้งวันทั้งคืนจนไม่ต้องทำมาหากินกันแล้ว

ขณะที่นายสัตวแพทย์ เมษยน ขีวะเสรีชล หัวหน้ากลุ่มงานส่งเสริมสุขภาพสัตว์ สัตวแพทย์สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดนครศรีธรรมราช ระบุว่า สุนัขจรจัดที่ไม่มีเจ้าของจะต้องเข้าควบคุมเพื่อติดตามอาการเป็นระยะเวลา 6 เดือน และจะต้องเข้าไปเก็บเพื่อนำไปไว้ในพื้นที่ควบคุม ขอให้ประชาชนในพื้นที่เฝ้าติดตามพฤติกรรมสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม หากมีอาการดุร้าย ทำร้ายเจ้าของ หรือตายอย่างผิดปกติ ต้องแจ้งให้เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบเชื้อทันที

ส่วนด.ญ.กัญญาภัคหนูน้อยวัย 19 วัน หลังจากได้เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราชเป็นเวลา 15 วัน จนอาการปลอดภัยแพทย์ได้อนุญาตให้กลับมาพักฟื้นที่บ้านได้แต่ต้องอยู่ในที่ปลอดเชื้อ โดยน.ส.ธิดารัตน์ หมีเถื่อน แม่วัย 18 ปี จึงได้พา ด.ญ.กัญญาภัคฯ ไปอยู่ที่บ้านย่าของเด็กที่ ต.หินตก อ.ร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช เพราะไม่มั่นใจว่าในพื้นที่หมู่ 2 ต.ทางพูน อ.เฉลิมพระเกียรติ ยังมีเชื้ออีกหรือไม่.