แม่ยายขอคัดสำเนาศาลยกฟ้องอมสลาก12ล้านนำไปเป็นหลักฐานฟ้องกลับลูกเขยกับมารดา
บุรีรัมย์-เครือข่ายทวงคืนความยุติธรรมพาป้านิตย์ถูกกล่าวหาอมสลากฯ12ล้านคัดคำพิพากษาศาลยกฟ้องนำไปเป็นหลักฐานฟ้องลูกเขยและมารดาในข้อหาฟ้องเท็จและเบิกความเท็จ
บุรีรัมย์-เครือข่ายทวงคืนความยุติธรรมพาป้านิตย์ถูกกล่าวหาอมสลากฯ12ล้านคัดคำพิพากษาศาลยกฟ้องนำไปเป็นหลักฐานฟ้องลูกเขยและมารดาในข้อหาฟ้องเท็จและเบิกความเท็จ
เมื่อวันที่14 ก.ย.61 นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ทนายความในฐานะประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม นำนางมานิตย์ เต็มปักษี อายุ 44 ปี ชาวบ้านหนองไผ่ ต.เสาเดียว อ.หนองหงส์ จ.บุรีรัมย์ น.ส.สมศรี สายสมคุณ อายุ 21 ปี บุตรสาวคนโตของนางมานิตย์ และนางฉวีวรรณ ลูกจันทร์ อายุ 30 ปี หลานสาว ผู้ถูกลูกเขยวัย15ปีของนางมานิตย์ ฟ้องร้องข้อหายักยอกรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาล รางวัลที่ 1 หมายเลข 412073 งวดประจำวันที่ 1 เม.ย. 2561 จำนวน 2 ใบ เป็นเงินรางวัล 12 ล้านบาทไปที่ศาลจังหวัดนางรอง เพื่อขอคัดคำพิพากษาของศาลที่ได้ยกคำร้องในชั้นไต่สวนมูลฟ้อง เพื่อนำไปเป็นหลักฐานในการแจ้งความกลับข้อหาฟ้องเท็จและเบิกความเท็จ
นายรณรงค์ เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบหลักฐานต้นขั้วสลากชุดดังกล่าวที่ลูกเขยของป้ามานิตย์ อ้างว่าถูกรางวัลที่1พบว่าผู้ที่ไปขึ้นเงินรางวัลที่กองสลากฯมีภูมิลำเนาอยู่ที่จ.ลำปางส่วนกรณีที่ลูกเขยอ้างว่าลูกชายของป้าที่อยู่ จ.ภูเก็ตเป็นคนนำสลากไปขึ้นเงินก็ไม่เป็นความจริง เพราะป้ามานิตย์ ไม่ได้มีลูกหรือญาติพี่น้องอยู่จังหวัดภาคใต้ซึ่งจากข้อมูลหลักฐานไม่สามารถเชื่อมโยงว่าป้ามานิตย์เป็นคนยักยอกสลากฯ ตามที่ลูกเขยกล่าวอ้างที่สำคัญฝั่งของลูกเขยก็ไม่มีพยานหรือหลักฐานที่ยืนยันได้ว่าถูกลอตเตอรี่ตามที่กล่าวอ้างจริงประกอบกับศาลได้ยกคำร้องไปแล้วถือว่าป้าเป็นผู้บริสุทธิ์
"กรณีที่เกิดขึ้นทำให้ป้ามานิตย์ และครอบครัวต้องเดือดร้อน และถูกสังคมเข้าใจผิด จึงได้มาแจ้งความเอาผิดกับลูกเขย และมารดาของลูกเขย ฐานฟ้องเท็จ และเบิกความเท็จ และในวันพรุ่งนี้ก็จะเดินทางไปที่ สภ.หนองหงส์ และ สภ.ห้วยแถลง เพื่อแจ้งความเอาผิดกับลูกเขย และมารดา ในข้อหา “แจ้งความเท็จ และพรากผู้เยาว์”ด้วยซึ่งมั่นใจว่าหลักฐานที่มีจะสามารถเอาผิดกับคู่กรณีได้" นายรณรงค์ กล่าว