posttoday

ตัวเมืองกาญจน์เตรียมรับมือเขื่อนศรีฯเพิ่มการระบายน้ำแบบขั้นบันได

07 กันยายน 2561

กาญจนบุรี-เขื่อนศรีฯน้ำใกล้เต็มอ่างต้องปรับเพิ่มการระบายน้ำแบบขั้นบันไดอีก6ล้านลบ.ม.รวมเป็น28ล้านลบ.ม.เป็นครั้งแรกในรอบ6ปีเตือนตัวเมืองกาญจน์รับมือมวลน้ำก้อนแรกถึงตัวเมืองในอีก14ชม.

กาญจนบุรี-เขื่อนศรีฯน้ำใกล้เต็มอ่างต้องปรับเพิ่มการระบายน้ำแบบขั้นบันไดอีก6ล้านลบ.ม.รวมเป็น28ล้านลบ.ม.เป็นครั้งแรกในรอบ6ปีเตือนตัวเมืองกาญจน์รับมือมวลน้ำก้อนแรกถึงตัวเมืองในอีก14ชม.

เมื่อวันที่ 7ก.ย.61 เขื่อนศรีนครินทร์ อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี ได้ปรับเพิ่มการระบายน้ำผ่านเขื่อนท่าทุ่งนาอีกวันละ 6 ล้านลบ.ม. จากเดิมระบายวันละ22ล้าน ลบ.ม. เป็นวันละ 28 ล้านลบ.ม.เป็นวันแรก โดยเริ่มการระบายน้ำเพิ่มขึ้นตามแผนตั้งแต่เวลา 00.01น.ซึ่งจะเพิ่มการระบายแบบขั้นบันได โดยจะปรับเพิ่มวันละ 2 ล้าน ลบ.ม. และวันนี้มีแผนการระบายน้ำ 24 ล้าน ลบ.ม.

ส่วนวันพรุ่งนี้ (8ก.ย.61)ก็จะปรับเพิ่มขึ้นเป็น 26 ล้าน ลบ.ม. และวันถัดไปก็จะปรับเพิ่มขึ้นเป็น 28 ล้าน ลบ.ม. จากนั้นก็จะคงที่ไว้อยู่ที่ 28ล้านลบ.ม.ไปจนถึง 13 ก.ย.61 ซึ่งปริมาณน้ำที่ระบายเพิ่มขึ้นยังไม่เกินความจุของลำน้ำแควใหญ่ บริเวณบ้านหนองบัว อ.เมือง จ.กาญจนบุรี แต่อาจมีพื้นที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำบางแห่งได้รับผลกระทบจากระดับน้ำที่เอ่อสูงขึ้นจากระดับปัจจุบันอีกประมาณ 35 เซนติเมตร

นายประเสริฐ อินทับ ผู้อำนวยการเขื่อนศรีนครินทร์ (อขศ.) เปิดเผยว่า สถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำเขื่อนศรีนครินทร์ ปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 176.31 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง (ม.รทก.) เป็นปริมาณน้ำ 16,238.87 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 91.51% โดยวานนี้ (6 ก.ย.61) มีน้ำไหลเข้าอ่างเก็บน้ำเขื่อนศรีนครินทร์ 43.57 ล้านลูกบาศก์เมตร ทำให้ระดับน้ำเหนือเขื่อนอยู่ที่ระดับ 176.29 ม.รทก. เพิ่มขึ้นจากวันที่ 5 กันยายน 2561 (176.25 ม.รทก.) 4 เซนติเมตร และได้มีการระบายน้ำออกตามแผนการระบายน้ำ 26.71 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งเขื่อนศรีนครินทร์ยังมีพื้นที่รับน้ำได้อีก 1,514.06 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 8.53% และสำหรับเขื่อนท่าทุ่งนา ได้ระบายน้ำสอดคล้องกับแผนระบายน้ำของเขื่อนศรีนครินทร์ คือ ระบายน้ำวันละ 24 ล้าน ลบ.ม.

นายไววิทย์ แสงพานิชย์ ผู้อำนวยการเขื่อนวชิราลงกรณ (อขว.) เปิดเผยว่า สถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำเขื่อนวชิราลงกรณ ปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 153.94 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง (ม.รทก.) มีปริมาณน้ำในเขื่อน 8,453 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 95% มากกว่าเกณฑ์ควบคุม (URC) 2.10 ม. วานนี้ (6 ก.ย.61) มีน้ำไหลเข้าอ่างเก็บน้ำเขื่อนวชิราลงกรณ 77.76 ล้านลูกบาศก์เมตร ทำให้ระดับน้ำเหนือเขื่อนอยู่ที่ระดับ 153.94 ม.รทก. เพิ่มขึ้นจากวันที่ 5 กันยายน 2651 (153.89 ม.รทก.) 0.05 ม.รทก. และได้มีการระบายน้ำออกตามแผนการระบายน้ำ 57.89 ล้านลูกบาศก์เมตร (รวมระบายน้ำผ่านสปิลเวย์ 16.08 ล้าน ลบ.ม.แล้ว) ซึ่งอ่างเก็บน้ำเขื่อนวชิราลงกรณยังสามารถรับน้ำได้อีก 407 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 4.6% สำหรับการปรับเพิ่มการระบายน้ำเฉลี่ยเป็น 58 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน (โดยจะระบายผ่านช่องทางปกติ วันละ 43 ล้านลูกบาศก์เมตร และผ่านทางน้ำล้น (Spillway) วันละ 15 ล้านลูกบาศก์เมตร) วันนี้เข้าสู่วันที่ 4 และจะระบายต่อไปจนถึงวันที่ 10 กันยายน 2561 ซึ่งปริมาณน้ำที่ระบายเพิ่มขึ้นยังไม่เกินความจุของลำน้ำแควน้อยบริเวณ อำเภอทองผาภูมิ และ อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี แต่อาจมีพื้นที่ลุ่มต่ำ ริมแม่น้ำบางแห่งได้รับผลกระทบจากระดับน้ำที่เอ่อสูงขึ้นจากปัจจุบันประมาณ 50 ซม.

ส่วนสถานการณ์น้ำในลุ่มน้ำแควน้อย และแควใหญ่ พบว่า ที่สถานีวัดระดับน้ำในลำน้ำแควน้อย ที่สถานี K.10 บ้านลุ่มสุ่ม อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ซึ่งเป็นจุดเสี่ยงที่น้ำจะล้นตลิ่ง ปัจจุบันระดับน้ำอยู่ที่ 9.67 เมตร (ระดับตลิ่ง 10.30 ม.) ยังคงต่ำกว่าตลิ่ง -0.63 เมตร ที่สถานีวัดระดับน้ำในลำน้ำแควใหญ่ ที่สถานี K.35 A บ้านหนองบัว ต.หนองบัว อ.เมืองกาญจนบุรี ปัจจุบันระดับน้ำอยู่ที่ 4.68 เมตร (ระดับตลิ่ง 5.50 ม.) ยังคงต่ำกว่าตลิ่ง -0.82 เมตร ซึ่งโดยภาพรวมทั้งลำน้ำแควน้อยและแควใหญ่ปริมาณน้ำที่ทั้ง 2 เขื่อนระบายเพิ่มขึ้น ยังไม่ล้นตลิ่งแต่อย่างใด แต่จะมีเพียงพื้นที่ลุ่มต่ำตามแนวตลิ่งเท่านั้นที่ได้รับผลกระทบจากปริมาณน้ำที่เพิ่มขึ้นดังกล่าว อย่างไรก็ตามยังคงต้องเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เนื่องจากในพื้นที่ยังคงมีฝนตกอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะพื้นที่ตอนบนของจังหวัด

ส่วนระยะทางและระยะเวลาการเดินทางของน้ำที่ไหลจากเขื่อนศรีนครินทร์ไปตามลำน้ำแควใหญ่ไปจนถึงอำเภอเมืองกาญจนบุรี ซึ่งมีสถานีโทรมาตร กฟผ. 2 สถานี รวมระยะทางทางน้ำประมาณ 84.7 กม. ขณะที่เขื่อนท่าทุ่งนา บ้านท่าทุ่งนา หมู่ที่ 1 ตำบลช่องสะเดา อำเภอเมืองกาญจนบุรี มีระยะทางทางน้ำประมาณ 27 กม. จากเขื่อน และ สถานี TD 05 บ้านหนองบัว ต.หนองบัว อ.เมืองกาญจนบุรี มีระยะทางทางน้ำประมาณ 68.6 กม. จากเขื่อน และห่างจากเขื่อนท่าทุ่งนา 41.6 กม. TD 04 ท่าน้ำวัดไชยชุมพลชนะสงคราม (วัดใต้) ต.บ้านใต้ อ.เมืองกาญจนบุรี มีระยะทางทางน้ำประมาณ 84.7 กม. จากเขื่อน โดยห่างจากสถานีบ้านหนองบัว 16.08 กม. และห่างจากเขื่อนท่าทุ่งนา 57.7 กม. ซึ่งจากการคำนวณจะใช้เวลาประมาณ 14 ชม. มวลน้ำก้อนแรกจะไปถึงตัวเมืองกาญจนบุรี โดยมวลน้ำก้อนแระจากเขื่อนศรีฯ จะไปถึงเขื่อนท่าทุ่งนา ใช้เวลาประมาณ 5 ชม. และมวลน้ำก้อนแรกจากเขื่อนท่าทุ่งนา ไปถึงตัวเมืองกาญจนบุรี จะใช้เวลาประมาณ 9 ชม.

สำหรับเขื่อนศรีนครินทร์ เป็นเขื่อนประเภทหินถมแกนดินเหนียวที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย เปิดใช้งานมาเป็นระยะเวลา 37 ปี ซึ่งตลอดช่วงที่ผ่านมาไม่เคยระบายน้ำผ่านสปิลเวย์แต่อย่างใด โดยเมื่อวันที่ 6 พ.ย.2545 มีระดับกักเก็บสูงที่สุดอยู่ที่ 179.63 ม.รทก. จากระดับเก็บกักสูงสุด 180 ม.รทก. แต่ในขณะนั้นก็ยังระบายน้ำในปริมาณที่น้อยกว่านี้ สำหรับการระบายน้ำจำนวน 28 ล้าน.ลบ.ม./วัน เคยเกิดขึ้นเมื่อปี 2555 ซึ่งครั้งนี้ถือเป็นการระบายน้ำจำนวนดังกล่าวในรอบ 6 ปี

ทั้งนี้เขื่อนศรีนครินทร์ เคยระบายน้ำสูงสุดอยู่ที่ 29.24 ล้านลบ.ม.เมื่อวันที่ 15 ส.ค.2552 เนื่องจากขณะนั้นแหล่งผลิตก๊าซธรรมชาติบงกชในอ่าวไทยมีปัญหา ลดการผลิตลง 650 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน ขณะเดียวกัน แหล่งผลิตก๊าซธรรมชาติ ยาดานา ในสหภาพพม่า มีปัญหาเช่นกัน ทำให้ก๊าซหายไปอีก 1,100 ล้านลูกบาศก์ฟุต/วัน รวมทั้ง 2 แหล่ง หายไป 1,700 ล้านลูกบาศก์ฟุต/วัน หรือคิดเป็นกำลังผลิตรวม 10,000 เมกะวัตต์ เกินความสามารถของโรงไฟฟ้าพลังความร้อน เพื่อไม่ให้ไฟฟ้าดับ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยจึงให้โรงไฟฟ้าพลังน้ำหลายแห่งเดินเครื่องช่วยระบบ ซึ่งเขื่อนศรีนครินทร์ เป็น 1 ในแหล่งผลิตกระแสไฟฟ้าหลักที่สำคัญของประเทศ โดยครั้งนั้นส่งผลให้พื้นที่ท้ายน้ำในลุ่มน้ำแควใหญ่ สูงขึ้นกว่าเดิม 2 – 3 เมตร