posttoday

เขื่อนวชิราลงกรณมีน้ำสูงอพยพ70ครอบครัวจมท่วมไปวัดชั่วคราว

29 สิงหาคม 2561

กาญจนบุรี-สังขละบุรีขอใช้พื้นที่วัดวังก์วิเวการามรองรับชาวบ้าน70ครอบครัว หลังได้ผลกระทบจากปริมาณฝนตกหนักทำให้มีปริมาณน้ำเพิ่มมากขึ้นในเขื่อนวชิราลงกรณ

กาญจนบุรี-สังขละบุรีขอใช้พื้นที่วัดวังก์วิเวการามรองรับชาวบ้าน70ครอบครัว หลังได้ผลกระทบจากปริมาณฝนตกหนักทำให้มีปริมาณน้ำเพิ่มมากขึ้นในเขื่อนวชิราลงกรณ

นายวิชัย ชูอินทร์ ปลัดอาวุโส อ.สังขละบุรี พร้อมด้วยป้องกัน และบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดกาญจนบุรี พื้นที่บ้านวังกะหมู่ที่ 2 ต.หนองลู อ.สังขละบุรี เพื่อสำรวจผลกระทบจากระดับน้ำในเขื่อนวชิราลงกรณ พบว่ามีบ้านเรือนที่ปลูกอยู่ริมอ่างเก็บน้ำได้รับความเดือดร้อน130หลังคาเรือน ในจำนวนนี้มี 70 หลัง ที่ถูกน้ำท่วมจนไม่สามารถอยู่อาศัยต่อไปได้ โดยนายปกรณ์ กรรณวัลลี นอภ.สังขละบุรีได้เตรียมหารือกับวัดวังก์วิเวการามขอใช้พื้นที่วัดในการรองรับชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนไม่มีที่ไป เพื่อเป็นที่พักพิงชั่วคราว จนกว่าระดับน้ำจะลดลงและเข้าสู่ภาวะปกติ

ส่วนที่สะพานอุตตมานุสรณ์ หรือสะพานมอญ ล่าสุดระดับน้ำห่างจากพื้นสะพาน ประมาณ 2.30 เมตร เพิ่มขึ้นเฉลี่ยวันละ 20 เซนติเมตร ซึ่งเมื่อปี 2534 ปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำเขื่อนวชิราลงกรณ มีระดับกักเก็บสูงมาก จนส่งผลให้สะพานมอญถูกน้ำท่วมสูงประมาณ 50 เซนติเมตร ซึ่งไม่เคยปรากฏภาพเช่นนี้มาก่อน

ทั้งนี้ สาเหตุที่ระดับน้ำยังคงสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เกิดจากสภาพฝนในพื้นที่ อ.สังขละบุรี และบางส่วน อ.ทองผาภูมิจึงมีปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างอยู่ที่วันละ 90-100 ล้าน ลบ.ม. ขณะที่เขื่อนสามารถระบายน้ำเพียงวันละ 53 ล้าน ลบ.ม.จึงมีปริมาณน้ำที่สะสมในเขื่อนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดจากการข้อมูลของเขื่อนวชิราลงกรณ พบว่า ขณะนี้ มีปริมาณในเขื่อนที่ 8,254.35 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 93.16% ระดับน้ำอยู่ที่ 153.41 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง จากระดับกักเก็บสูงสุด 155 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง โดยวานนี้(29ส.ค.)มีปริมาณน้ำไหลเข้าอ่าง 86.70 ล้าน ลบ.ม. และระบายออก 52.28 ล้าน ลบ.ม.

ขณะที่พื้นที่ท้ายน้ำในลุ่มน้ำแควน้อย (อำเภอทองผาภูมิ – อำเภอไทรโยค – อำเภอเมืองกาญจนบุรี) พบว่า ระดับน้ำยังคงทรงตัว แต่จะต้องเฝ้าระวังพื้นที่ อ.ไทรโยค เป็นพิเศษ เนื่องจากมีลำน้ำสาขาทั้งลำห้วยแม่น้ำน้อย และลำห้วยบ่องตี้ ไหลเข้ามาสมทบ แต่ขณะนี้ระดับน้ำยังไม่ล้นตลิ่งแต่อย่างใด จะมีเพียงพื้นที่ลุ่มต่ำตามแนวตลิ่งเท่านั้นที่ได้รับผลกระทบ โดยส่วนใหญ่เป็นรีสอร์ท ซึ่งก่อนหน้านี้ผู้ประกอบการได้มีการเตรียมพร้อมขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูงไว้รองรับมือกับมวลน้ำจำนวนดังกล่าวแล้ว