posttoday

"พริตตี้สาวสอง"ร้องฉีดฟิลเลอร์คลินิกดังเมืองตรังทำหน้าพัง

19 สิงหาคม 2561

พริตตี้สาวประเภทสองร้องสื่อหลังฉีดฟิลเลอร์จากคลินิกดังในเมืองตรัง แต่กลับเกิดอาการแพ้รุนแรงจนหน้าเบี้ยว เผยเสียค่ารักษาไปแล้วกว่า 6หมื่นบาท

พริตตี้สาวประเภทสองร้องสื่อหลังฉีดฟิลเลอร์จากคลินิกดังในเมืองตรัง แต่กลับเกิดอาการแพ้รุนแรงจนหน้าเบี้ยว เผยเสียค่ารักษาไปแล้วกว่า 6หมื่นบาท

เมื่อวันที่ 19 ส.ค. นายเวชพงษ์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 34 ปี พริตตี้สาวประเภทสอง ชาวจังหวัดตรัง ได้เข้าร้องเรียนต่อสื่อมวลชนจังหวัดตรัง หลังเข้าฉีดสารฟิลเลอร์ที่คลินิกเสริมความงามแห่งหนึ่งใน จังหวัดตรังและได้เกิดอาการแพ้อย่างรุนแรงเนื่องจากฟิลเลอร์ที่คลินิกดังกล่าวใช้เป็นผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้มาตรฐาน

นายเวชพงษ์ กล่าวว่า ได้ไปฉีดสารฟิลเลอร์ จากคลินิกเสริมความงามแห่งหนึ่งของ จ.ตรัง เมื่อเดือนธันวาคม 2559 จนกระทั่งเมื่อเดือนมิถุนายน 2561 ที่ผ่านมา ได้เกิดอาการแพ้อย่างรุนแรง จนตาปิด ปากบวม และหน้าบิดเบี้ยวผิดรูป ซึ่งไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน จึงมั่นใจว่าแพ้สารที่คลินิกฉีดให้ เนื่องจากที่ผ่านมาเคยฉีดจากที่อื่นก็ไม่เคยแพ้มาก่อน

เมื่อได้สอบถามไปยังแพทย์เจ้าของคลินิคได้รับคำตอบว่า เป็นเรื่องปกติ กระทั่งเมื่อได้เข้ารักษากับแพทย์อีกหลายคน ต่างยืนยันว่ามีอาการแพ้ และอยู่ในภาวะติดเชื้อ ซึ่งเมื่อตนได้หาข้อมูลทางอินเทอร์เน็ต ก็พบว่า สารฟิลเลอร์ของคลินิกดังกล่าว เป็นผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้มาตรฐาน

ทั้งนี้ ตนมีอาการดังกล่าวเป็นระยะเวลา 27-28 วัน ต้องรักษาด้วยการฉีดและกินยา จนมีอาการเจ็บไปหมดทั้งตัว

"ที่ผ่านมาเคยติดต่อไปยังแพทย์เจ้าของคลินิกเสริมความงาม 1 ครั้ง และเพื่อนติดต่อให้อีก 1 ครั้ง แต่ก็ไม่มีความคืบหน้าใดๆ ถ้าถามว่าอยากจะฟ้องหรือไม่ ตอนแรกตอบเลยว่าไม่ ถ้าหากทุกวันนี้ทางคลินิกได้เข้ามาดูแลช่วยเหลือเต็มที่ แต่ที่ผ่านมากลับปฏิเสธความรับผิดชอบ และล่าสุดก็ต้องจ่ายค่ารักษาไป 6.7 หมื่นบาทแล้ว ดังนั้น จึงจำเป็นต้องออกมาร้องเรียนเพื่อเรียกร้องขอความเป็นธรรม"พริตตี้สาวประเภทสองกล่าว

นายเวชพงษ์ กล่าวว่า แพทย์ที่รักษาระบุว่า อาการดังกล่าวเกิดจากฟิลเลอร์ตกค้าง โดยแนวทางการรักษาก็คือ เอาหนองออก จนขณะนี้อาการเริ่มดีขึ้น หลังจากเกิดเหตุทำให้มีผลกระทบกับตนมาก เพราะไม่ได้ทำงานเลย ต้องนอนอยู่บ้านอย่างเดียว อีกทั้งยังไม่กล้าออกจากบ้าน

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากอาการที่ตนเองเป็นอยู่นั้น แพทย์ที่ จ.ตรัง ต่างไม่เคยเจอกันมาก่อนเลย โดยอาจต้องรักษาด้วยการผ่าตัด แต่ก็มีความเสี่ยงต่อความปลอดภัย และอาจมีผลข้างเคียง ซึ่งคาดว่าจะต้องเดินทางไปรักษาที่ กทม.

"อยากจะฝากบอกกับทุกๆ คนที่อยากสวยแล้วฉีดสารต่างๆว่า สามารถทำได้ แต่ต้องศึกษาให้เยอะ เพราะขนาดเราเคยเป็นที่ปรึกษาเรื่องความงามยังพลาดได้ โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ถ้าใช้แล้วสวยก็ดีไป แต่ถ้าทุกอย่างพังขึ้นมา ก็จะมีผลกระทบต่อตัวเรา ทั้งงาน ทั้งเงิน เหมือนอย่างเช่นตนที่ขณะนี้กำลังมีความเครียดมาก เพราะถ้ารักษาแล้วไม่เหมือนเดิมจะทำอย่างไร"พริตตี้สาวกล่าว