posttoday

"เขื่อนวชิราลงกรณ" ใกล้เต็มความจุเตรียมระบายน้ำเพิ่ม

19 สิงหาคม 2561

เขื่อนวชิราลงกรณ ใกล้เต็มความจุ เตรียมระบายน้ำผ่านสปิลเวย์อีกวันละ 10 ล้าน ลบ.ม. เตือนพื้นที่ท้ายน้ำรับมือ

เขื่อนวชิราลงกรณ ใกล้เต็มความจุ เตรียมระบายน้ำผ่านสปิลเวย์อีกวันละ 10 ล้าน ลบ.ม. เตือนพื้นที่ท้ายน้ำรับมือ

เมื่อวันที่ 19 ส.ค. นายไววิทย์ แสงพานิชย์ ผู้อำนวยการเขื่อนวชิราลงกรณ (อขว.) เปิดเผยว่า สถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำเขื่อนวชิราลงกรณ ซึ่งมีความจุอ่าง 8,860 ล้านลูกบาศก์เมตร ที่ระดับ 155 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง (ม.รทก.) โดยข้อมูล ณ วันที่ 19 ส.ค. 2561 เวลา 08.00 น. อยู่ที่ระดับ 152.60 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง มีปริมาณน้ำในเขื่อน 7,954.85 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 90% ซึ่งยังสามารถรับน้ำได้อีก 905.15 ล้านลูกบาศก์เมตร

ขณะที่วานนี้ (18 ส.ค.61) มีปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างเก็บน้ำ 104.97 ล้านลูกบาศก์เมตร และมีแนวโน้มว่าปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างเก็บน้ำจะเพิ่มขึ้น จากอิทธิพลลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรง และอิทธิพลของพายุ “เบบินคา” ซึ่งอาจจะทำให้ระดับน้ำในอ่างเก็บน้ำเพิ่มสูงขึ้น

จากประกาศศูนย์เฉพาะกิจติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำ กฟผ. ฉบับที่ 1/2561 เรื่อง แผนการพร่องน้ำในอ่างเก็บน้ำเขื่อน วชิราลงกรณ ประกาศ ณ วันที่ 17 ส.ค. 2561 ให้ปรับเพิ่มการระบายน้ำของเขื่อนวชิราลงกรณ โดยจะระบายน้ำตั้งแต่วันนี้ ไปจนถึงวันที่ 22 ส.ค. 2561 เฉลี่ย 43 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน และวันที่ 23-27 ส.ค. 2561 ระบายน้ำเฉลี่ย 53 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน (โดยจะระบายผ่านช่องทางปกติ วันละ 43 ล้านลูกบาศก์เมตร และผ่านทางน้ำล้น (Spillway) วันละ 10 ล้านลูกบาศก์เมตร)

ทั้งนี้ เขื่อนวชิราลงกรณ ได้แจ้งประสานงานให้กับผู้เกี่ยวข้องเพื่อเตรียมรับสถานการณ์ระบายน้ำที่จะเพิ่มขึ้นในช่วงดังกล่าว ขอยืนยันว่าสภาพตัวเขื่อนมีความมั่นคงแข็งแรงมีความปลอดภัยสูงโดยมีเจ้าหน้าที่ประจำตลอด 24 ชั่วโมง

อย่างไรก็ตามเขื่อนวชิราลงกรณได้ติดตามสถานการณ์อยู่ตลอดเวลา โดยมีการบริหารจัดการน้ำในอ่างให้อยู่ในเกณฑ์ที่สามารถควบคุมได้ หากสถานการณ์น้ำมีการเปลี่ยนแปลงหรือมีการปรับแผนระบายน้ำเขื่อนวชิราลงกรณจะแจ้งให้ทราบล่วงหน้าอีกครั้ง

ด้าน นายประเสริฐ อินทับ ผู้อำนวยการเขื่อนศรีนครินทร์ (อขศ.) จ.กาญจนบุรี เปิดเผยว่า สถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำเขื่อนศรีนครินทร์ ซึ่งมีความจุอ่างน้ำสูงสุดที่ 17,745 ล้านลูกบาศก์เมตร ที่ระดับ 180 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง (ม.รทก.) ปัจจุบัน (วันที่ 19 ส.ค. 2561 เวลา 08.00 น.) อยู่ที่ระดับ 174.87 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง เป็นปริมาณน้ำ 15,673.81 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 88% โดยมีแผนการระบายน้ำวันละ 23 ล้านลูกบาศก์เมตร

และในด้านสถานการณ์น้ำในปัจจุบันที่ประเทศไทยยังคงมีฝนตกอย่างต่อเนื่อง กับมีฝนตกหนักบางแห่ง รวมถึงในจังหวัดกาญจนบุรี โดยวานนี้ (18 ส.ค.61) มีน้ำไหลเข้าอ่างเก็บน้ำเขื่อนศรีนครินทร์ 63.75 ล้านลูกบาศก์เมตร และได้ระบายน้ำออกตามแผนการระบายน้ำ 24.08 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งตอนนี้ยังมีพื้นที่รับน้ำได้อีก 2,070.99 ล้านลูกบาศก์เมตร จึงทำให้มั่นใจได้ว่าอ่างเก็บน้ำเขื่อนศรีนครินทร์ยังคงสามารถรองรับปริมาณน้ำได้อีก โดยไม่เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงและปลอดภัยของตัวเขื่อน รวมไปถึงความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนชนด้านท้ายน้ำ

"เขื่อนวชิราลงกรณ" ใกล้เต็มความจุเตรียมระบายน้ำเพิ่ม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากศูนย์เฉพาะกิจติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำ กฟผ. ประกาศ แผนการพร่องน้ำในอ่างเก็บน้ำเขื่อนวชิราลงกรณ จากเดิมเฉลี่ย 43 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน จะเพิ่มการระบายผ่านทางน้ำล้น (Spillway) อีกวันละ 10 ล้านลูกบาศก์เมตร รวมเป็น 53 ล้าน ลบ.ม.ต่อวัน ซึ่งจะส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำแควน้อยเพิ่มสูงขึ้น

ดังนั้นประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำแควน้อย รวมทั้งผู้ประกอบการเรือแพ และรีสอร์ต ที่ตั้งอยู่ตามแนวตลิ่งตลอดสองฝั่งลำน้ำ ในพื้นที่ อ.ทองผาภูมิ อ.ไทรโยค และ อ.เมืองกาญจนบุรี ต่างเตรียมขนย้ายข้าวของขึ้นที่สูงเพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับปริมาณน้ำที่อาจจะเพิ่มขึ้นได้ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อป้องกันและลดความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้น

ขณะที่ อ.สังขละบุรี ซึ่งเป็นพื้นที่อ่างเก็บน้ำเหนือเขื่อนวชิราลงกรณ ยังคงมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้บ้านเรือนของราษฎร หมู่ที่ 2 และหมู่ที่ 3 ตำบลหนองลู อำเภอสังขละบุรี ที่ปลูกอยู่ในเขตพื้นที่น้ำท่วมของ กฟผ. ได้รับผลกระทบเพิ่มขึ้นทุกวันตามระดับน้ำที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะนี้มีมากกว่า 80 หลังคาเรือนแล้ว ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวเคยถูกน้ำท่วมครั้งล่าสุดเมื่อปี 2545

ส่วนระดับน้ำที่สะพานอุตตมานุสรณ์ หรือสะพานมอญ ล่าสุดมีระดับน้ำอยู่ห่างจากพื้นสะพานไม่ถึง 3 เมตรแล้ว ขณะที่วัดใต้น้ำ หรือวัดจมน้ำ คือวัดวังก์วิเวการาม(เดิม) ที่ฤดูแล้งน้ำจะลดลงจนนักท่องเที่ยวสามารถเดินลงไปเที่ยวชมได้ แต่ขณะนี้พบว่า กำแพงโบสถ์ปริ่มน้ำโผล่พ้นเหนือระดับน้ำอีกเพียง 50 ซม. ซึ่งกลายเป็นภาพที่สวยงามอีกแบบสำหรับนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวชม