พบต้นตอแล้ว!ศพชายถูกตัดคอทิ้งแม่น้ำแควน้อยเป็นชาวเมียนมา ตร.คาดพี่ภรรยาเป็นคนลงมือฆ่า

ผกก.ไทรโยค เผยคดีศพถูกฆ่าตัดคอทิ้งแม่น้ำแควน้อยเป็นแรงงานชาวเมียนมา คาดพี่ภรรยาผู้ตายเป็นคนลงมือหลังหลบหนีไป

จากกรณีพบศพชายไม่ทราบชื่อและสัญชาติ อายุระหว่าง 30-40 ปี ถูกตัดศรีษะและแขนทั้ง 2 ข้างขาดหายไปใน แม่น้ำแควน้อยเมื่อวันที่ 13 ส.ค.ที่ผ่านมา

ล่าสุดสุดเมื่อวันที่ 14 ส.ค. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าตรวจสอบ บ้านพักคนงานที่อยู่กลางสวนผลไม้ ติดกับแม่น้ำแควน้อย ในพื้นที่บ้านแก่งจอ หมู่ 4 ต.ไทรโยค อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี โดยเจ้าหน้าที่ได้นำเชือกมากั้นเอาไว้ เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปเพราะเกรงว่าจะเหยียบย่ำทำลายหลักฐาน จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ พบคราบเลือดติดอยู่ที่จอบ รวมทั้งผนังบ้าน ส่วนพื้นมีร่องรอยการทำความสะอาดและใช้ปูนเททับรอยคราบเลือดเอาไว้ นอกจากนี้ยังพบเศษผ้าถุงลายเดียวกันกับที่พบที่เอวของผู้เสียชีวิต เจ้าหน้าที่จึงเก็บเอาไว้เป็นหลักฐาน

เบื้องต้นทราบว่าบ้านพักหลังดังกล่าวมีคนงานกรีดยางพักอาศัยอยู่ด้วยกัน 2 คน คือ นายสุไข่ อายุ 40 ปี กับ นายนัย ซึ่งเป็นพี่ชายภรรยาของนายสุไข่ ซึ่งทั้งคู่เป็นแรงงานชาวเมียนมา โดยจากการสอบสวนเพื่อนบ้านได้ยืนยันกับเจ้าหน้าที่ว่า ศพผู้เสียชีวิตคือ นายสุไข่ เพราะจำรอยสักได้

เพื่อนบ้านระบุด้วยว่า เห็นนายสุไข่ ครั้งสุดท้ายเมื่อช่วงเย็นของวันศุกร์ที่ 10 ส.ค.ที่ผ่านมา และจากนั้นก็ไม่พบตัวอีกเลย ส่วน นายนัย ที่พักอยู่ด้วยกันก็ได้หายตัวไป แต่เพื่อนบ้านก็ไม่ได้เอะใจ เพราะต้องไปทำงาน

ด้าน พ.ต.อ.ธานี สงวนจีน ผกก.สภ.ไทรโยค เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนเพื่อคลี่คลายคดี จนกระทั่งพบจุดที่คาดว่าเป็นจุดที่คนร้ายใช้ลงมือก่อเหตุ ในพื้นที่บ้านแก่งจอ หมู่ 4 ต.ไทรโยค อ.ไทรโยค ซึ่งเป็นแนวเขตติดต่อกับพื้นที่ อ.ทองผาภูมิ เป็นเพิงพักของคนงานชาวทวาย ประเทศเมียนมา โดยเป็นคนงานชาย 2 คนพักอาศัยอยู่ด้วยกัน คือ นายสุไข่ ผู้ตาย และ นายนัย ซึ่งเป็นพี่ชายภรรยาของนายสุไข่

เบื้องต้นบุตรสาวของ นายสุไข่ ได้ยืนยันว่า ศพผู้ตายคือนายสุไข่ เนื่องจากจำรอยสักได้

เจ้าหน้าที่คาดว่า เหตุการณ์น่าจะเกิดช่วงกลางดึกของวันที่ 10 ส.ค.ที่ผ่านม โดยในช่วงนั้นมีฝนตกหนัก อาจชะล้างคราบเลือดออกไป แต่บริเวณที่เกิดเหตุพบคราบเลือดที่กระเซ็นอยู่ รวมทั้งที่บริเวณพื้น ขณะที่เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานได้ตรวจเก็บดีเอ็นเอ และพยานหลักฐานบริเวณที่เกิดเหตุเพื่อนำไปตรวจพิสูจน์ต่อไป

จากการสอบสวนพยานแวดล้อม ทราบว่า นายสุไข่ เป็นคนชอบดื่มสุราจนเมามาย และอาละวาดเป็นประจำ ส่วน นายนัย มีอาการทางประสาท จึงคาดว่าระหว่างดื่มเหล้าอาจเกิดมีปากเสียงกัน จนกระทั่ง นายนัย ลงมือก่อเหตุดังกล่าว แต่คาดว่าลงมือก่อเหตุด้วยอาการประสาท แต่ไม่น่าจะเป็นเรื่องของความโกรธแค้น ส่วน นายนัย ซึ่งตกเป็นผู้ต้องสงสัยยังอยู่ระหว่างการหลบหนี

ทั้งนี้คาดว่า นายนัย ลงมือก่อเหตุเพียงคนเดียว โดยใช้อาวุธมีดหรือจอบสับคอและมือ โดยเบื้องต้นเชื่อว่า นายนัย น่าจะยังอยู่ในประเทศไทย โดยได้ส่งชุดสืบสวนลงพื้นที่ตามจุดที่ นายนัย เคยทำงานและตามบ้านญาติ อย่างไรก็ตามจะได้ติดตามตัว นายนัย มาสอบสวนเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงของการลงมือก่อเหตุในครั้งนี้ต่อไป