posttoday

"ทำเต็มที่ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน" ณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร

05 สิงหาคม 2561

สัมภาษณ์พิเศษ "ณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร" ผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา กับหลักคิดในการทำงานที่ขอทำอย่างเต็มที่ในทุกวัน ทุกนาที และเชื่อว่าความสามัคคีจะทำให้ทุกอย่างสำเร็จได้ด้วยดี

สัมภาษณ์พิเศษ "ณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร" ผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา กับหลักคิดในการทำงานที่ขอทำอย่างเต็มที่ในทุกวัน ทุกนาที และเชื่อว่าความสามัคคีจะทำให้ทุกอย่างสำเร็จได้ด้วยดี

**************************

โดย...อักษรา ปิ่นนราสกุล

“สิบปีที่ผ่านมาของการทำงาน ผมไม่เคยลา ไม่เคยพัก หลักการคือทำเต็มที่ทุกนาทีไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน ณ เวลานี้ ผมแบกความคาดหวังของพี่น้องชาวพะเยาไว้จนล้นบ่า แต่ผมเชื่อว่าสิ่งต่างๆ ที่คาดหวังจะสำเร็จถ้าเราสามัคคีกัน”

ชื่อของ “ณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร” ผวจ.พะเยา อดีตผู้บัญชาการศูนย์อำนวยการร่วมค้นหาผู้สูญหายถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน จากเหตุการณ์ช่วยเหลือ 13 ชีวิต ทีมหมูป่าอะคาเดมี่ จากถ้ำหลวง จ.เชียงราย เมื่อยังดำรงตำแหน่ง ผวจ.เชียงราย นับว่าได้กุมหัวใจของคนไทย และได้รับคำชื่นชมในระดับโลกไปแล้ว

18 วัน ที่ได้นำทุกฝ่ายร่วมปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือทีมหมูป่าจนลุล่วง ผลสำเร็จไม่ใช่จากโชคช่วย แต่ล้วนจากความพยายามและทุ่มเท

“ผมมีหลักการทำงานง่ายๆ ว่า ไม่ว่าจะทำงานอยู่กรมที่ดินฯ หรือเวลาใด ผมมีหลักการทำงาน คือ อยู่ตรงไหนทำเต็มที่ทุกนาที เหมือนที่หลายคนบอกว่า ไปดูประวัติผม สิบปีไม่เคยลาไม่เคยหยุดเลย ก็ทำงานทุกจุด มาอยู่พะเยา มาเป็น ผู้ว่าฯ พะเยาก็เต็มที่ ประชุมกำนันผู้ใหญ่บ้านไปครบทั้งจังหวัดแล้ว ได้มีโอกาสไปกราบพระคุณเจ้าที่เป็นผู้บริหารพระของทั้ง จ.พะเยา และไปให้นโยบายฝากพระคุณเจ้าเทศน์ธรรมะกับชาวบ้านให้ ว่าบ้าน วัด โรงเรียน (บ ว ร) ควรมีความสัมพันธ์กัน”

ในฐานะผู้นำระดับท้องถิ่น ซึ่งทุ่มเททำให้การปฏิบัติภารกิจที่ทุกฝ่ายเห็นตรงกันว่าเป็น Mission Impossible กลับกลายเป็นภารกิจที่โลกประทับใจและจดจำ แน่นอนว่าคนพะเยาย่อมคาดหวังถึงผลงานของเขาต่อจังหวัดเล็กๆ แห่งนี้

“ผมก็ทำเต็มที่ทุกวัน ทุกนาที แต่ผมจะทำให้ได้สมกับที่พี่น้องชาวพะเยาคาดหวังหรือเปล่า เป็นอีกเรื่องหนึ่ง เพราะว่าการทำงานทั้งหมดในชีวิตจริงแล้วไม่มีพระเอก ในชีวิตจริงทุกคนต้องร่วมมือกัน ต้องสามัคคีและต้องทำร่วมกันทั้งหมด ต้องซัพพอร์ต เล่นดนตรีเป็นวงเดียวกัน ไม่ใช่เล่นดนตรีคนละวง หรือคนนี้พายอีกคน เอามือพายทวน อย่างนี้ไม่ได้ ถ้าเล่นคนละคีย์มันก็ไม่มีหลัก เพราะถ้าเราเล่นข้าราชการ เอกชน ทุกอย่างเล่นเป็นคีย์เดียวกัน อันนี้ก็ต้องบอกว่า ผมก็แบกโหลดหนักขึ้นในความคาดหวังต่างๆ ก็ไม่รู้จะตอบอย่างไร แต่ขอกราบเรียนจริงๆ ว่า ผมโตขึ้นมาทำงานมา อยู่ที่ไหนตั้งใจทำงานทุกวัน ทุกนาที ไม่เคยทิ้งพื้นที่”

หลังจากที่มาดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา ณรงค์ศักดิ์ได้มองเรื่องการพัฒนา จ.พะเยา ในด้านต่างๆ อาทิ 1.การเปิดด่านถาวรบ้านฮวก 2.การพัฒนากว๊านพะเยา 3.การพัฒนาแหล่งน้ำ 4.การเกษตรอินทรีย์ และ 5.การส่งเสริมการท่องเที่ยว

แนวทางการพัฒนา จ.พะเยา ของ “ณรงค์ศักดิ์” ด้านแรก “ด่านบ้านฮวก” เพียงครึ่งเดือนชาวพะเยาก็ได้รับข่าวดีในวันที่ 31 ก.ค.ที่ผ่านมา ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติยกระดับจุดผ่อนปรนบ้านฮวก ต.ภูซาง อ.ภูซาง จ.พะเยา เป็นจุดผ่านแดนถาวร สามารถเรียกได้ว่า “ด่านชายแดนถาวรบ้านฮวก” อย่างเต็มที่แล้ว และขั้นตอนต่อไปนี้ผู้ว่าฯ ณรงค์ศักดิ์ก็ได้กำกับดูแลให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนดำเนินการตามขั้นตอนและคำแนะนำของรัฐบาลอย่างจริงจัง

ไม่เพียงมุ่งมั่นทำงานเต็มที่ทุกที่ ทุกเวลาดังหลักการที่มีอยู่แล้วเท่านั้น แต่ผู้ว่าฯ ณรงค์ศักดิ์ยังฝากความหวังถึงคนพะเยา ว่า “ผมอยากให้คนพะเยา 1.กินอิ่ม นอนหลับ 2.เป็นจิตอาสาเพื่อทำสาธารณประโยชน์เพื่อบ้านเมือง ช่วยกันทำบ้านเมืองให้สะอาด โดยใช้กลไกจิตอาสานำมาเป็นกลไก เพื่อสุขภาพแข็งแรงทุกคน 3.ขอให้ทุกหมู่บ้าน ทุกชุมชน ร่วมกันสกัดกั้นและป้องกันภัยจากยาเสพติด ไม่ให้เป็นหมู่บ้านสีแดง ไม่ให้ยาเสพติดเข้ามาได้ ช่วยกันทำให้เป็นหมู่บ้านสีขาวให้ได้ และ 4.ความรักและความสามัคคีที่จะทำให้นำพาทุกปัญหา อุปสรรค ได้รับการแก้ไขและผ่านพ้นไปได้ด้วยดี”

“แต่ความคาดหวังก็ต้องบอกพี่น้องชาวพะเยาเหมือนกันว่า ความคาดหวังที่สูงมากผมก็แบกล้นเหมือนกัน เพราะฉะนั้นขอให้พวกเราช่วยกันและเชื่อว่าสิ่งต่างๆ ที่คาดหวังน่าจะทำสำเร็จถ้าเราสามัคคีกัน”

ข้าราชการในดวงใจของคนไทย กล่าวย้ำทิ้งท้าย ทุกความสำเร็จเพราะความสามัคคี

"ทำเต็มที่ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน" ณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร

ผู้บังคับบัญชาต้องอยู่หน้างาน

“มีสื่อมวลชนคนหนึ่งถามผมว่า ทำไมน้องเขาหายไป แล้ววันนั้นผู้ว่าฯ รู้ตอนเที่ยงคืนทำไมต้องไปอยู่หน้างานตั้งแต่ตี 1 ผมบอกทุกคนคาดหวังว่า ผู้บังคับบัญชาหรือใครสักคนหนึ่งต้องอยู่หน้างาน เพื่อบัญชาการหรือเพื่อคอยช่วยเคลียร์ต่างๆ ถ้าไม่มีระดับผู้บังคับบัญชาอยู่ วันแรกจะระดมพลได้ไหม ไม่มีทาง

ผมได้ติดตาม รับฟัง ทุกข้อมูลหน้างานจากทุกหน่วยงานที่ปฏิบัติภารกิจด้านต่างๆ วิเคราะห์และตัดสินใจทุกสถานการณ์ ท่ามกลางความกดดันในช่วง 2-3 วันแรก เพราะมีฝนตกหนักน้ำไหลเข้าถ้ำหลวงไม่หยุด การค้นหาผู้สูญหายยังไม่พบ แต่ทุกคนมีความหวัง

ปัญหาหน้างานทุกวันทุกคนทราบดีว่าวุ่นวาย แต่ทุกกลไกเรารู้หน้าที่ รู้บทบาท ทุกคนมีความตั้งใจที่ไปช่วย พระเอกตัวจริงคือคนที่แบกท่อ แบกปั๊มน้ำ แบกสายไฟ แบกถังออกซิเจนเข้าไปในถ้ำ เพราะทั้งแคบ ทั้งลุยน้ำ แม้คนดำน้ำไม่ค่อยจะเก่งก็เข้าไป ก็ต้องเสี่ยง วันหนึ่งการเดินเข้า-ออก ผมว่าทั้งวันเป็น 2,000-3,000 คน ถ้าไม่มีท่อ ไม่มีปั๊มน้ำ ไม่มีสายไฟเข้าไป ก็ไม่มีทางเอาชนะน้ำได้ โดยเฉพาะชุดดำน้ำ 13 คน ที่ดำน้ำเข้าไปช่วยน้องๆ ทั้ง 13 คน ออกมา นั่นคือพระเอกตัวจริง แต่เบื้องหลังจริงๆ ถ้าขาดซึ่งคนที่เข้าไปวางกลไกต่างๆ ในนั้น ความสำเร็จคงไม่เกิดขึ้น ผมเชื่อว่าทุกคนจะจดจำความสำเร็จในครั้งนี้เป็นความภาคภูมิใจ

น้ำในถ้ำเย็นเกินไป อุปกรณ์ที่เรามีอยู่ไม่เพียงพอ ขณะนั้นจากสภาพที่อยู่ข้างหน้า ในฐานะผู้บัญชาการฯ ยอมรับว่าทรัพยากรที่มีอยู่ในเชียงราย ณ เวลานั้น ไม่สามารถที่จะปฏิบัติงานได้ก็เลยร้องขอหน่วยต่างๆ หลังจากนั้นก็เป็นไปตามข่าว มีหน่วยงานต่างๆ จากจังหวัดข้างเคียงเข้ามาช่วย สุดท้ายก็มาจากทั่วทั้งโลก แล้วเราก็ประสบความสำเร็จ

ในเบื้องหลัง ผมเชื่อว่าทุกคนที่ปฏิบัติงาน จะรู้แก่ตัว รู้แก่ใจดีว่าวันนั้นเราทำอะไร บริบทของทุกคน ไม่ว่าจะไปทำอะไรที่นั่น เรามีความภาคภูมิใจที่เราเป็นกลไกส่วนหนึ่งที่ทำให้งานสำเร็จ นอกจากกู้ภัยใน จ.พะเยา แล้ว ยังมีหน่วยงานทหาร ตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) ช่วยเราทุกเรื่อง ทั้งโรยตัวค้นหา ทั้ง ฮ. (เฮลิคอปเตอร์) นอกจากนี้ยังมีหน่วยอุทยานที่มีส่วนช่วยที่ดีที่สุด คือ ป้องกันไม่ให้น้ำเข้าไปที่นั่น เป็นสิ่งที่ประสบความสำเร็จ น้ำไม่เข้าไปวันละ 2 หมื่นกว่าลูกบาศก์เมตร

ไม่เฉพาะเจ้าหน้าที่จากพะเยาที่ไปช่วยงาน แต่ผมเห็นชาวพะเยาจากรถยนต์ทะเบียนพะเยานำของไปส่ง ทั้งผักสด เนื้อสัตว์ อาหารสำเร็จรูปไปส่งที่โป่งผาทุกวัน

ด้วยกำลังใจจากทุกคน ด้วยความช่วยเหลือจากทุกคน ทำให้เราทำภารกิจนี้สำเร็จ”