posttoday

ตร.คุมมือปืนทำแผนยิงส.ต.ท.ดับกรณีช่วยเพื่อนถูกขับปาดหน้า

20 กรกฎาคม 2561

ชุมพร-ตำรวจคุมมือปืนไปทำแผยยิงส.ต.ท.ดับยอมรับตัดสินใจพลาดไม่ทันนึกให้ดีก่อนลั่นไกช่วยเพื่อนถูกขับรถปาดหน้า

ชุมพร-ตำรวจคุมมือปืนไปทำแผยยิงส.ต.ท.ดับยอมรับตัดสินใจพลาดไม่ทันนึกให้ดีก่อนลั่นไกช่วยเพื่อนถูกขับรถปาดหน้า

เมื่อวันที่ 20ก.ค.61 พล.ต.ท.สรศักดิ์ เย็นเปรม ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 พล.ต.ต.สนธิชัย อาวัฒนกุลเทพ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด พ.ต.อ.ธงชัย นุ้ยเจริญ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองชุมพร พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 40 นาย คุมตัวนายกิตติพงษ์ หรือรักษ์ พิทักษ์สุข อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 510/109 ม.8 ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.ชุมพร ผู้ต้องหายิงส.ต.ท.พยุงศักดิ์ ใหม่ดี ตำแหน่ง ผบ.หมู่ กก.2 บก.ปส.4 เสียชีวิต ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 15ก.ค.61 หน้าสถานีขนส่งชุมพรเมืองใหม่ใกล้สี่แยกปฐมพร

คดีนี้เกิดขึ้นเนื่องมาจาก ส.ต.ท.พยุงศักดิ์ ผู้ตายนั่งมากับรถเก๋ง ฮอนด้า รุ่นซิตี้ สีดำ  กฉ 2283 นครศรีธรรมราช โดยมีนายชารัฐ บุญชู เป็นคนขับ ขณะขับผ่านสะพานข้ามแม่น้ำหลังสวนได้ขับปาดหน้ารถกระบะ ยี่ห้ออีซูซุ หมายเลขทะเบียน กข.8698 ชุมพร ซึ่งมีนายมีศักดิ์ หรือ ตั้ม สุภาธนกิจ เป็นคนขับและทำให้เกิดความไม่พอใจ บีบแตรเสียงดังยาว 1 นาที  และขับประกบ นายมีศักดิ์ได้โทรศัพท์หานายกิตติพงษ์ มือปืนให้ออกมาช่วย  
เมื่อเดินทางมาถึงที่เกิดเหตุ นายมีศักดิ์  ได้ขับประกบเบียดปาดหน้า และตะโกนให้จอดนายชารัฐหยุดรถนายมีศักดิ์เดินตรงเข้ามาเคาะให้เปิดกระจกรถแล้วชกต่อยกับนายชานัฐ

ขณะนั้นส.ต.ท.พยุงศักดิ์ เห็นท่าไม่ดีจึงลงจากรถเพื่อขอเจรจา ขณะเดียวกันนายกิตติพงษ์มือปืน ขับรถเก๋ง นิสสัน หมายเลขทะเบียน กร 7959 สุราษฎร์ธานี มาจอดปิดท้ายที่เกิดเหตุเห็น ส.ต.ท.พยุงศักดิ์  ผู้เสียชีวิต เปิดประตูออกมาจากที่นั่งคู่คนขับจึงหยิบปืนลูกซองสั้นไทยประดิษฐ์ ยิง ส.ต.ท.พยุงศักดิ์  1 นัด ก่อนขับรถหลบหนีไป กระทั่งถูกจับได้ และเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา

พล.ต.ท.สรศักดิ์ ให้ความเห็นว่า คดีนี้ ไม่น่าเกิดขึ้น และไม่น่าจะเกิดความสูญเสีย เพราะเป็นเรื่องเพียงเล็กน้อย ระหว่างการนำตัวผู้ต้องหา มาสอบสวนเพิ่มเติม ได้ถามนายกิตติพงษ์ มือปืนว่า  ถ้าเพื่อนโทรมาขอความช่วยเหลือแล้วให้คำปรึกษาในทางที่ดี ให้ใจเย็นๆ ค่อยๆพูดค่อยจากัน ให้นึกถูกลูกถึงเมียทุกอย่างก็จะดีขึ้น ซึ่งนายกิตติพงษ์ ก็ยอมรับว่าตัดสินใจผิดพลาด.