posttoday

ศาลฎีกาพิพากษาคดีตำรวจยิงหนุ่มวิศวกรดับจำคุก7ปี6เดือน

17 กรกฎาคม 2561

สกลนคร-ศาลฎีกาจำคุกตำรวจยิงหนุ่มวิศวกรกรเสียชีวิตเป็นเวลา7ปี6เดือน พ่อแม่ดีใจหลังต่อสู้มานานตั้งแต่ปี55ขอบคุณความยุติธรรมลูกชายบริสุทธิ์ไม่เกี่ยวข้องยาเสพติด

สกลนคร-ศาลฎีกาจำคุกตำรวจยิงหนุ่มวิศวกรกรเสียชีวิตเป็นเวลา7ปี6เดือน พ่อแม่ดีใจหลังต่อสู้มานานตั้งแต่ปี55ขอบคุณความยุติธรรมลูกชายบริสุทธิ์ไม่เกี่ยวข้องยาเสพติด

เมื่อวันที่ 17ก.ค.61ที่ศาลจังหวัดสกลนคร ศาลได้ออกนั่งบัลลังก์อ่านคำพิพากษาศาลฎีกา ในคดีฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน เลขที่ดำ อ.2426/55 เลขแดงที่ 700/58 ระหว่างนายส่งเสริม แสงฤทธิ์ พร้อมพวกรวม 4 คน พ่อของนายไพโรจน์ แสงฤทธิ์ หนุ่มวิศวกรที่ถูกยิงเสียชีวิต เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง ดาบตำรวจสิทธิกุล กาติวงศ์ จำเลยที่ 1 กับพวก 6 คน ในข้อหาความผิดต่อชีวิต ความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ และตำแหน่งหน้าที่ในการยุติธรรม ความผิดหมิ่นประมาท ความผิดต่อประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา  โดยศาลอ่านคำพิพากษายืนตามศาลอุธรณ์ ไม่ลดโทษให้จำเลยที่ 1 สั่งจำคุก ดาบตำรวจสิทธิกุลรวม 7 ปี 6 เดือน ไม่รอลงอาญา ส่วนจำเลยที่เหลืออีก 5 คน มีการอ่านคำพิพากษาคำยกฟ้อง

ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 27ธ.ค.54 เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.พรรณนานิคม จังหวัดสกลนคร ใช้อาวุธปืนยิงไปที่รถยนต์ที่นายไพโรจน์ แสงฤทธิ์ วิศวกรหนุ่มเป็นผู้ขับ และมีผู้โดยสารข้างในรถอีก 2 คน เหตุเกิดบริเวณใกล้มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตสกลนคร กระสุนปืนได้ทะลุเข้าสู่ในรถยนต์ทะลุหลังหูซ้ายผ่านกล้ามเนื้อบริเวณลำคอด้านซ้ายของนายไพโรจน์จนถึงแก่ความตาย ส่วนผู้โดยสารอีก 2 คนรอดชีวิต ภายหลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้อ้างว่าเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยชอบตามกฎหมาย เนื่องจากนายไพโรจน์ที่ถูกยิงเสียชีวิตมียาเสพติดไว้ในครอบครอง และได้ทำการต่อสู้ขัดขวางและพยายามฆ่าขณะปฏิบัติหน้าที่

ญาติของผู้เสียชีวิตและผู้รอดชีวิตยืนยันว่าผู้ตายไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับยาเสพติด และไม่มีอาวุธ ไม่ได้ต่อสู้ขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และกล่าวว่าภายหลังที่ผู้ตายเสียชีวิตได้มีการพยายามซุกซ่อนยาเสพติดไว้ที่ศพของผู้ตาย เพื่อใช้เป็นหลักฐานในการกล่าวโทษผู้ตาย จึงยื่นฟ้องเมื่้อวันที่ 4 ธ.ค.55 มีการต่อสู้คดีเรื่อยมาจนถึงศาลฎีกา และนัดอ่านคำพิพากษาวันนี้

ด้านนายรัชฎา มนูรัชฎา กรรมการสิทธิมนุษยชน สภาทนายความ ในฐานะทนายความฝ่ายโจทก์ กล่าวว่า วันนี้ศาลฎีกาได้ออกนั่งบัลลังก์ อ่านคำพิพากษาในดคีนี้ โดยได้ให้ความเป็นธรรมให้แก่ผู้ตาย และญาติผู้ตาย ที่ต่อสู้มายาวนานถึงความบริสุทธิ์ของผู้ตาย กว่า 6 ปี ซึ่งถือเป็นการสร้างบรรทัดฐานว่า การที่เจ้าหน้าที่รัฐผู้ปฏิบัติงานของผู้มีอำนาจที่ละเมิดผู้อื่นทั้งการยัดเยียดคดีต่างๆไม่ให้เกิดความเป็นธรรมต่อผู้ตายและครอบครัว ที่ต่อสู้อย่างเต็มที่โดยสภาทนายความได้เข้ามาให้การช่วยเหลือในครั้งนี้ จนกระทั้งศาลท่านได้ตัดสินว่าฝ่ายผู้ตายและฝ่ายโจทก์ เป็นฝ่ายถูกกระทำ ส่วนฝ่ายจำเลยก็ต้องรับโทษผลแห่งการกระทำต่อไป ส่วนแนวทางต่อไปคือการดำเนินการในส่วนของการดำเนินการทางแพ่ง เรียกร้องค่าเสียหายต่อไป

ด้านนางเดือนไส แสงฤทธิ์ แม่ของหนุ่มวิศวกรที่ถูกยิงเสียชีวิต กล่าวเพียงสั้นๆ ว่ารู้สึกดีใจที่สามารถต่อสู้สร้างความเป็นธรรมให้แก่ลูกชายจนสำเร็จ เพราะลูกชายและครอบครัวไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับยาเสพติดตามที่ถูกเจ้าหน้าที่ใส่ความ วันนี้ยินดีและดีใจลูกชายก็ได้ตายอย่างสงบสักที