posttoday

นครฯเร่งช่วยเกษตรแก้ราคาปลาดุกตกต่ำหาตลาดเพิ่มมูลค่าสินค้า

07 กรกฎาคม 2561

นครศรีธรรมราช-กลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงปลาดุกเดือดร้อนราคาตกต่ำ จังหวัดเร่งหาช่องทางการตลาดและเพิ่มมูลค่าสินค้า ชี้การเลี้ยงด้วยอาหารเม็ดทำให้มีต้นทุนสูง

นครศรีธรรมราช-กลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงปลาดุกเดือดร้อนราคาตกต่ำ จังหวัดเร่งหาช่องทางการตลาดและเพิ่มมูลค่าสินค้า ชี้การเลี้ยงด้วยอาหารเม็ดทำให้มีต้นทุนสูง

กลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงปลาดุกในจังหวัดนครศรีธรรมราช กำลังประสบปัญหาราคาปลาดุกตกต่ำ โดยราคาปลาดุกขนาดกลางหน้าฟาร์มปัจจุบันอยู่ที่ กก.ละ 38 บาท จากเดิม กก.ละ 45 บาท
นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ระบุว่า ปัญหานี้ปัจจัยมาจากหลายสาเหตุ เช่น ช่องทางการจำหน่ายหรือตลาดปลาดุกค่อนข้างมีน้อย อาหารปลาดุกมีราคาเพิ่มสูงขึ้น ที่สำคัญมีการนำเข้าปลาดุกจากประเทศมาเลเซียและจังหวัดภาคกลางเพราะราคาถูกกว่า ได้ขอให้พาณิชย์จังหวัดหาตลาดเพิ่มเติม ทั้งตลาดปลาสดมีชีวิต และปลาแปรรูปต่างๆเพื่อเพิ่มมูลค่าให้เกษตรกรรวมกลุ่มกันในลักษณะเกษตรแปลงใหญ่เพื่อขอสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำจาก ธ.ก.ส.

นอกจากนี้ ขอความร่วมมือจากภาคเอกชนรายใหญ่ในพื้นที่ลดกำลังการผลิต และลดปริมาณการจำหน่ายปลาดุกในพื้นที่ลง เพื่อให้เกษตรกรรายย่อยสามารถขายปลาได้มากขึ้น ที่ต้องแก้ไขด่วนคือหาทางลดการนำเข้าจากประเทศเพื่อนบ้าน และแนะนำให้เกษตรกรพัฒนาการเลี้ยงปลาดุกให้ได้มาตรฐาน และมีคุณภาพมากขึ้น รวมทั้งขอให้เกษตรกรได้ปรับเปลี่ยนการเลี้ยงปลาดุกไปเลี้ยงปูทะเลแทน เป็นต้น

นายพรศักดิ์ ศักดิ์ธานี ประมงจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวว่า จังหวัดนครศรีธรรมราช มีเกษตรกรเลี้ยงปลาดุกกระจายทั้ง 23 อำเภอ แต่อำเภอที่เลี้ยงมากที่สุด 6 อันดับแรก ได้แก่ อ.ปากพนัง อ.ท่าศาลา อ.หัวไทร อ.สิชล อ.เมือง และอ.ชะอวด แต่เกษตรกรส่วนใหญ่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนเกษตรกรด้านการประมง โดยอ้างว่าเมื่อเกิดภัยพิบัติได้รับการชดเชยน้อยไม่คุ้มค่ากับเงินทุนที่ลงไป ทำให้ไม่มีฐานข้อมูลและผลผลิต

นอกจากนั้นระบบการผลิตปลาดุกของเกษตรกร ไม่มีการผลิตตามระบบมาตรฐานการปฏิบัติทางการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำที่ดี หรือ GAP ปัจจุบันมีเกษตรกรในจังหวัดขึ้นทะเบียนจำนวน 2,176 ราย 2,180 ฟาร์ม พื้นที่เลี้ยง 1,686 ไร่เศษ สาเหตุที่ต้นทุนการเลี้ยงปลาดุกสูงกว่าจังหวัดอื่น เพราะใช้อาหารเม็ด